Posted on

ทำความรู้จักกับ Michelin Guide เหตุผลที่ทำให้ Restaurant Michelin Guide เป็นที่นิยมของนักชิม

Michelin Guide

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ทำความรู้จักกับ Michelin Guide เหตุผลที่ทำให้ Restaurant Michelin Guide เป็นที่นิยมของนักชิม

Michelin Guide” เป็นรางวัลที่นักชิมหลายๆ คนน่าจะรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะว่ารางวัล Michelin Guide นั้นเป็นรางวัลที่สามารถการันตีได้ถึงคุณภาพ และมาตรฐานของร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร ขั้นตอนในการปรุงอาหาร การนำเสนอเมนูอาหาร ความคุ้มค่าของราคา หรือการบริการลูกค้า ที่จะต้องผ่านหลักเกณฑ์การประเมินอย่างเข้มงวดจากผู้ประเมิน Restaurant Michelin Guide ถึงจะได้รางวัล Michelin Guide มาครอบครอง และถ้าหากยิ่งร้านอาหารร้านไหนได้รับติดต่อกันหลายปี ก็สามารถการันตีได้ถึงความการรักษาคุณภาพ และมาตรฐานที่ดีเยี่ยม ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพานักชิมไปทำความรู้จักกับ Michelin Guide ว่าคืออะไร มีหลักเกณฑ์การประเมินอย่างไร และใครเป็นผู้ประเมิน เหตุผลที่ทำให้ Restaurant Michelin Guide เป็นที่นิยมของนักชิมกันอย่างแพร่หลาย พร้อมแนะนำ “Royal Osha” ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่มาพร้อมกับรางวัล Michelin Guide ที่การันตีมามากถึง 6 ปีซ้อน ที่เหล่านักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องห้ามพลาด

1. Michelin Guide คืออะไร? ทำไมนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติถึงนิยมเลือกรับประทาน Restaurant Michelin Guide

Michelin Guide

Michelin Guide คือ หนังสือคู่มือในการเดินทาง หรือ Guide Book ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัทยางรถยนต์จากฝรั่งเศสอย่าง Michelin ที่ภายในหนังสือนั้นจะมีข้อมูลของการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารต่างๆ ที่ควรค่าแก่การแวะชิม เมื่อได้เดินทางผ่านในเส้นทางๆ นั้นๆ โดยเฉพาะร้านอาหารที่จะมีการรีวิวสั้นๆ และมีการจัดอันดับด้วยการใส่สัญลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรูหรา, Fine Dining, Street Food หรือร้านอาหารทั่วไป ซึ่งร้านอาหารทุกร้านนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับ Michelin Guide ได้ทั้งหมด เพราะว่าการประเมินของ Michelin Guide นั้นจะมีหลักเกณฑ์การประเมิน ที่วัดกันที่คุณภาพ วัตถุดิบ และบริการตามจริง และผู้ประเมินที่มีจรรยาบรรณ เข้าใจ และมีความรู้เกี่ยวกับวงการอาหารอย่างแท้จริง จึงทำให้รางวัล Michelin Guide นั้นเป็นตัวช่วยในการการันตีความอร่อย คุณภาพ และบริการของแต่ละร้านได้อย่างดีเยี่ยม และทำให้นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาตินั้นจึงเลือกรับประทานอาหารที่ Restaurant Michelin Guide กันอย่างแพร่หลายนั่นเอง

2. หลักเกณฑ์ประเมิน Restaurant Michelin Guide ที่ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนถึงจะได้รางวัล Michelin Guide มาครอบครอง

สำหรับหลักเกณฑ์การประเมิน Restaurant Michelin Guide นั้นผู้ประเมินก็จะมีการใช้หลักเกณฑ์เดียวกันทั้งหมด เพื่อให้การประเมินตรงตามมาตรฐานของทาง Michelin และเมื่อร้านอาหารมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ก็ถึงจะได้รับรางวัล Michelin Guide มาครอบครอง โดยหลักเกณฑ์ในการประเมินของ Michelin Guide มีดังนี้

  1. คุณภาพของวัตถุดิบ เป็นหลักเกณฑ์การประเมินที่จะทำการประเมินจากคุณภาพวัตถุดิบทั้งหมดในร้าน ว่ามีความสะอาด สดใหม่ และปลอดภัย
  2. เทคนิคในการทำอาหาร เป็นหลักเกณฑ์การประเมินที่จะทำการประเมินจากเทคนิคในการปรุงแต่ง และรังสรรค์เมนูว่าเชฟสามารถดึงรสชาติวัตถุดิบออกมาได้เป็นอย่างดี มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ และมีความประณีต
  3. เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่นำเสนอผ่านอาหาร เป็นหลักเกณฑ์การประเมินที่จะทำการประเมินจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่จะสะท้อน และถ่ายทอดมาทางอาหาร ที่จะทำให้เมนูอาหารของ Restaurant Michelin Guide นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
  4. ความคุ้มค่ากับราคา เป็นหลักเกณฑ์การประเมินที่จะทำการประเมินจากราคาว่ามีความเหมาะสมกับวัตถุดิบ รสชาติอาหาร และบริการที่ได้รับจาก Restaurant Michelin Guide หรือไม่

ความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นหลักเกณฑ์การประเมินที่จะทำการประเมินจากความเสมอต้นเสมอปลายของร้านอาหารที่จะต้องทำการรักษาคุณภาพ และมาตรฐานในทุกๆ ด้านให้คงที่แบบเดิม เพราะการรักษามาตรฐานให้ได้นั้นเป็นสิ่งที่ Michelin Guide คาดหวังไว้เช่นเดียวกัน

3. ใครเป็นผู้ประเมิน Restaurant Michelin Guide และแต่ละดาวของ Michelin Guide มีความหมายว่าอย่างไร?

Michelin Guide

สำหรับผู้ประเมิน Restaurant Michelin Guide เป็น “ผู้ตรวจสอบของทาง Michelin Group” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำงาน หรือคลุกคลีอยู่ในวงการอาหาร ร้านอาหาร โรงแรม หรือสายงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อให้ทุกการประเมินนั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเกิดจากจรรยาบรรณ ความเข้าใจ และความรู้จริงของผู้ประเมิน และนอกจากนั้นผู้ประเมิน Michelin Guide จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์กับองค์กรอื่นๆ ทั้งสิ้น ทำการชำระค่าใช้จ่ายในแต่ละมื้ออาหารเต็มจำนวน และจะเข้าการประเมินคุณภาพของร้านแบบไม่มีการเปิดเผยตัวตน เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับการปฏิบัติ หรือสิทธิพิเศษเหนือจากลูกค้าทั่วไป รวมถึงในแต่ละการประเมินนั้นจะเป็นการประเมิน และตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้ตรวจสอบหลายๆ คนที่แวะเวียนเข้าไปใช้บริการ Restaurant Michelin Guide จึงทำให้การประเมินคุณภาพ และมาตรฐานของ Michelin Guide นั้นเป็นที่น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก และทำให้นักชิมสามารถมั่นใจได้ว่าแต่ละร้านที่ได้รับรางวัลนั้นมีคุณภาพตามมาตรฐานของ Michelin Guide อย่างแน่นอน

 

โดยในส่วนของรางวัล Michelin Guide นั้นนักชิมหลายๆ คนจะรู้จักกันในชื่อของคำว่า “ดาว” ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ และมีความหมาย ดังนี้

  • Michelin Guide 1 ดาว เป็น Restaurant Michelin Guide ที่มีคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
  • Michelin Guide 2 ดาว เป็น Restaurant Michelin Guide ที่มีความยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การเดินทางออกนอกเส้นทาง เพื่อหยุดแวะชิม
  • Michelin Guide 3 ดาว เป็น Restaurant Michelin Guide ที่เป็นสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกล เพื่อไปชิมสักครั้ง

4. “Royal Osha” 1 ใน Restaurant Michelin Guide ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มากถึง 6 ปีซ้อน

“Royal Osha” เป็น 1 ใน Restaurant Michelin Guide ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน ด้วยความที่ Royal Osha นั้นเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับการรีวิวจากนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติว่าเป็น Restaurant Michelin Guide ที่มีเมนูอาหารอร่อย คุณภาพวัตถุดิบพรีเมียม ผ่านการนำเสนอที่พิถีพิถัน และมีบริการที่ดีเยี่ยม” ที่ถือว่าตรงตามเกณฑ์การประเมินของทาง Michelin Guide และทาง Royal Osha ก็ได้รักษาคุณภาพ และมาตรฐานตามเกณฑ์ จนได้รับรางวัลดังกล่าวติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี และเมื่อนึกถึงอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ก็ได้รับความไว้วางใจจากนักชิมที่จะกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง 

โดยทุกเมนูอาหารไทยของ Royal Osha นั้นก็ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบ ที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล มีความสดใหม่ สะอาด ปลอดภัย ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากจากเชฟมากฝีมืออย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็น Executive Chef แห่ง Royal Osha และเป็นเชฟมากประสบการณ์ที่อยู่วงการอาหารมานานกว่า 40 ปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์ ที่มีประสบการณ์ในการเป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ”ของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน ตั้งแต่อายุ 24 ปี ที่จะต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน และได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และยังเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่ได้สร้างเชฟรุ่นใหม่ประดับวงการอาหารมากมาย 

ซึ่งประสบการณ์ที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้มีการสั่งสมมานั้นก็ทำให้เชฟต้องการที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ และอยากยกระดับวงการอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก จึงได้เกิดเป็น “Royal Osha” ร้านอาหารไทย Restaurant Michelin Guide ที่ได้ร่วมสร้างกันกับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพื่อสร้างเมนูอาหารที่ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความเป็นไทยลงไปในอาหาร จนได้เมนูอาหารไทยที่มีการถ่ายทอดความเป็นไทยอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของรสชาติที่มีความกลมกล่อม ครบรสตามสไตล์อาหารไทย มีหน้าตาที่มีสีสันสวยงาม มีการจัดจานมาเป็นอย่างดี มีการนำเสนอ และถ่ายทอดเรื่องราวในความเป็นไทยในทุกสัมผัส และมีการจัดลำดับเมนูที่จะช่วยให้นักชิมสามารถสัมผัสความเป็นไทยผ่านอาหารได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับบริการที่เชฟ และพนักงานคอยให้ความใส่ใจในทุกช่วงเวลาที่นักชิมได้สัมผัสถึงความเป็นไทยภายในห้องอาหารของ Royal Osha ที่จะทำให้นักชิมได้เปิดประสบการณ์ และสัมผัสกับบรรยากาศการรับประทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining Michelin Guide ได้คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรือกำลังมองหาร้านอาหารไทย เพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ก็สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha ที่เป็น 1 ใน Restaurant Micheline Guide ที่เหมาะกับการรับประทานได้ในทุกโอกาส

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

5. แนะนำเมนูอาหาร Michelin Guide ของ Royal Osha ที่เป็น Restaurant Michelin Guide ที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

สำหรับเมนูอาหารไทย Michelin Guide ของ Royal Osha ที่เป็น Restaurant Michelin Guide ก็ได้มีการรังสรรค์เมนูอาหารขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะมีความครบเครื่อง มีหลากหลายองค์ประกอบ มีสีสันสวยงามละลานตา และมีรสชาติที่ผ่านการปรุงให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด พร้อมกับนำสมุนไพรพื้นบ้านมาปรุงเป็นอาหาร ที่ให้ทั้งความอร่อย ดีต่อสุขภาพ และถือว่าเป็น Signature ของอาหารไทยโบราณเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นทาง Royal Osha ก็ยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล หรือคอนเซ็ปต์ “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ด้วยการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นมากผสมผสานเข้ากันกับสุนทรียศาสตร์ของรูป รส และกลิ่นของอาหารไทย และเป็นการรับประทานอาหารตามฤดูกาลที่ศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยนั้นถือว่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และด้วยความที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล จึงทำให้เมนูอาหารของ Royal Osha นั้นมีการเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาลตามไปด้วย ทำให้นักชิมประจำ หรือผู้ที่ชื่นชอบสามารถแวะมาชิมอาหารไทยที่ Royal Osha ได้แบบไม่มีเบื่อ รวมถึงในทุกฤดูกาลก็จะมีอาหารครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่อง และมีเอกลักษณ์เฉพาะของอาหารไทยแต่ละภาคด้วย ซึ่งเมนูอาหาร Michelin Guide ของ Royal Osha นั้นก็จะแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ได้แก่ คิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน), วัสสานฤดู (ฤดูฝน) และเหมันต์ฤดู (ฤดูหนาว) ที่แต่ละฤดูนั้นก็จะมีเมนูเรียกน้ำย่อย เมนูอาหารหลัก และขนมหวานที่แตกต่างกัน และมีให้เลือกทั้งแบบ Set Menu และแบบ A La Carte ให้นักชิมได้เลือกรับประทานอาหารตามสไตล์ของตัวเอง และสำหรับเมนูแนะนำของ Restaurant Michelin Guide อย่าง Royal Osha ที่นักชิมต้องห้ามพลาด มีดังนี้

  • ข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูอาหาร No.1 ของทางรอยัล โอชา ที่ใครได้ลิ้มลองแล้วก็จะต้องหาโอกาสกลับมาซ้ำให้ได้อีกครั้ง โดยเมนูข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา นั้นทำมาจากข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 แช่ข้ามคืน ที่ช่วยสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน มาพร้อมกับผักแกะสลักต่างๆ เพิ่มความกลมกล่อม อย่างกระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก
  • ขนมจีนตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูอาหารที่เป็นการยกระดับขนมจีนให้เป็นเมนู Fine Dining มีให้รับประทาน 3 แบบ ได้แก่ ขนมจีนน้ำพริก ขนมจีนน้ำยาป่า และขนมจีนซาวน้ำแจงลอน ที่เส้นขนมจีนนั้นเป็นเส้นสด เหนียว นุ่ม เครื่องแกงมีความถึงเครื่อง กะทิหอม มัน เข้มข้น ที่นักชิมได้ลิ้มลองแล้วจะสัมผัสได้ถึงวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมได้ในทุกคำ
  • ข้าวยำตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูอาหารที่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบอย่างหลากหลายเข้าด้วยกัน ด้วยการนำเมนูข้าวยำ ที่เป็นเมนูอาหารอัตลักษณ์ของทางภาคใต้ และมีการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีอย่างข้าวก่ำ จากจังหวัดเชียงราย ผสมเข้ากันกับสมุนไพร และวัตถุดิบชั้นเลิศอื่นๆ อย่างงาขี้ม่อน ปลาข้าวสาร ลูกเดือย ส้มโอ มะม่วง แครอต ถั่วพูล ถั่วฝักยาว หอมแดง ตะไคร้ และใบมะกรูด พร้อมกับคลุกเคล้าด้วยน้ำยำสูตรพิเศษของรอยัล โอชา ที่มีการบีบมะนาวด้วยเล็กน้อย ทำให้ข้าวยำตำรับรอยัล โอชานั้นมีความหอม และอร่อยกลมกล่อมเป็นอย่างมาก

 

นอกจากเมนูข้าวแช่ ขนมจีน และข้าวยำ ตำรับรอยัล โอชาที่กล่าวมาข้างต้น ทาง Royal Osha ก็ยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้นักชิมได้เลือกกันอย่างหลากหลาย รวมถึงใน Set Menu ของแต่ละฤดูกาล ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีวางจำหน่ายในบ้างช่วงเท่านั้น ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะลิ้มลองเมนูต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามการอัปเดตได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

 6. รีวิว Royal Osha จากเพจรีวิว Restaurant Michelin Guide ที่การันตีถึงความอร่อย สมกับที่ได้รางวัล Michelin Guide มาครอง

สำหรับ Royal Osha ที่เป็น Restaurant Michelin Guide นั้นไม่ได้เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีจาก Michelin Guide เท่านั้น แต่ยังได้รับการรีวิวจากนักชิมตัวจริงจากเพจรีวิว และเว็บไซต์รีวิว Restaurant Michelin Guide ที่เป็นอีกเสียงที่ช่วยการันตีในเรื่องคุณภาพ และมาตรฐานของ Royal Osha ว่าสมกับที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มาครอบครองถึง 6 ปีซ้อน ดังนี้

Gourmet Cuisine (gourmetandcuisine.com)

“รอยัล โอชา เป็นร้านอาหารไทยแห่งแรกที่เป็นลักชัวรี่ ไทย ไฟน์ ไดนิ่ง นอกจากจะได้เชฟวิชิต มุกุระ ผู้มีความตั้งใจเดียวกันมาเสริมความละเมียดละไมและความพิถีพิถันในการรังสรรค์อาหารไทยไฟน์ ไดนิ่ง ให้เป็นรูปธรรมแล้ว ยังมีคุณพุธ-เกวลิน พิทยานุกุล น้องสาวของคุณจูน ผู้มีใจรักในด้านการทำอาหาร เรียนจบการโรงแรมจากสวิสเซอร์แลนด์และจบการทำอาหารจากอังกฤษมาร่วมมือด้วย ซึ่งเธอเผยถึงแนวคิดของเมนูอาหารทั้งหมดว่าเป็น  Classic Thai Elegance Reinvented สื่อถึงความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม คงไว้ทั้งรูป รส และกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ แต่เสิร์ฟใหม่ในสไตล์โมเดิร์น รวมทั้งสรรหาวัตถุดิบจากหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย จึงมีเมนูที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาลและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ท้องถิ่น”

“อาหารแต่ละจานจะครบรสแบบอาหารไทยดั้งเดิม และคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน”

“การออกแบบตกแต่งภายในร้านก็เข้ากับแนวคิดของอาหารได้เป็นอย่างดี ด้วยสไตล์ไทยวิจิตรโมเดิร์น เน้นโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำแท้บริสุทธิ์ ได้กลิ่นอายพระราชวังสมัยโบราณ บนชั้นลอยจะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวรามเกียรติ์ และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดนั้นเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากโคมแชนเดอร์เลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่สีทองอร่าม”

ครัวบ้านพิม (Facebook)

“ใครชอบทานอาหารไทยที่มีรสชาติไทยแท้ ๆ แต่หน้าตาโมเดิร์น ในบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัย … พิมอยากแนะนำร้านนี้เลยค่ะ Royal Osha Thai Restaurant & Bar นอกจากเค้าจะพรีเซนต์อาหารได้แบบที่พิมต้องร้องว้าวแล้ว รสชาติของอาหารก็ทำให้พิมรู้สึกว้าวเหมือนกันนะคะ เป็นรสชาติแบบไทย ๆ ที่มีความกลมกล่อม และลุ่มลึก ไปทานกี่ครั้งก็ประทับใจทุกครั้งเลยค่ะ”

Eat and Travel Diary (Openrice.com)

“ก่อนอื่นขอพาไปดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านอาหารที่ถือว่าสวยงามแบบไทยๆ แต่ได้กลิ่นอายความทันสมัยแบบนานาชาติ ซึ่งที่นี่เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มขรึม ตัดกับสีทองที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ดี แม้จะตกแต่งด้วยโทนสีเข้มแบบนี้แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในร้านดูอึดอัด เพราะเพดานทรงสูงทำให้บรรยากาศในร้านดูโปร่งสบายๆ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความเป็นไทยไว้แทบทุกมุมของร้านที่เด่นชัดคือแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ ที่สวยงาม โดดเด่นสะดุดตา อยู่ตรงบันไดวนที่จะขึ้นไปชั้นสอง ทำให้ต้องหยิบกล้อง หรือสมาร์ทโฟนมาเก็บภาพกันรัวๆ ทีเดียว และเมื่อขึ้นไปยังชั้นสองที่นี่ก็แสดงความเป็นไทยได้อย่างสวยงาม ด้วยภาพของวรรณกรรมชื่อดังที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างรามเกียรติ์ ที่ชูตัวละครหนุมานไว้อย่างโดดเด่นอยู่ริมผนังไว้ได้อย่างเพลินตา ซึ่งพื้นที่ชั้นบนนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดงานไพรเวทดินเนอร์ หรือปาร์ตี้ส่วนตัวกับเพื่อนฝูงได้สบายๆ ด้วยครับ”

“นอกจากจะได้ดื่มดำกับอาหารไทยที่สวยงามแต่ได้รสชาติอร่อยจัดจ้านแบบไทยๆ ยังได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศร้านที่สวยสะดุดตา ทำให้รู้สึกได้ว่า Royal Osha ถือว่าเป็น Fine Thai Dining ที่ดีอีกแห่งหนึ่งสำหรับผมเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารไทยในบรรยากาศสวยๆ แบบนี้แวะมาได้ที่ร้าน Osha ปากซอยร่วมฤดีตัดกับถนนวิทยุ แล้วจะหลงรักที่นี่ได้ไม่ยากเลยครับ”

A Day Bulletin (adaybulletin.com)

“เมนูอาหารและวัตถุดิบต่างๆ ของรอยัล โอชานั้นจะถูกนำเสนอในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ทำให้แต่ละเมนูมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ในการรังสรรค์อาหารให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดและยังคงรสชาติของความเป็นไทยดั้งเดิมไว้ ปรุงเคล้ารสชาติให้จัดจ้าน ด้วยการใส่กลิ่นของสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆ ของไทยลงไปในทุกเมนูเพื่อเพิ่มกิมมิกเล็กๆให้กับอาหาร ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากเกษตรกรในหลากหลายจังหวัดทั่วไทยมาสร้างสรรค์เมนูอาหารรสเลิศ เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่ดีที่สุด”

“รอยัล โอชาดึงเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมไทยออกมาได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การออกแบบภายในในของร้านที่เน้นการตกแต่งสไตล์ไทยวิจิตรโมเดิร์น ให้มีกลิ่นอายพระราชวังสมัยโบราณ ตระการตาไปด้วยสถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำแท้บริสุทธิ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารายละเอียดทุกอย่างมีกลิ่นอายความเป็นไทยอยู่ในทุกส่วนของร้าน ทั้งจิตรกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวรามเกียรติ์ ระเบียงเป็นลักษณะรูปทรงบาตรพระ ลวดลายไทยที่ตกเเต่งอยู่ทั่วทุกมุมร้าน หรือไฮไลต์สำคัญของร้านอย่างแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดมหึมาที่ประดับไปด้วยอัญมณีส่องประกายระยิบระยับโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่มองเห็นได้ตั้งแต่ก้าวเข้ามาที่รอยัล โอชา ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความประทับใจในมื้ออาหารสุดพิเศษให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมใจกับสุนทรียศาสตร์ของรอยัล โอชาได้อย่างสูงสุด”

“ขอบอกเพิ่มอีกนิดว่าจริงๆ แล้วที่รอยัล โอชานั้นไม่ได้มีแค่เมนูในลักษณะ ‘เซฟเทเบิล’ อย่างเดียวเท่านั้น แต่มีเมนูที่หลากหลายทั้ง a la carte และเซ็ตเมนูต่างๆ ให้เลือกชิม หากใครที่ต้องการเข้ามาลิ้มลองรสชาติในวันสบายๆ ก็สามารถแวะมาได้เลย”

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. สำรองที่นั่ง Restaurant Michelin Guide ที่ถ่ายทอดความเป็นไทยในสไตล์ Fine Dining Michelin Guide ได้แล้ว วันนี้!

Michelin Guide

สำหรับนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติที่อยากจะเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่ Royal Osha หนึ่งใน Restaurant Michelin Guide ที่ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านในอาหารไทยทุกเมนู ทุกสัมผัส ที่มีทั้งความครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบตามแบบฉบับอาหารไทยแท้ และมีการนำเสนอออกมาให้นักชิมสามารถเข้าถึงความเป็นไทยในรายละเอียดๆ ต่างได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้เมนูอาหารไทย Michelin Guide จากเชฟมากฝีมือแห่ง Royal Osha น้ันสามารถเข้าถึงนักชิมได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ และยังเหมาะกับการรับประทานได้ในทุกโอกาส ตั้งอยู่ใน Location ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่มีความพรีเมียมทั้งในเรื่องรสชาติ คุณภาพ และบริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on

Royal Osha Michelin Thailand ร้านอาหารไทย Fine Dining ที่ได้รับรางวัล Michelin 6 ปีซ้อน

Michelin Thailand

Royal Osha Michelin Thailand ร้านอาหารไทย Fine Dining ที่ได้รับรางวัล Michelin 6 ปีซ้อน

“Royal Osha” เป็น 1 ในร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining Michelin Thailand ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มากถึง 6 ปีซ้อน และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะว่าเมนูอาหารทุกเมนูนั้นถูกปรุงขึ้นมาจากวัตถุดิบที่มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี และผ่านการปรุงจาก Executive Chef มาฝีมืออย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” จนได้เมนูอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ หลากหลาย ไม่ซ้ำจำเจ มีความครบเครื่อง ครบรส ถ่ายทอดความเป็นไทยลงไปในอาหารทุกจาน ที่เมื่อนักชิมได้สัมผัสแล้วจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน และผนวกเข้ากันกับบรรยากาศที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย ทำให้เวลาที่นักชิมรับประทานอาหารนั้นจะสัมผัสได้ถึงความเป็นไทยได้อย่างแท้จริง เหมาะกับการมารับประทานได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ การคุยงาน หรือคุยเรื่องสำคัญ ที่ Royal Osha ก็มีอาหาร และบรรยากาศที่สามารถตอบโจทย์ในทุกโอกาสได้เป็นอย่างดี

1. Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining Michelin ที่เป็น 1 ใน Michelin Thailand ที่ครองใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

Michelin Thailand

ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารไทย Fine Dining Michelin ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ “Royal Osha” ก็เป็น 1 ในร้านอาหาร Michelin Thailand ที่นักชิมหลายๆ คนจะต้องนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ Royal Osha เป็นร้านอาหารสไตล์ Fine Dining ที่เป็นสไตล์การรับประทานที่ได้รับความนิยมทั่วทั้งยุโรป ด้วยการจัดสรรเมนูแบบ Full Course ที่มีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และขนมหวาน และในแต่ละเมนูนั้นก็จะมีการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ หรือการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของอาหารชนชาตินั้นๆ เข้าไปด้วย ที่ถือว่าเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของการรับประทานอาหาร ทำให้เวลาที่นักชิมได้สัมผัส หรือลิ้มลองอาหาร Fine Dinning นั้นจะรู้สึกได้ถึงความอร่อย กลมกล่อม และเอกลักษณ์ต่างๆ ที่เชฟต้องการจะถ่ายทอดมาให้นักชิมได้อย่างชัดเจน เหมือนกันกับอาหารไทยทุกเมนูที่ Royal Osha ที่มีการคัดสรรวัตถุดิบทุกชนิดมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีความสด ใหม่ และสะอาด และนำมาผ่านกรรมวิธีในการปรุงจากเชฟมากฝีมือ จนได้เมนูอาหารไทยที่มีการถ่ายทอดความเป็นไทยอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของรสชาติที่มีความกลมกล่อม ครบรสตามสไตล์อาหารไทย มีหน้าตาที่มีสีสันสวยงาม มีการจัดจานมาเป็นอย่างดี มีการนำเสนอ และถ่ายทอดเรื่องราวในความเป็นไทยในทุกสัมผัส และมีการจัดลำดับเมนูที่จะช่วยให้นักชิมสามารถสัมผัสความเป็นไทยผ่านอาหารได้อย่างเต็มที่ และถึงแม้จะเป็นอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรส และครบองค์ประกอบ แต่ว่าก็สามารถรับประทานได้ง่าย และเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย จึงทำให้อาหารไทย Fine Dining Michelin ที่ Royal Osha นั้นถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแน่นอน ดังนั้น นักชิมคนไหนที่อยากจะสัมผัสความเป็นไทยในสไตล์ Fine Dining แบบไม่ซ้ำจำเจ ก็สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha ด้วยการ Booking ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางการติดต่อต่างๆ ได้ เพื่อสำรองที่นั่ง และสัมผัสอาหารไทยแบบพรีเมียมก่อนใคร

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

2. Executive Chef ที่ปรุงเมนู Michelin ด้วยความพิถีพิถัน สมกับเป็น Michelin Thailand

สำหรับเมนูอาหารที่ Royal Osha นั้นนักชิมสามารถมั่นใจได้ในทุกรายละเอียดของทุกเมนูที่สั่งได้เลยว่ามีความเป็นไทยสมกับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารไทย Michelin Thailand อย่างแน่นอน เพราะว่าทุกเมนูที่ Royal Osha นั้นผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็น Executive Chef แห่ง Royal Osha และเป็นเชฟมากประสบการณ์ที่อยู่วงการอาหารมานานกว่า 40 ปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์กันเลยทีเดียว โดยเชฟวิชิต มุกุระนั้นเป็นเชฟแนวหน้าของเมืองไทยที่ได้เป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ”ของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน ตั้งแต่อายุ 24 ปี ที่จะต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน และได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และยังเป็นอาจารย์สอนที่ โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่ได้สร้างเชฟรุ่นใหม่ประดับวงการอาหารอีกมากมาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเชฟวิชิต มุกุระ ที่อยากจะลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าทาย และช่วยยกระดับวงการอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของทั่วโลกมากขึ้น จึงได้จับมือกับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล และได้สร้างร้านอาหารไทย Fine Dining อย่าง Royal Osha ขึ้นมา เพื่อให้ส่งต่อความอร่อยของอาหารไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่าอาหารไทยนั้นมีความแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ ตรงที่มีครบความเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีสีสันสวยงาม และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรพื้นบ้านมากปรุงเป็นอาหาร ที่ให้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพ ที่ถือว่าเป็น Signature ของอาหารไทยเลยก็ว่าได้ และด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจในการสร้างร้านอาหารไทย Royal Osha จึงทำให้ในปัจจุบันนั้นได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน และรางวัลการันตีอื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นที่รู้จักของนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่ได้สัมผัสถึงความดั้งเดิมแบบไทยๆ และเป็นอีก 1 ร้านอาหาร Michelin Thailand ที่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย หรืออยากสัมผัสอาหารไทยแบบพรีเมียมต้องห้ามพลาด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Chef ของ Royal Osha

3. รังสรรค์ทุกเมนู Michelin ด้วยวัตถุดิบแบบ Seasonal ที่ให้ความอร่อย และดีต่อสุขภาพ ตามสไตล์ของอาหารไทย Michelin Thailand

Michelin Thailand

การรังสรรค์เมนูอาหาร Michelin ที่ Royal Osha นั้นจะมีขั้นตอนในการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบในการทำอาหารที่มีความสด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย และจุดเด่นสำคัญในการเลือกวัตถุดิบของ Royal Osha คือ การเลือกใช้วัตถุดิบแบบ Seasonal หรือการใช้วัตถุดิบตามแต่ละฤดูกาล เพราะว่าเชฟวิชิต มุกุระ มีแนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ด้วยการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นมากผสมผสานเข้ากันกับสุนทรียศาสตร์ของรูป รส และกลิ่นของอาหารไทย ที่มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า “อาหารเป็นยา” ที่มีการนำพืช ผัก และสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร รวมถึงยังมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยได้อย่างลงตัว ทำให้อาหารไทย Michelin ทุกเมนูที่ Royal Osha นั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ที่นักชิมจะได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยได้อย่างเต็มที่ ที่ถือได้ว่าการรับประทานอาหาร Michelin Thailand ที่ Royal Osha นั้นได้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพ และเข้าถึงความเป็นไทยผ่านอาหารไทยได้อย่างแท้จริง และด้วยความที่ Royal Osha นั้นมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล จึงทำให้เมนูอาหาร Michelin มีการเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาลตามไปด้วย ทำให้นักชิมประจำ หรือผู้ที่ชื่นชอบสามารถแวะมาชิมอาหารไทยที่ Royal Osha ได้แบบไม่มีเบื่อ และนอกจากนั้นในทุกฤดูกาลก็จะมีอาหารครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่นอกจากจะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีแล้ว การรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรืออยากเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining Michelin Thailand ที่ทุกเมนูได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการนำเสนอ สามารถแวะมาชิมได้ที่ Royal Osha ที่มีเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่ได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย จากการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทย และช่วยสร้างการรับประทานอาหารไทยในมุมมองใหม่ๆ ให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

4. ครบรส ครบเครื่อง สไตล์ Michelin Thai Fine Dining กับเมนูอาหาร 3 ฤดูของ Royal Osha Michelin Thailand

เมนูอาหาร Michelin ของ Royal Osha นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง และสลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาล เพราะว่าที่ Royal Osha มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ที่สามารถช่วยสร้างความอร่อย และดีต่อสุขภาพของนักชิม มาพร้อมกับการปรุงแต่งที่มีความครบเครื่อง ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทยที่มีรสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด ที่นักชิมสามารถสัมผัสได้ทั้งหมดภายใน 1 คำ โดยเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีให้เลือกรับประทาน 3 ฤดูกาล ได้แก่ คิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน), วัสสานฤดู (ฤดูฝน) และเหมันต์ฤดู (ฤดูหนาว) ที่แต่ละฤดูนั้นก็จะมีเมนูเรียกน้ำย่อย เมนูอาหารหลัก และขนมหวานที่แตกต่างกัน และมีให้เลือกทั้งแบบ Set Menu และแบบ A La Carte ให้นักชิมได้เลือกรับประทานอาหารตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งเมนูแนะนำ Michelin Thailand ที่ Royal Osha ที่นักชิมต้องห้ามพลาด ดังนี้

4.1 ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา 

ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา หรือ Khao Chae Original By Royal Osha เป็นเมนู Michelin ยอดนิยมของนักชิมที่แวะเวียนมาที่ Royal Osha และเป็นเมนูขึ้นชื่อที่ใครได้ชิมแล้วจะต้องมาชิมซ้ำอีกครั้ง โดยเมนูข้าวแช่นั้นทำมาจากข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่แช่ข้ามคืน ที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียงชั้นเลิศ 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน และยังมีผักแกะสลักต่างๆ อย่างกระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก ให้รับประทานเคียงกันด้วย

4.2 หลนเนื้อปูกับตะไคร้

หลนเนื้อปูกับตะไคร้ หรือ Blue Crab Meat with Lemongrass Coconut Relish Served with Mixed Vegetables เป็นเมนู Michelin ที่มีการรังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพดีอย่าง “เนื้อปูม้าก้อน” ที่มีขนาดชิ้นใหญ่ นำไปปรุงกับกะทิ และเครื่องสมุนไพรหลากหลายชนิด พร้อมกับเคี่ยวให้หอม จนได้รสชาติที่มีความหอมหวานจากกะทิผสมผสานกับความเค็ม และเปรี้ยวจากสมุนไพร รับประทานคู่กับเครื่องเคียงนานาชนิด เช่น สายบัว ขมิ้นขาว และมะเขือ ซึ่งถือว่าเป็นอีกเมนูอาหารไทยที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องจิ้มที่มีความครบเครื่อง ครบรส หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว ที่นักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องห้ามพลาด

4.3 แกงคั่วสามฉุนกับหอยเชลล์ย่าง

แกงคั่วสามฉุนกับหอยเชลล์ย่าง หรือ Hokkaido Scallop and Acacia Leaves And Pickled Garlic and Bitter Nut in Red Curry เป็นเมนู Michelin ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างหอยเชลล์ จากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมกับซอสแกงคั่วที่มีเครื่องแกงเป็นสูตรเฉพาะจากทางภาคใต้ ผสมผสานกับกลิ่นที่เสริมความเผ็ดร้อนจากสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น สะตอ ชะอม และใบชะพลู มาพร้อมกับท็อปปิ้งอิคุระ หรือไข่ปลาแซลมอน ที่ช่วยตัดรสชาติเผ็ดร้อน เค็ม และหวานได้อย่างกลมกล่อม

4.4 ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด

ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด หรือ Thai Style Spicy and Sour Soup with Octopus Tentacle เป็นเมนู Michelin ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบสุกพรีเมียมอย่าง “หนวดปลาหมึกยักษ์” ที่คัดสรรมาเฉพาะหนวดโตๆ มีความสด ใหม่ สะอาด เนื้อนุ่มเด้ง หนึบหนับ ที่ผ่านการปรุงสุกให้มีความสุกกำลังพอดี เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปสีเหลืองทอง ที่มีรสชาติจัดจ้านจากส้มจี๊ดที่ผ่านการปรุงมาอย่างพิถีพิถัน และผ่านการเคี่ยวเข้ากันกับสมุนไพรหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนานจนได้รสชาติ และเพิ่มความหอมด้วยการเสิร์ฟโดย “เครื่องไซฟ่อน” ที่ช่วยดึงเอาน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรต่างๆ สู่ตัวซุปได้เป็นอย่างดี

4.5 ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่ กับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่างซอสน้ำตกเสิร์ฟพร้อมผักย่าง

ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่ กับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่างซอสน้ำตกเสิร์ฟพร้อมผักย่าง หรือ Seared Red Grouper with Thick & Creamy Red Curry “Che Che” Sauce and Grilled Australian Wagyu Beef Striploin wirh Spicy “Nam Tok” Sauce Served  with Pickled and Grilled Vegetables เป็นเมนู Michelin ที่ถูกเสิร์ฟมาแบบ Surf & Turf ที่เป็นการรวมอาหารทะเล และเนื้อสัตว์ไว้ในจานเดียวกัน รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศจากท้องทะเลอย่าง “ปลาเก๋าแดง” ที่ผ่านการปรุงด้วยการนาบกับกระทะที่มีน้ำมันร้อนจนหนังกรอบ มีความสุกกำลังพอดี มีรสสัมผัสที่มีความนุ่มเด้ง และความหวานของเนื้อปลาสด เสิร์ฟพร้อมซอสฉู่ฉี่เข้มข้น และมาพร้อมกับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่าง ที่เสิร์ฟคู่กับซอสน้ำตก และผักย่าง ที่ช่วยให้รสชาติมีคามกลมกล่อม และเข้ากันอย่างลงตัว

ทั้งนี้ เมนูข้างต้นเป็นเมนูที่นำมาจาก Set Menu ในแต่ละฤดูกาล อาจทำให้เมนูมีการเปลี่ยนแปลง หรือวางจำหน่ายในบ้างช่วงเท่านั้น ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะลิ้มลองเมนูต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามการอัปเดตได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

5. ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Michelin Authentic Thai Taste ได้ที่ Royal Osha Michelin Thailand

Michelin Thailand

การรับประทานอาหารไทย Michelin ที่ Royal Osha นั้นไม่ได้ถ่ายทอดแค่ความเป็นไทยผ่านทางอาหารเท่านั้น แต่ที่ Royal Osha ยังให้ความใส่ใจในเรื่องของบรรยากาศในร้าน ที่จะช่วยให้นักชิมสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศ Michelin Authentic Thai Taste ได้ที่ Royal Osha Michelin Thailand ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการตกแต่งภายในห้องอาหารในทุกๆ ส่วนให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยมากที่สุด ตั้งแต่ประตูทางเข้า ผนัง เพดาน โต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี โดยภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ มาพร้อมกับการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก ทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นเหมือนกับนักชิมกำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม ที่มีบรรยากาศ เสน่ห์ และกลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ความรู้สึกเรียบหรู และภายในห้องอาหารยังมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเข้ากันกับการตกแต่งภายในร้าน ทำให้นักชิมสามารถดื่มด่ำกับความเป็นไทยได้ทั้งบรรยากาศ และอาหารที่กำลังรับประทานได้อย่างเต็มที่ และด้วยความเป็นไทยอย่างแท้จริงของ Royal Osha จึงทำให้เป็นอีกร้านอาหารไทย Michelin Thailand ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รีวิว Royal Osha Michelin ที่ได้รับจากนักชิมตัวจริง ที่การันตีความเป็นไทยของร้านอาหาร Michelin Thailand

Michelin Thailand

ร้านอาหารไทย Michelin Thailand อย่าง Royal Osha นั้นไม่ได้เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีจาก Michelin Guide 6 ปีซ้อน และรางวัลอื่นๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังได้รับรีวิวจากนักชิมเสียงจริง ตัวจริง ที่การันตีถึงความเป็นไทยของ Royal Osha ทั้งจากนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ ดังนี้

Nongnong Visa Wansupachart. April, 2023

“ซัมเมอร์ปีนี้ได้มากินข้าวแช่ที่ Royal Ocha เป็นที่แรก ก่อนมาก็ทราบมาว่าข้าวแช่ที่นี่รังสรรค์โดยเชฟวิชิต มุกุระ ตื่นเต้นมากเพราะเคยทานอาหารที่เชฟทำแล้วประทับใจมากๆ

ก่อนอื่นเลยการเสิร์ฟมาแบบอลังการ presentation ชนะเลิศ มี dry iced วูบวาบรู้สึกเย็นขึ้นมาทันตา!!! แต่ที่ยกให้เป็นเดอะเบสท์คือข้าว!! เชฟใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ เรียงเม็ดสวย หอมและนุ่มมาก ส่วนน้ำลอยดอยมะลิก็ไม่ธรรมดา เชฟใช้น้ำแร่ Iceland Spring pH8.8 ใส สดชื่น เย็นๆ ชื่นใจ เอาเป็นว่า ดีแบบแตกต่างสุดๆ ชอบมาก

ส่วนเครื่องข้าวแช่ 7 อย่างคือจัดเต็มมากกก ทั้งลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม (อันนี้ไม่เหมือนที่ไหน), ปลายี่สนผัดหวานและหัวไชโป๊วผักหวาน รวมถึงผักที่แกะสลักมาอย่างงดงาม ปิดท้ายด้วยมะยงชิดลอยแก้วสุดสดชื่น”

PookEats. August, 2019

“ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ขับผ่านไปมาบ่อยๆ แต่ไม่เคยคิดจะแวะลองชิมเพราะคิดเอาเองว่ารสน่าจะออกแนวไทยฟิวชั่นเหมือนหลายๆ ร้าน แต่ปรากฏว่าเรามีความเข้าใจผิดมาตลอด เพราะเชฟยังคงรสชาติไทยๆ แบบดั้งเดิมแต่สามารถยกระดับเมนูอาหารไทยธรรมดาให้มีรูปลักษณ์และรสชาติที่น่าสนใจมากขึ้น

เริ่มแรกแอบไม่ประทับใจเล็กน้อย ตรงที่จอดรถที่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได แถมเดินค่อนข้างไกลจากที่จอดรถมาตัวร้าน แต่หลังจากที่เดินเข้าร้านจนทานอาหารเสร็จ ถือว่าได้ความประทับใจมากๆ กลับไปแทน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศร้าน, การบริการของพนักงานทุกท่าน, การพรีเซนต์เมนูอาหารและรสชาติ รวมทั้งเครื่องดื่มที่สั่งนอกเหนือจากดีล

เมนูอาหารที่จัดมาในดีล รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของเชฟและทีมงานในการนำเสนอเมนู เพราะมาครบทั้งรูป, รส, และกลิ่น ชอบที่พนักงานมีการสอบถามรายละเอียดของประวัติการแพ้อาหารของลูกค้าแต่ละท่าน แสดงออกถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของลูกค้า รวมทั้งอธิบายรายละเอียดของเมนูที่ลงเสริฟทุกจานแบบที่ข้อมูลครบถ้วน ไม่ตกหล่น มาครบทั้งแหล่งที่มาและจุดเด่นของวัตถุดิบแต่ละตัว รวมทั้งแนะนำลำดับการรับประทานสำหรับเมนู appetizer ทำให้รสชาติออกมาบาลานซ์กันพอดี”

Joaovj. February, 2020

“Beautiful Restaurant and Food, On our first night in Bangkok, we went to Osha and had the best meal during all our vacation in Asia. From the setting to the courses presentation, including the service, all was fantastic and exciting. It was a great surprise that exceeded our expectations.”

Moknokke. December, 2019

“Royal delicious Thai cuisine, Not only the setting but mostly the presentation and the taste of the dishes are worth the detour. This great chef creates dishes with most respect for the Thai tradition and gives them an upgrade in an unique way. So beautiful and tasteful. Khob khun mak krab ”

Agra. February, 2023

“Excellent Michelin Guide restaurant! Michelin Guide restaurant. Great ambience. Food was delicious, interesting textures, flavorful, and presentation was excellent. Enjoyed an evening dinner with business colleagues.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. สัมผัสความอร่อยของอาหารไทย Michelin สไตล์ Fine Dinning ที่ Royal Osha  Michelin Thailand ได้แล้ว วันนี้!

สำหรับนักชิมที่สนใจอยากจะสัมผัสความอร่อยของอาหารไทย Michelin สไตล์ Fine Dinning ที่ Royal Osha ร้านอาหารไทย Michelin Thailand ที่มีอาหารไทยที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีความครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ มีความกลมกล่อม ทำให้เมนูอาหารไทยที่นักชิมได้ลิ้มลองกันนั้นมีหลากหลายสไตล์ และสามารถเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย สามารถตอบโจทย์นักชิมได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส และยังตั้งอยู่ใน Location ที่เดินทางสะดวกสบาย ดังนั้น นักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยสไตล์พรีเมียม สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on

Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining จากเชฟอาหารไทยมือทอง การันตีด้วย Fine Dining ระดับมิชลิน

Fine Dining

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining จากเชฟอาหารไทยมือทอง การันตีด้วย Fine Dining ระดับมิชลิน

Royal Osha เป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่มีเมนูอาหารไทยให้นักชิมได้สัมผัสอย่างหลากหลาย ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีการเลือกใช้สมุนไพรมาผสมผสานเข้ากันในเมนูอาหาร เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสความอร่อยกลมกล่อม พร้อมกับดูแลสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน และยังมีการเปลี่ยนแปลงเมนูตามฤดูกาลทั้งหมด 3 ฤดู ที่ในแต่ละฤดูนั้นก็จะมี Set Menu และเมนูอาหารที่มีทั้งคาวหวานอย่างครบครัน ซึ่งทุกเมนูก็ผ่านการรังสรรค์จากเชฟอาหารไทยมือทองมากประสบการณ์อย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ความเป็นไทยลงไปในอาหารทุกเมนู Fine Dining มีความครบเครื่อง ครบรส ครบองค์ประกอบตามแบบฉบับต้นตำรับอาหารไทย ทำให้เวลาที่นักชิมได้ลิ้มลองนั้นจะสัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นไทยได้ในทุกคำ การันตีด้วยรางวัล Michelin Guide และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงรีวิวจากนักชิมเสียงจริง ตัวจริง ที่เข้ามาสัมผัสประสบการณ์จริงที่ Royal Osha ที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประทับใจในทุกเมนู อาหารอร่อย พนักงานบริการดี สมกับเป็น Fine Dining ระดับมิชลิน

1. ร้านอาหาร Fine Dining สไตล์การทานอาหารสุดหรู ที่ทำให้ Fine Dining มีความแตกต่าง และได้รับความนิยมจากนักชิม

Fine Dining

Fine Dining” เป็นวิธีการรับประทานอาหารที่เน้นมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่ดี และมีคุณภาพมากที่สุดให้กับนักชิม ด้วยการเตรียมเมนูอาหารที่จะต้องเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความพิถีพิถัน สดใหม่ สะอาด ปลอดภัย มีขั้นตอนในการปรุงที่มีความสร้างสรรค์ มีการจัดจานมาอย่างประณีตสวยงาม มีการนำเสนอในแต่ละเมนูเป็นอย่างดี และมีบริการที่สุภาพ ที่ล้วนแต่เป็นหัวใจสำคัญในการทำร้านอาหาร Fine Dining รวมถึงการตกแต่งบรรยากาศร้านให้มีความเข้ากันกับสไตล์ของอาหาร เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงความอร่อย และดื่มด่ำกับบรรยากาศให้สมกับการรับประทานอาหาร Fine Dining อย่างเต็มที่ จึงทำให้ร้านอาหาร Fine Dining และการรับประทานอาหาร Fine Dining นั้นมีความแตกต่างจากการรับประทานอาหารทั่วไป และได้รับความนิยมจากนักชิมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

โดยที่ Royal Osha ก็เป็น 1 ในร้านอาหาร Fine Dining ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย มีครบทุกหัวใจสำคัญของการเป็นร้านอาหาร Fine Dining ชั้นเลิศ ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ปรุงแต่งด้วยเชฟมากฝีมือระดับปรมาจารย์อย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่รังสรรค์ และนำเสนอทุกเมนูออกมาให้มีความเป็นไทยแท้ และมีบรรยากาศภายในร้านที่มีการตกแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทย ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่แบบไทย ทำให้นักชิมสามารถสัมผัสถึงความอิ่มอร่อยของอาหารไทย พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศที่มีความเป็นไทยได้ในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่า Royal Osha นั้นเป็นอีกร้านอาหาร Fine Dining สไตล์ไทยๆ ที่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยควรหาเวลามาลิ้มลองให้ได้สักครั้ง

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining ที่มี Fine Dining สไตล์ไทย 100% เข้าถึงง่ายทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

ร้านอาหาร Fine Dining ที่มีความเป็นไทยอย่าง Royal Osha นั้นมีการรังสรรค์ทุกเมนูขึ้นมาที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้อย่างเต็มที่ และยังคงความเข้าถึงง่ายที่นักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติสามารถสัมผัสได้ถึงความละเอียดละออ และความใส่ใจในการปรุงแต่งอาหารจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน เพราะว่าเชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef แห่ง Royal Osha และเป็นเชฟมากประสบการณ์ที่อยู่วงการอาหารมานานกว่า 40 ปี ที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจที่ต้องการจะเผยแพร่ และยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก จึงได้เกิด Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining ไทยแท้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้อาหารไทยนั้นเป็นที่จดจำของชาวโลกมากขึ้น ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” ด้วยความที่อาหารไทยนั้นมีจุดเด่น และมีความแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ ที่มีทั้งรสชาติที่หลากหลาย มีสีสันสวยงาม และมีหลากหลายองค์ประกอบให้ได้สัมผัสภายใน 1 คำ และยังมีการนำสมุนไพรพื้นบ้านมากปรุงเป็นอาหาร ที่ให้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพ ที่ถือว่าเป็น Signature ของอาหารไทย ทำให้เมนูอาหารไทย Fine Dining ของ Royal Osha มีความอร่อย กลมกล่อม ที่นักชิมได้สัมผัสแล้วจะต้องลืมไม่ลงอย่างแน่นอน และด้วยความอร่อย มีประโยชน์ ราคาเอื้อมถึงได้ ของเมนูอาหาร Fine Dining ที่ Royal Osha จึงทำให้ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย เช่น รางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน ที่การันตีว่าเป็น 1 ร้านอาหาร Fine Dining สไตล์ไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังได้รับคำชม หรือรีวิวจากนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างหลากหลาย ที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Fine Dining อาหารไทยที่ผู้ที่ชื่นชอบ หรืออยากลิ้มลองอาหารไทยแบบใหม่ๆ ไม่ควรพลาด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. ร้านอาหาร Fine Dining ที่คัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาหารเป็นยา” เป็น Fine Dining ที่อิ่มอร่อยแบบ Healthy

Fine Dining

สำหรับที่ Royal Osha นั้นเป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบในการรังสรร์เมนูอาหาร Fine Dining แบบตามฤดูกาลที่มีความสด ใหม่ สะอาด และปลอดภัย โดยการเลือกใช้วัตถุดิบแบบ Seasonal เกิดจากเชฟวิชิต มุกุระ ต้องการจะส่งต่อเมนูอาหารให้กับนักชิมภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาหารเป็นยา” ที่รับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำพืช ผัก และสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร และมีแนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ด้วยการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นมากผสมผสานเข้ากันกับสุนทรียศาสตร์ของรูป รส และกลิ่นของอาหารไทย ทำให้อาหารไทยที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟมือทองอย่างเชฟวิชิต มุกุระ นั้นมีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยได้อย่างลงตัว และด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล มีการผสมผสานสมุนไพรไทยพื้นบ้าน และมีรสชาติครบตามต้นตำรับอาหารไทย ทำให้เมนูอาหารไทย Fine Dining ของ Royal Osha นั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และเสน่ห์ของความเป็นไทย และเมื่อนักชิมได้สัมผัสก็จะได้ถึงความครบเครื่อง และรายละเอียดต่างๆ ของอาหารไทยอย่างแท้จริง

ดังนั้น นักชิมคนไหนที่อยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยตามฤดูกาล หรืออาหารไทย 4 ภาค สไตล์ Fine Dining ได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการนำเสนอที่ถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย จากการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน และมีทั้งความอร่อย กลมกล่อม ดีต่อสุขภาพ สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย และรักสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน และไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติก็สามารถเข้าถึงความเป็นไทยผ่านอาหารไทยได้อย่างแท้จริง

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

4. ร้านอาหาร Fine Dining ที่สัมผัสความเป็นไทยด้วยเมนูอาหาร 3 ฤดูกาล และเป็น Fine Dining ที่ครบรสทั้งคาวหวานตามต้นตำรับอาหารไทย

เมนูอาหาร Fine Dining ของร้านอาหาร Fine Dining Royal Osha นั้นจะเป็นเมนูที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เพราะว่าที่ Royal Osha มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีให้นักชิมได้เลือกลิ้มลองกันทั้งหมด 3 ฤดูกาล ได้แก่ คิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน), วัสสานฤดู (ฤดูฝน) และเหมันต์ฤดู (ฤดูหนาว) ที่แต่ละฤดูนั้นก็จะมีเมนูเรียกน้ำย่อย เมนูอาหารหลัก และขนมหวานที่แตกต่างกัน และมีให้เลือกทั้งแบบ Set Menu และแบบ A La Carte แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ ในทุกเมนูนั้นจะมีรสชาติที่มีความครบเครื่อง ครบรส ตามต้นตำรับอาหารไทย เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสอาหารไทยแท้แบบ Fine Dining ได้แบบเต็มที่ โดยเมนูแนะนำของ Fine Dining ที่เป็นที่นิยมของนักชิม มีดังนี้

    • ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา (Khao Chae Original By Royal Osha) เป็นเมนู Fine Dining ที่เป็นที่นิยมของนักชิมที่จะต้องกลับมาชิมในทุกๆ ปี โดยเมนูข้าวแช่ของรอยัล โอชา ทำมาจากข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทยที่แช่ข้ามคืน และใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย มาพร้อมกับเครื่องเคียง 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน เสิร์ฟคู่กับผักแกะสลักที่ช่วยให้มีความกลมกล่อมากขึ้น เช่น กระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก เป็นต้น
    • ทองม้วนต้มยำกุ้งคาเวียร์ (Thong Muan with Prawn Spicy Soup and Caviar) เป็นเมนู Fine Dining ที่มีการผสมผสานกันระหว่างของคาว และของหวาน ด้วยการนำทองม้วนมาสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้งนุ่มเด้งผสมผสานกับมูสต้มยำ ตกแต่งให้มีสีสันมากขึ้นด้วยซอสมะม่วง ใบมะกรูดกรอบ และดอกไม้ ทำให้เวลาชิมนั้นตะสัมผัสได้ถึงความกรอบของทองม้วนที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อกุ้ง และมูศต้มยำ และหอมกรุ่นไปด้วยสมุนไพรในทุกคำ
    • หลนเนื้อปูกับตะไคร้ (Blue Crab Meat with Lemongrass Coconut Relish Served with Mixed Vegetables) เป็นเมนู Fine Dining ที่ทำมาจากเนื้อปูม้าก้อน ที่นำไปปรุงกับกะทิ และเครื่องสมุนไพรต่างๆ พร้อมกับเคี่ยวเป็นเวลานาน จนได้กลิ่นหอม และรสชาติที่มีความหอมหวานจากกะทิผสมผสานกับความเค็ม และเปรี้ยวจากสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เช่น สายบัว ขมิ้นขาว และมะเขือ มีความครบเครื่อง ครบรส หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว สมกับเป็นอาหารไทยสมัยโบราณ
    • แครมบรูว์เลมะพร้าวอ่อน (Young Coconut Creme Brulee) เป็นเมนูขนมหวาน Fine Dining ที่มีการผสมผสานระหว่างแครมบรูว์เลที่มีความหอมหวานของคัสตาร์ด และคาราเมลที่ผ่านการเผาไหม้จนทำให้กรอบ ผสมผสานเข้ากันกับมะพร้าวอ่อน ทำให้มีความหอมหวานกำลังดี ที่เวลารับประทานเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงความหอม หวาน และมันที่เข้ากันอย่างลงตัว
    • พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทยและเบอร์รี (Fresh Milk Pudding with Thai Tea Icecream and Mixberry) เป็นเมนูขนมหวาน Fine Dining ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างพุดดิ้งนมสดที่มีความหอม หวาน และมัน กับไอศกรีมชาไทยที่มีความหอมชาไทยเป็นเอกลักษณ์ ตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีชนิดต่างๆ ที่มีรสชาติหวานฉ่ำอมเปรี้ยวกำลังดี ที่ช่วยปิดท้ายมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Menu ของ Royal Osha

5. Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining มีบรรยากาศแบบไทยๆ ที่การันตีว่าเป็น Thai Authentic Fine Dining 100%

Fine Dining

“Royal Osha” เป็นร้านอาหาร Fine Dining บรรยากาศแบบไทยๆ ที่มีการถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านทางอาหารไปจนถึงบรรยากาศภายในร้าน เพื่อให้นักชิมสามารถดื่มด่ำกับความเป็นไทยได้อย่างเต็มที่ โดยบรรยากาศภายในร้านอาหาร Fine Dining Royal Osha นั้นจะมีการตกแต่งภายในห้องอาหารให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยในทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ประตูทางเข้า บริเวณเพดาน และผนัง ที่มีการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก และภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ มีการเลือกใช้โต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม ช้อนส้อม เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเป็นไทยที่เข้ากันกับการตกแต่งภายในร้านที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี ทำให้เวลาที่นักชิมกำลังอิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยสุดพรีเมียมนั้นก็ได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เหมือนกับนักชิมกำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระรามที่มีบรรยากาศ กลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ และด้วยเมนูอาหาร Fine Dining และบรรยากาศภายในที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย จึงทำให้ Royal Osha นั้นเป็นอีก 1 ร้านอาหารไทย Fine Dining ที่การันตีได้ว่าเป็น Thai Authentic Fine Dining 100% ที่นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทยต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รีวิวร้านอาหาร Fine Dining จาก Real User บน Facebook ที่แวะมาชิมอาหารไทย Fine Dining ที่ Royal Osha

Fine Dining

Royal Osha เป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน, รางวัล User’s Choice Wongnai, รางวัล Thai Selct Premium หรือรางวัล Thailand Tatler Best Restairant เป็นต้น ที่ล้วนแต่เป็นรางวัลที่สามารถการันตีได้ถึงความพรีเมียมแบบไทยแท้ของเมนูอาหาร และบริการของ Royal Osha และนอกจากรางวัลที่เป็นเครื่องการันตีว่า Royal Osha นั้นเป็นร้านอาหาร Fine DIning ที่มีความ Thai Authentic Fine Dining แล้ว ยังมีริวิวจากนักชิมตัวจริง เสียงจริงที่เคยแวะเวียนมาลิ้มลองอาหารไทยจากเชฟมากฝีมืออย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และแวะมาครั้งไหนก็ประทับใจทุกครั้ง โดยรีวิวร้านอาหาร Fine Dining จาก Real User บน Facebook ที่แวะมาชิมอาหารไทย Fine Dining ที่ Royal Osha มีดังนี้

Yuphavadee Suthasathitchai

“เป็นอาหารไทยที่มีรสชาดอร่อย คงความเป็นไทยๆ แบบฉบับเดิมๆ ทรงคุณค่าให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักอาหารไทยค่ะ รสมือเชฟ ฝีมือดี สถานที่สวยงาม จัดจานได้สง่า สมเป็น Royal Osha เลยทีเดียวค่ะ”

Nest Kwanniphon 

“คุณภาพอาหารดี เหมาะสม อาหารมีความคิดสร้างสรรค์ ทานแล้วเข้ากันลงตัว อร่อยค่ะ ทั้งเชฟ และอาหาร บรรยากาศ การบริการ และพนักงานดีมากค่ะ”

Auncharee Paecharoenchai

“อาหารอร่อย ทุกเมนูเลยค่ะ ครั้งหน้าจะกลับมาทานอีกค่ะ บริการดีมาก น่ารักทุกคนเลยค่ะ”

Sahara Lova

“อาหารอร่อยมากทุกจานค่ะ จัดจานได้สวยงามน่าทานมาก บริการดีมาก คุณเชฟใจดีอุตส่าห์มาถ่ายรูปด้วย ชื่นชมในฝีมืออาหารมากค่ะ”

GoofGift Wondergift

“บรรยากาศดีมากจริงๆค่ะ  อาหารก็อร่อย  จัดจานสวยงาม พนักงานก็บริการดีมาก ต้องมาซ้ำอีกแน่นอนค่ะ”

Non Chongprasobtham

“อาหารอร่อย คุณภาพดี มีการอธิบายที่มาของวัตถุดิบที่ใช้และแนะนำขั้นตอนการรับประทาน แถมบรรยากาศโรแมนติก บริการเอาใจใส่ดีเยี่ยม”

Thaweerat Suriyaphunt 

“เป็นร้านอาหารไทยที่มีความเป็นไทยประณีต วัตถุดิบ ความสดใหม่ รสชาติที่จัดจ้าน ออกเผ็ด หน้าตาการตกแต่งด้วยภาชนะไทยๆ ผสมผสานความทันสมัย บรรยากาศได้เลยกับ Thai fine dining restaurant ร้านอาหารที่ควรแนะนำให้เพื่อนๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ”

Dien Cho Trang

“If you’re going to try any fine dining in Bangkok, just go here and forget everywhere else. Amazing food. Ambience and service to match.”

Ian Cummings

“Extraordinary Thai food. Some of the best Thai dishes I’ve ever tasted. Lovely decor, more of an evening place and stunning for a private dining experience. If you’re into Thai food then this is a must visit restaurant.”

Andy Wai

“Amazing place for dining with yummy and excellent food and professional service provided here from waitress that’s unforgettable and perfect”

Linda Muncaster

“From the minute the taxi arrives outside the very high front door at the top of an impressive staircase, the impression is one of grandeur and opulence which is not reflected in the prices. One is immediately greeted by attentive, polite staff who make you feel you’re the most important guest.

 

The restaurant is on two floors with a stunning winding staircase leading to the upstairs bar and private dining room. The decor throughout the restaurant is Thai with a difference and it’s obvious everything has been carefully chosen. The mural on the ceiling in the main restaurant moves in unison to the music which changes every two hours to more upbeat louder music as the evening progresses, but at no time does it interfere with conversation.

 

The menu is varied and beautifully presented along with an explanation of the dish,

OSHA Thai offers exclusive cocktails developed by the owner, along with beer, wine and spirits.

We tried many different dishes, all of which were delicious. The staff speak impeccable English and whilst being attentive and observant are discreet allowing one to enjoy amazing food and conversation. OSHA Thai is open for lunch and dinner and my husband and I will definitely return next time we’re in Bangkok. 

 

OSHA Thai is perfect for a business lunch or dinner, intimate dinner for two, celebrations or a ‘catch up’ with friends, I highly recommend it.”

Aaron Himbo Huang

“Creative plates that never fail to surprise! Unlike the molecular cuisines that are usually formed over substance, the food that Osha serves delivers in the taste department as well. Distinctive thai flavors show in every single dish! From appetizer down to dessert. Highly recommended for those who are always looking for new things.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Fine Dining แบบไทย ที่ร้านอาหาร Fine Dining ต้องห้ามพลาดที่ Royal Osha

สำหรับนักชิมคนไหนที่อยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Fine Dining แบบไทย ที่ Royal Osha เป็นร้านอาหาร Fine Dining สไตล์ไทยแท้ ที่มีอาหารที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของความเป็นไทยไว้ในทุกสัมผัส ครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ ตามแบบฉบับต้นตำรับของอาหารไทย และมีบรรยากาศภายในร้านที่มีความเป็นไทยในทุกรายละเอียด ทำให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารไทยในบรรยากาศที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยแบบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนักชิมชาวไทย หรือชาวต่างชาติก็สามารถสัมผัสความเป็นไทยได้ 100% เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส และตั้งอยู่ใน Location ที่สามารถเดินทางได้ง่าย สะดวกสบาย ดังนั้น นักชิมคนไหนที่กำลังมองหาร้านอาหาร Fine Dining ที่เหมาะกับนักชิมทุกเพศ ทุกวัย สามารถแวะมาลิ้มลองความอร่อยกลมกล่อมของอาหารไทยสไตล์พรีเมียมแบบ Fine Dining ได้ที่ Royal Osha สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้
  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 
คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha
Posted on

Royal Osha 1 ใน Michelin Restaurant ที่ครองใจนักชิมทุกสัญชาติ

Michelin Restaurant

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

Royal Osha 1 ใน Michelin Restaurant ที่ครองใจนักชิมทุกสัญชาติ

ถ้าหากได้ขึ้นชื่อว่า Michelin Restaurant ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ได้รับรางวัลการันตี Michelin Guide ที่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงมาตรฐาน และคุณภาพอาหาร และบริการที่ยอดเยี่ยม เพราะว่ากว่าแต่ละร้านอาหารจะได้รางวัล Michelin Guide หรือ Michelin Star นั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกที่ทางร้านจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ความโดดเด่นของรสชาติอาหาร เทคนิคในการรังสรรค์อาหาร เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่ถ่ายทอดออกมาผ่านทางอาหาร ความคุ้มค่ากับราคา หรือบริการที่ดี เป็นต้น ที่ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อประสบการณ์ในการรับประทานอาหารของนักชิมทุกคน และที่ Royal Osha ก็เป็นอีก 1 ใน Michelin Restaurant ของประเทศไทย ที่ได้ผ่านเกณฑ์ของ Michelin จนได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน ที่ช่วยการันตีได้ว่า Royal Osha นั้นเป็น Michelin Restaurant ที่สามารถรักษาคุณภาพ และมาตรฐานตามเกณฑ์ของ Michelin ได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารให้กับนักชิมทั้งขาวไทย และชาวต่างชาติให้มีความประทับใจต่ออาหาร และบริการของทางร้าน พร้อมกับช่วยเสริมให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปยังทั่วโลกมากขึ้น และเมื่อนึกถึงอาหารไทยเมื่อไหร่ ก็จะต้องมี Royal Osha เป็นตัวเลือกในลิ้มลองอาหารไทยเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน

1. Royal Osha ร้านอาหารไทยที่การันตีว่าทุกเมนูอาหารมีคุณภาพ และมาตรฐาน สมกับเป็น Michelin Restaurant

Michelin Restaurant

“Royal Osha” เป็นร้านอาหารไทยที่นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาตินั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทุกเมนูอาหารมีความอร่อย คุณภาพวัตถุดิบดี บริการดีเยี่ยม” สมกับเป็น Michelin Restaurant ที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน จนได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน โดยที่ Royal Osha นั้นให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างความประทับใจ และสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยที่นักชิมจะต้องรู้สึกอยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล มีความสดใหม่ สะอาด ปลอดภัย ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากเชฟมือทองอย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความเป็นไทยลงไปในอาหาร จนได้เมนูอาหารไทยที่มีการถ่ายทอดความเป็นไทยอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของรสชาติที่มีความกลมกล่อม ครบรสตามสไตล์อาหารไทย มีหน้าตาที่มีสีสันสวยงาม มีการจัดจานมาเป็นอย่างดี มีการนำเสนอ และถ่ายทอดเรื่องราวในความเป็นไทยในทุกสัมผัส และมีการจัดลำดับเมนูที่จะช่วยให้นักชิมสามารถสัมผัสความเป็นไทยผ่านอาหารได้อย่างเต็มที่ ที่นักชิมได้สัมผัสแล้วจะเข้าถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี และรู้สึกว่าเมนูอาหารทุกจานที่เสียเงินไปนั้นคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมาก รวมถึงยังมีบริการที่เชฟ และพนักงานคอยให้ความใส่ใจในทุกช่วงเวลาที่นักชิมได้ก้าวเข้ามาที่ร้าน ที่ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักชิมได้เป็นอย่างดี และยังเป็นปัจจัยที่ตรงตามกับเกณฑ์ของ Michelin Guide ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบอาหารไทย จึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าทุกเมนูอาหาร และทุกบริการที่ Royal Osha นั้นสมกับที่เป็น 1 ใน Michelin Restaurant อย่างแน่นอน

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. ถ่ายทอดความเป็นไทยสไตล์พรีเมียมให้นักชิมได้ลิ้มลองผ่านอาหารทุกคำ ตามแบบฉบับ Thai Michelin Restaurant

สำหรับเมนูอาหารที่ Royal Osha ทุกเมนูที่นักชิมจะได้ลิ้มลองนั้นมีความเป็นไทยสไตล์พรีเมียมในทุกคำที่ได้สัมผัส เพราะว่าอาหารทุกจาน ที่ Royal Osha 1 ใน Michelin Restaurant Bangkok ผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมืออย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef แห่ง Royal Osha และเป็นเชฟมากประสบการณ์ที่อยู่วงการอาหารไทยมานานกว่า 40 ปี เริ่มต้นเป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยตั้งแต่อายุ 24 ปี ที่จะต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ”ของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี จนสร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นอีกห้องอาหารไทยที่ถูกจัดอยู่ในระดับแถวหน้าของเมืองไทยด้วย และยังเป็นอาจารย์สอนที่ โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่ได้สร้างเชฟรุ่นใหม่ประดับวงการอาหารอีกมากมาย ถือว่าเป็นเชฟมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทยอีกคนเลยก็ว่าได้ และไม่เพียงแค่ประสบการณ์ในวงการอาหารไทยอย่างยาวนานเท่านั้น แต่เชฟวิชิต มุกุระ ยังมีความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะช่วยยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายไปทั่วโลก และเป็นจุดเริ่มต้นของ Royal Osha ที่ได้ร่วมมือกันสร้างร้านอาหาร Michelin Restaurant แห่งนี้ขึ้นมากับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล เพื่อถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านทางอาหารไทยภายใต้แนวคิด “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” ที่จะให้นักชิมสามารถสัมผัสได้ถึงความครบเครื่อง ครบรส ครงองค์ประกอบ มีสีสันสวยงาม และมีรสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด ตามแบบฉบับต้นตำรับอาหารไทย พร้อมกับผสมผสานการใช้สมุนไพรพื้นบ้านที่ให้ความอร่อย และช่วยบำรุงร่างกายภายในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของเมนูอาหารไทยที่ Royal Osha ที่สามารถนำของพื้นบ้านไทยมาประยุกต์ใช้ให้นักชิมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และด้วยความตั้งใจ และความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ Royal Osha ได้รับรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน และเป็น 1 ใน Michelin Restaurant ที่เหล่านักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติต่างบอกต่อกันว่าเป็นอีกร้านอาหารไทยที่มาเยือนประเทศไทยแล้วไม่ควรพลาด


คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

3. พบกับเมนู 3 ฤดู ที่ Michelin Restaurant เลือกใช้วัตถุดิบตามศาสตร์แพทย์แผนไทย ได้ทั้งความอร่อย และบำรุงร่างกาย

Michelin Restaurants

เมนูอาหารของ Royal Osha Michelin Restaurant นั้นมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ที่ถือว่าเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้วัตถุดิบที่ใช้ในการรังสรรค์เมนูอาหารนั้นจะมีความสด ใหม่ สะอาด ที่จะมีความครบเครื่อง ครบรสที่มีรสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด ตามต้นตำรับอาหารไทย และมีอาหารครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่ให้นักชิมได้อิ่มอร่อย และสุขภาพดีได้ในเวลาเดียวกัน โดยเมนูแนะนำจาก Set Menu 3 ฤดูกาล มีดังนี้

  • คิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน) ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา (Khao Chae Original By Royal Osha) เป็นเมนูยอดนิยมของนักชิมที่แวะเวียนมาที่ Royal Osha และจัดอยู่ในเมนูอาหารของคิมหันต์ฤดู เพราะว่าสามารถช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี ทำมาจากข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 แช่ข้ามคืน ที่ช่วยสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน เพิ่มความกลมกล่อมด้วยผักแกะสลักต่างๆ อย่างกระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก
  • วัสสานฤดู (ฤดูฝน) แกงปูทะเลใบยี่หร่า (Crab and Tree Basil Curry) เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่ในเมนูอาหารของวัสสานฤดู เพราะว่ามีส่วนประกอบของสมุนไพรที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น ทำมาจากเนื้อปูที่มีความสดใหม่ เนื้อหวาน นุ่ม ที่ผ่านการปรุงสุกในแกงเผ็ดเข้มข้นที่มีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงผสมผสานกะทิสดที่มีความมัน และมีใบยี่หร่าภายในแกง และมีใบยี่หร่าทอดกรอบ เหมาะกับการรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ที่จะช่วยให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อมมากขึ้น
  • เหมันต์ฤดู (ฤดูหนาว) ต้มลูกรอกฟัวกราส์ไก่ฝรั่งเศสหนังไก่กรอบ (Boiled French Chicken with Foie gras and Crispy Chicken Skin) เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่เมนูอาหารเหมันต์ฤดู เพราะว่ามีส่วนประกอบของสมุนไพรที่สามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ โดยทำมาจากการตุ๋นไก่ในน้ำใส และผ่านการเคี่ยวเป็นระยะเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซุปมีความหอมหวานจากธรรมชาติของกระดูกไก่ มาพร้อมกับลูกรอกที่ผสมกับฟัวกราส์ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการนึ่ง เสิร์ฟคู่กับเนื้อไก่ และหนังไก่กรอบ ราดน้ำซุปร้อนๆ เพื่อช่วยเพิ่มความกลมกล่อมมากขึ้น

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

4. ลิ้มลองอาหารไทยที่ Michelin Restaurant ช่วยสร้างความพิเศษให้ในวันสุดพิเศษทุก Festival

สำหรับอาหารไทยที่ Royal Osha Michelin Restaurant นั้นสามารถแวะเวียนมาลิ้มลองอาหารไทยสไตล์พรีเมียมได้ในทุกโอกาส เพื่อช่วยสร้างความพิเศษให้กับวันสุดพิเศษของนักชิมได้เป็นอย่างดี โดยที่ Royal Osha นั้นก็จะมีการจัด Set Menu, Gift Box หรือโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นในช่วงวันปีใหม่ ที่จะมีการจัด Set Special Festive Menu ขึ้นมา ที่ภายใน Set Menu ก็จะมีเมนูอาหารสุดพิเศษที่เหมาะสมกับวันพิเศษ หรือช่วงวันวาเลนไทน์ ที่เป็นวันแห่งความรัก ก็จะมีการจัด Set Menu Cherish Loce This Valentine’s Day With Moment That Matter ที่มี 6 Sepcial Courses Dinner ที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความรักของคู่รักที่เลือกมาสร้างเวลาอันน่าจดจำที่ Royal Osha หรือถ้าหากในช่วงเทศกาลนั้นๆ ไม่ได้มีการจัด Set Menu ขึ้น ก็จะมีการทำ Gift Box แทน เช่น ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ก็จะมี Royal Osha Holiday Gift ที่จะมี Khao krob, Premium Puff, Christmas bush flower honey, Chilli jam (plant based), Salted shredded mushroom, Red bean layers cookies และ Scented candle ที่ผ่านการปรุง และการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์อันล้ำเลิศในการสัมผัสรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากรอยัลโอชา หรือจะเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่มี Chinese New Year Gift Box ที่มี มาการองไส้ช็อคโกแลต และส้ม, หินฝนทอง, ขนมลูกส้ม, คุกกี้เสี่ยงทาย, ขนมมงคลมังกรไส้ทุเรียน, ขนมมงคลปลาทองไส้คัสตาร์ด, ขนมมงคลไส้ถั่วแดง และขนมปุยฝ้าย ที่เป็นขนมมงคล 8 ชนิด รังสรรค์มาจากส่วนผสมชั้นเลิศ โดยเชฟวิชิต มุกุระ พร้อมกับบรรจุในกล่องพรีเมียมประดับลวดลายของมังกรสีทองลงบนกล่อง เพื่อเสริมสิริมงคล และสื่อความหมายที่ดี มีแต่ความสุข และความมั่งคั่ง มั่นคง เสริมสิริมงคลทั้งผู้ให้และผู้รับในช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนั้น นักชิมคนไหนที่กำลังมองหาร้านอาหารไทย Michelin Restaurant ที่เหมาะกับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล หรือต้องการหาของขวัญในแต่ละเทศกาล ก็สามารถแวะเวียนมาที่ Royal Osha ได้ในทุกโอกาส ทุกเทศกาล 

ทั้งนี้ Set Menu, Gift Box และโปรโมชั่นในแต่ละเทศกาลของแต่ละปีนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ทำการสั่งซื้อ หรือสำรองที่นั่งได้ที่ Line Official : @royalosha หรือ เบอร์โทรติดต่อ 02-256-6555 หรือ 085-489-0571

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

5. Authentic Thai Taste และ Thai Vibes ที่ Royal Osha 1 ใน Michelin Restaurant ที่มีความเป็นไทยเป็นเอกลักษณ์

Michelin Restaurants

Royal Osha เป็นร้านอาหารไทย Michelin Restaurant ที่ Authentic Thai Taste และ Thai Vibes แบบ 100% เพราะว่าที่ Royal Osha นั้นไม่ได้เพียงแค่ต้องการถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านทางอาหารเท่านั้น แต่ว่ายังทำการดีไซน์ภายในร้านอาหารให้มีบรรยากาศที่มีความเป็นไทยเข้าไปด้วย เพื่อให้เวลาที่นักชิมได้ลิ้มรสอาหารไทยนั้นจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศความเป็นได้ไปพร้อมๆ กัน ที่จะช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ให้มื้ออาหารนั้นๆ ให้พิเศษมากยิ่งขึ้น โดยภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีการดีไซน์ และตกแต่งในทุกๆ ส่วนให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับภายในห้องอาหาร การออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก รวมถึงการเลือกใช้ของใช้ และของตกแต่งต่างๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่มีลักษณะ สีสัน และมีกลิ่นอายของความเป็นไทย เพื่อให้นักชิมได้รู้สึกเหมือนกับกำลังเยี่ยมชมพระราชวังสมัยโบราณ และดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษที่เข้ากันกับมื้ออาหารไทยพรีเมียมได้อย่างลงตัว และด้วยความเป็นไทยตั้งแต่มื้ออาหารไปจนถึงบรรยากาศภายในร้าน จึงทำให้ Royal Osha นั้นเป็น Michelin Restaurant อาหารไทย Authentic Thai 100% ที่นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่แวะเวียนกันมาประทับใจจนต้องกลับมาซ้ำกันมากกว่า 50% เลยทีเดียว

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. Royal Osha Michelin Restaurant ที่นักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ การันตีว่าเป็นร้านอาหารไทยพรีเมียมที่ต้องกลับมาซ้ำ

Michelin Restaurant

Royal Osha เป็นร้านอาหารไทย Michelin Restaurant ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน และได้รับรางวัลการันตีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น User’s Choice Wongnai, Thailand Select Premium, Thailand Tatler Best Restaurant หรือ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards เป็นต้น และไม่เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีเท่านั้น แต่ยังได้รับรีวิวจากเหล่านักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ได้แวะเวียนเข้ามาลิ้มลองความอร่อยของอาหารไทยที่ Royal Osha ที่การันตีได้ว่าทุกเมนูอาหารไทยที่ Royal Osha Michelin Restaurant นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่นักชิมที่ชื่นชอบอาหารไทยต้องห้ามพลาด ดังนี้

Aim

“อาหารอร่อยเลิศ ชอบการจัดแต่งจานอาหารมีความพิถีพิถันบ่งบอกถึงความใส่ใจทุกรายละเอียด การบริการดี ให้ความสำคัญใส่ใจกับลูกค้าเป็นอย่างดี บรรยากาศร้านสวยหรู บ่งบอกความเป็นสัญลักษณ์ไทยได้เยี่ยม ต้อนรับแขกบ้าน แขกเมืองได้ไม่อายใคร โอชาสมชื่อค่ะ สุดยอด”

Wilaiwan Jan

“ร้านสวย อาหารอร่อยมาก พนักงานบริการดีทุกคน ต้องกลับมาอีกแน่นอน #อาหารไทยอร่อยที่สุด”

Somkid Chatrattanawanich

“หรูหรา การบริการดี รสชาติอาหารดี คุณภาพวัตถุดิบดีมาก”

Nicha Suebwonglee

“The food was amazing, especially the fragrance of the food. The presentation, especially Tom Yum Kung, was especially good. For dessert, order cream brûlée”

Corazon Teresa Borje Galera

“Good ambience, good food, staff provide excellent service.”

Stella Yu

“Both the environment and the food were amazingly good! We ordered the ton yum which makes my hubby non stop praising the taste! The slow cooked chicken leg in yellow curry is also fantastic. The service is terrifically great, they give a good introduction on each dish!”

Jon Wong

“Stylish restaurant serving creative modern Thai cuisine. Dishes were stunning and service was great. Will come back again.”

elsashen0529

“This restaurant really made the supervisor in Thailand break the fee. Eat a big meal. Every dish is art, especially the flower. I can’t bear to eat it. The taste is still Thai. There are many seasonings and the taste is very rich.”

没有蜡olling

“Based on traditional Thai cuisine, innovative elements are integrated into molecular cuisine, making Thai cuisine refreshing in form and taste. Rated as “the best restaurant in Thailand”, CNN listed it as one of “the 10 best newly opened restaurants in Bangkok”, come to Bangkok, Thailand must eat the new Michelin Samsung! ! Need to book in advance, do not wear slippers.”

爱喝柠檬茶

“Full of mystery, all are mainly purple, even the decorative dishes, is also purple blue flowers, so far I have not seen the restaurant with such a fancy stool, I feel not good, but sitting comfortably, the food is very beautiful, thank you very much for the chefs’ careful production, the dishes and service are very standard, the price is not expensive, Great value experience.”

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย และอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียมเหมือนนักชิมที่ได้รีวิวไว้ข้างต้น ก็สามารถแวะมาลิ้มลองความอร่อยของอาหารไทยสไตล์พรีเมียมที่ Royal Osha Michelin Restaurant ได้ สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่งได้เลยที่  www.royalosha.com หรือที่เบอร์ 02-256-6555 หรือ 085-489-0571 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

7. เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารไทยแท้พรีเมียม ที่ Royal Osha Michelin Restaurant สำรองที่นั่งได้เลย ที่นี่!

สำหรับนักชิมที่อยากจะเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารไทยแท้แบบพรีเมียม ที่ Royal Osha ที่เป็น 1 ใน Michelin Restaurant ที่ทุกเมนูนั้นผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีจากเชฟมากฝีมือ ที่ตั้งใจปรุงแต่งทุกเมนูให้มีความครบเครื่อง ครบรส ครบองค์ประกอบ มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอย่างชัดเจน เพื่อให้ในทุกคำที่นักชิมได้ลิ้มลองนั้นสามารถเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และสัมผัสได้ถึงความอร่อยกลมกล่อมของอาหารไทย มีบรรยากาศร้านที่มีความเป็นไทยไม่แพ้กันกับอาหาร เดินทางสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ใน Location ใจกลางเมือง เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส ตอบโจทย์ได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ดังนั้น นักชิมคนไหนอยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยพรีเมียม สามารถสำรองที่นั่ง หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้ 

  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on

เสน่ห์ของการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant

Fine Dining Restaurant

เสน่ห์ของการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant

Fine Dining Restaurant

Fine Dining คือหนึ่งในไลฟ์สไตล์การทานอาหารที่ปรุงและตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญในอาหารเฉพาะทาง มาพร้อมการบริการและบรรยากาศที่ดีเลิศตามมาตรฐานของ Fine Dining Restaurant ประสบการณ์มื้อพิเศษใน Fine Dining Restaurant จึงมีมูลค่าและราคาสูงอย่างสมเหตุผล 

โดยเฉพาะการทานอาหาร Fine Dining ที่ Royal OSHA ผู้คว้ารางวัลมามากมายหลายปีซ้อน ทางร้านได้รางวัล Michelin Guide ในปี 2019 และถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Fine Dining Restaurant ที่ดีที่สุดของประเทศไทย ในแต่ละปี Royal OSHA ได้สั่งสมชื่อเสียงจากการติดอันดับต้น ๆ ของ Fine Dining Restaurant และได้เป็น Fine Dining Restaurant เบอร์ต้น ๆ ของไทยที่ถูกโหวตเลือกโดยลูกค้าว่าดีที่สุด 

แต่นอกจากเรื่องของรางวัลและการจัดอันดับ Fine Dining Restaurant ที่ดีที่สุดแล้ว ยังมีอีกหลายเหตุผลและเรื่องราวที่ทำให้ Royal OSHA มีเสน่ห์ มีมูลค่า และมีความหมายทางวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ

1. ทำไมการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant จึงมีราคาและมูลค่าสูง

Fine Dining Restaurants

อาหารที่ Fine Dining Restaurant เป็นอาหารที่จัดว่าหรูหราราคาแพง แต่ความหรูหราและราคาของอาหารสไตล์นี้นับว่าคุ้มค่ากันกับมื้ออาหารที่ให้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสแห่งศิลปะ ทุกขั้นตอนล้วนผ่านการคิดวางแผนและทำงานด้วยความประณีต นับตั้งแต่ที่ลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน การบริการ การตกแต่งบรรยากาศร้านและโต๊ะอาหารล้วนถูกจัดวางอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ก่อนการนำเสนอเรื่องราวและรสชาติอาหารผ่านเมนูอย่างเป็นลำดับ ถ้าเปรียบกับงานศิลปะแล้วการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant ก็คล้ายกับการชมอุปรากรโอเปราเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่าง 4 ข้อของ Fine Dining Restaurant ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมการทานอาหาร Fine Dining Restaurant จึงมีมูลค่าสูง

1.1 วัฒนธรรมการทานอาหารใน Fine Dining Restaurant จากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18th 

ในยุคแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศสบรรดาเชฟประจำบ้านขุนนางและชนชั้นสูงจำนวนมากถูกปลดออกจากงาน วัฒนธรรมการปรุงและเสิร์ฟอาหารฟูลคอร์ส ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวานสำหรับชนชั้นสูงเพียงโต๊ะเดียวได้ถูกปรับเปลี่ยนมาขายให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และกลายเป็นจุดขายของร้านอาหารประเภท Fine Dining Restaurant ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรูปแบบร้านอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วยุโรป และยังนำไปสู่การจับคู่ของ Fine Dining Restaurant กับโรงแรม เป็นบริการหรูหราสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้นอนพักและลิ้มรสอาหารด้วยประสบการณ์พิเศษพร้อม ๆ กัน โรงแรมแห่งแรกที่มีบริการนี้มีชื่อว่า Hôtel de Paris, Monte-Carlo (1864) เสน่ห์สำคัญของ Fine Dining Restaurant นั้นจึงมาจากความประทับใจและมุมมองที่ลูกค้ามีต่อการรับบริการและดูแลสุดพิเศษจากทางร้านในทุกขั้นตอน

1.2 Fine Dining Restaurant เน้นความพิถีพิถันในลำดับการเสิร์ฟอาหารแต่ละจาน

สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ในการทานอาหารแบบ Fine Dining Restaurant ก็คือลูกค้าจะได้ลิ้มรสเมนูอาหารตามลำดับคอร์สที่ถูกจัดวางมาให้ โดยลำดับแรกของคอร์สก็คือ เมนูเรียกน้ำย่อย (Starters) ที่จะมาในปริมาณพอเหมาะ ทานแล้วชวนให้อยากอาหารและรอคอยเมนูลำดับถัดไปอย่างกระตือรือร้น ลำดับที่สองและสามขึ้นอยู่กับการจัดเรียงของ Fine Dining Restaurant ส่วนมากจะมีทั้งสลัดและซุปเบา ๆ เรียงมาก่อนจะเข้าไปสู่เมนูหลัก จานใหญ่ที่จะเป็นช่วงไฮไลท์ของ Fine Dining Restaurant พร้อมกับปิดท้ายด้วยของหวาน ซึ่งทางร้าน Royal OSHA จะให้ลูกค้าได้ทำการเลือกเมนูในแต่ละลำดับของคอร์สก่อน และแต่ละคอร์สเมนูของ Royal OSHA ก็มีตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย อย่างเช่น เมนูเมี่ยงคำบัวหลวงในหมวดคอร์ส Starters ที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสที่อร่อยพอดีคำ พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับความสวยงามประณีตในการจัดเมนูเรียกน้ำย่อยจานนี้ ซึ่ง Royal OSHA พร้อมส่งมอบความสวยงามที่ทานได้สไตล์ Fine Dining Restaurant ในทุก ๆ เมนู 

นอกจากนั้นเครื่องดื่มก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ Fine Dining Restaurant ให้ความสำคัญ ลูกค้าสามารถสอบถามและขอคำแนะนำจากทางร้านได้เลย ว่าเมนูนี้ทานคู่กับเครื่องดื่มชนิดใดดีเพื่อให้รสชาติของอาหารดียิ่งขึ้น และในลำดับฟูลคอร์สทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พนักงานจะคอยให้บริการดูแลเคียงข้างอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตลอดทั้งคอร์ส 

1.3 กฎสำคัญของ Fine Dining Restaurant คือความเคร่งครัดในมารยาทการให้บริการ

กฎระเบียบของร้าน กิริยามารยาท เครื่องแต่งกาย ความรู้เชิงลึกในเมนูอาหาร และการบริการทุกอย่างของ Fine Dining Restaurant ต้องเพอร์เฟกต์ ไร้ที่ติ เพราะมันส่งผลต่ออารมณ์และบรรยากาศในการทานอาหารของลูกค้าโดยตรง พนักงานที่ให้บริการกับลูกค้าเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร หรือต้องการจะสื่ออะไรอย่างรวดเร็ว ต้องมีทั้งทักษะการสื่อสารและน้ำเสียงที่ไพเราะในการคำแนะนำกับลูกค้าถึงรายละเอียดของเมนูต่าง ๆ  อีกทั้งต้องมีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างฉับไว บริการจาก Fine Dining Restaurant จึงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เสมอ เพราะพนักงานทุกคนถูกฝึกฝนมาให้ใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และพร้อมให้การดูแลเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในทุก ๆ มื้อ เพราะฉะนั้นในการเตรียมการต้อนรับลูกค้า Fine Dining Restaurant จะระบุให้ลูกค้าทำการจองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อที่ทางร้านจะได้พร้อมต้อนรับลูกค้าอย่างดีที่สุด และร้าน Fine Dining Restaurant จะเสริมความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการเชิญ Chef Table มาเป็นไฮไลท์ของมื้ออาหาร อย่างที่ร้าน Royal OSHA เชิญเชฟมิชลินสตาร์ หรือเชฟวิชิต มุกุระ มารังสรรค์เสิร์ฟเมนูพิเศษให้

1.4 เมื่อโอกาสและวาระพิเศษมาถึง จะต้องนึกถึง Fine Dining Restaurant

คำตอบง่าย ๆ ของคำถามที่ว่า ทำไมถึงเลือกใช้ช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวาระพิเศษไหน ๆ กับ Fine Dining Restaurant ลูกค้าส่วนใหญ่จะตอบว่า เพราะความโรแมนติก เพราะบรรยากาศดี ๆ ในร้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง  Fine Dining Restaurant ตั้งใจที่จะมอบให้กับลูกค้า ด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งบรรยากาศที่สวยงาม เมนูพิเศษในทุก ๆ คอร์สที่รังสรรค์มาเพื่อมอบประสบการณ์ดี ๆ ที่ลูกค้าได้สัมผัส Fine Dining Restaurant มักสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้กลับมารับบริการที่ร้านอาหารอย่างไม่รู้เบื่อ เพราะการทานอาหารแบบ Fine Dining จะมอบความทรงจำและรสสัมผัสดี ๆ กลับไปพร้อมกับลูกค้าเสมอ ฐานลูกค้าประจำของ Fine Dining Restaurant จึงแข็งแกร่งและให้รีวิวดี ๆ กับทางร้านมากมาย ร้านอาหาร Royal OSHA เป็นอีกหนึ่งแห่งที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อวันพิเศษ คนพิเศษ และมื้ออาหารพิเศษสไตล์ Thai Fine Dining Restaurant ของคุณ 

 

ร่วมรับประสบการณ์เลิศรสสุดพิเศษกับ Fine Dining Restaurant สไตล์ไทยฟิวชั่น สำรองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้านได้เลย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

2. เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง

Fine Dining Restaurant เป็นสไตล์การรับประทานอาหารที่มีความหรูหรา และมีราคาค่อนข้างสูง เพราะว่าการรับประทานอาหารแบบ Fine Dining นั้นจะเป็นเมนูอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งมาอย่างพิถีพิถัน และมีการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากฝีมือของเชฟที่มีความเชี่ยวชาญ โดยที่ Royal Osha นั้นก็มีเชฟวิชิต มุกุระ เป็น Executive Chef ประจำที่ Royal Osha และเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในด้านการปรุงแต่งอาหารไทยมากเป็นระยะเวลานานกว่า 40 ปี โดยเชฟวิชิต มุกุระ มีแนวคิดในการนำเสนอเมนูอาหารภายใต้แนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” หรือความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ที่เป็นอาหารไทยแนวใหม่สไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ รวมถึงมีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์อาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ทั้งในเรื่องของรูป รส กลิ่น และเสียง แบบเหนือระดับ พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงแต่ง พร้อมกับถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต การกิน อยู่ อาศัยของคนไทย ไว้ในอาหารทุกจาน เพื่อให้นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยในอีกมุมหนึ่งที่มีความแปลกใหม่ และนอกจากนั้นเมนูของ Royal Osha ยังมีการเลือกใช้พืช ผัก และสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร และมีการสลับสับเปลี่ยนอาหารใน Set Menu ตามฤดูกาล ได้แก่ คิมหันต์ฤดู วัสสานฤดู และเหมันต์ฤดู เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารไทยเลิศรสหลากหลายเมนู และได้อิ่มอร่อยไปพร้อมกับการบำรุงร่างกาย เพราะในอดีตการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ถือว่าเป็นศาสตร์แพทย์แผนไทยที่บำรุงร่างกายจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดีอีกด้วย และความพรีเมียมของ Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha นั้นยังไม่ได้หยุดเพียงแค่ฝีมือของเชฟ และเอกลักษณ์ในการเลือกใช้วัตถุดิบเพียงเท่านั้น แต่ว่ายังพิถีพิถัน และให้ความใส่ใจในการเรียบเรียง และนำเสนออาหารแต่ละเมนูที่วางแผนมาอย่างประณีต เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสองค์ประกอบของอาหารในแต่ละเมนูได้อย่างเต็มที่ และให้นักชิมได้รู้สึกว่าการรับประทานอาหาร Fine Dining นั้นเหมือนกับการชื่นชมงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ และสร้างความประทับใจในการเสน่ห์ รสชาติ และเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้แบบไม่รู้ลืม

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Chef ของ Royal Osha

3. พิถีพิถันในทุกเมนู ตั้งแต่ Starters จนเมนูสุดท้าย ใส่ใจทุกรายละเอียดที่สมกับเป็น Fine Dining Restaurant ที่ครองใจเหล่านักชิม

Fine Dining Restaurant

สำหรับเมนูอาหาร Fine Dining Restaurant ของ Royal Osha จะมีให้นักชิมได้เลือกหลากหลายแบบ เช่น แบบ A La Carte ที่นักชิมสามารถสั่งอาหารได้ตามความชอบ และแบบ Set Menu ที่เชฟจะทำการจัดสรรเมนูอาหารต่างๆ มาให้แบบ Full Option ที่มีการผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวตั้งแต่เมนูแรกจนเมนูสุดท้าย ซึ่งนักชิมสามารถเลือกได้ว่าอยากรับประทานอาหารแบบไหน และในกรณีที่มีการแพ้อาหารบางชนิด ก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าทางเชฟจะมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อปรุงแต่งอาหารออกมาให้นักชิมได้อย่างดีเยี่ยมมากที่สุด และในส่วนของเมนูแนะนำที่ขึ้นชื่อของ Royal Osha ที่นักชิมไม่ควรพลาด มีดังนี้

  • ข้าวแช่ต้นตำรับ Royal Osha เป็นเมนูแนะนำ และเป็นเมนูขึ้นชื่อที่นักชิมหลายๆ คนที่เคยลิ้มลองแล้วจะต้องกลับมาซ้ำ เพราะว่าข้าวแช่ต้นตำรับ Royal Osha นั้นมีความอร่อยกลมกล่อมไม่เหมือนใคร ด้วยการเลือกใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ แช่ในน้ำลอยดอกไม้ไทยที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อให้ข้าวมีความหอมของดอกชมนาดจากการแช่ข้ามคืน พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียง 7 ชนิด ตามต้นตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน ที่จะต้องรับประทานเครื่องเคียงเรียงลำดับจากคาวไปหวาน และควรรับประทานคู่กับแตงกวา และต้นหอมสลับกัน เพื่อเป็นการล้างปากไปในตัว และจะได้สัมผัสถึงความอร่อยกลมกล่อมของข้าวแช่ และเครื่องเคียงได้อย่างเต็มที่
  • ข้าวยำสมุนไพรน้ำบูดู เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่เป็นอาหารไทยท้องถิ่นของทางภาคใต้ โดยเมนูนี้เป็นเมนูที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่มีความหลากหลาย และมีประโยชน์ทุกคำ ด้วยการที่เชฟวิชิต มุกุระเลือกใช้ข้าวเหนียวดำลืมผัวจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่มาจากโครงการช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่น มาพร้อมกับเครื่องสมุนไพรต่างๆ แบบจัดเต็ม เช่น ใบมะกรูด ใบชะพลู ตะไคร้ซอย มะม่วงเปรี้ยว ถั่วแดง ลูกเดือย ส้มโอ ถั่วฝักยาว ปลาข้าวสาร และกุ้งแห้งตำ ที่ผสมผสานกับน้ำยำบูดูจากทางภาคใต้ จึงทำให้มีข้าวยำสมุนไพรน้ำบูดูนั้นมีความหอม อร่อย กลมกล่อม แบบครบเครื่อง
  • หอยเชลล์ทอดกับไข่ตุ๋น และน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเมนูนี้มาจากการเดินทางไปทำงานที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยการนำหอยเชลล์ชั้นดีปรุงสุกด้วยการทอด นำมาผสมผสานกับความนุ่มละมุนของไข่ตุ๋น พร้อมกับเพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มซีฟู้สูตรพิเศษของเชฟวิชิต ทำให้เมนูนี้มีความหอม อร่อย และสดใหม่เป็นอย่างมาก
  • ต้มโคล้งทูน่ากับปลากรอบญี่ปุ่น เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่มีความแปลกใหม่ เพราะเป็นเมนูที่มีความฉีกจากเมนูต้มโคล้งแบบทั่วไป และได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำซุปกระดูกหมูราเมนของญี่ปุ่น ด้วยการนำเครื่องต้มโคล้งมาบดกับเนื้อปลา พร้อมกับปรุงรส และนำไปเคี่ยวในน้ำสต็อกปลาเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงนำมากรองจนได้น้ำซุปใส หอมเครื่องต้มโคล้ง ที่จะต้องรับประทานคู่กับไชเท้าตุ๋น และปลากรอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อมมากขึ้น
  • ถั่วแปบ ขนมครกข้าวเหนียวมะม่วง ขนมสอดไส้ เป็นเมนูอาหารหวานแนะนำของ Royal Osha ที่เป็นการเสิร์ฟพร้อมกัน 3 เมนู ได้แก่ ถั่วแปบ ที่ทำมาจากข้าวเหนียวดำรองด้วยน้ำตาลงา ขนมสอดไส้โบราณหน้ากะฉีดห่อด้วยใบตอง และขนมครกข้าวเหนียวมะม่วง สูตรของเชฟวิชิต ที่มีการทำแป้งขนมครกให้มีเปลือกนอกกรอบ หยอดหน้าด้วยข้าวเหนียวมูน มะม่วงสุกหั่นชิ้น และครีมกะทิ ที่จะต้องกินภายในคำเดียว เพื่อให้ได้ความหอม กรอบนอกนุ่มใน นุ่ม และละมุนมากที่สุด

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหาร ของ Royal Osha

4. สัมผัสบรรยากาศ Fine Dining Restaurant แบบแท้จริง ได้ที่ Royal Osha

นอกจากเมนูอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่จะต้องเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี ผ่านการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน มีรสชาติ และองค์ประกอบที่ครบถ้วนตามฉบับอาหารไทย และมีการนำเสนอให้นักชิมได้ลิ้มลองอย่างประณีตแล้ว ทาง Royal Osha ยังให้ความใส่ใจในเรื่องของบรรยากาศภายในห้องอาหารในทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า ผนัง เพดาน โต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยมากที่สุด โดยภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ มาพร้อมกับการแฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก ทำให้เวลาที่นักชิมได้ก้าวเข้ามาที่ Royal Osha นั้นจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม ที่มีบรรยากาศ เสน่ห์ และกลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ และให้ความรู้สึกเรียบหรู รวมถึงภายในห้องอาหารยังมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเข้ากันกับการตกแต่งภายในร้าน ทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหาร Fine Dining ที่ Royal Osha นั้นจะช่วยนักชิมได้สัมผัสถึงการรับประทานอาหารไทย Fine Dining Restaurant แบบแท้จริง และด้วยความที่ Royal Osha นั้นมีความเป็นไทยชัดเจนในทุกๆ ด้าน จึงทำให้เป็นอีก 1 ใน Fine Dining Restaurant ที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มนักชิมคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

5. รีวิวจากนักท่องเที่ยวตัวจริง ที่เป็นเสียงการันตีว่า Royal Osha เป็น 1 ใน Fine Dining Restaurant ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

Fine Dining Restaurant

Royal Osha เป็น Fine Dining Restaurant ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมายหลายปีซ้อน ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide, Thai Select Premium, Use’s Choice Wongnai หรือ Thailand Tatler Best Restaurant ที่ล้วนแต่เป็นรางวัลที่มีเกณฑ์ในการคัดเลือกที่ค่อนข้างละเอียด และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น 1 ใน Fine Dining Restaurant ระดับแนวหน้าของประเทศไทย และนอกจากรางวัลการันตีต่างๆ แล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังได้รับรีวิวจากเหล่านักชิมที่แวะเวียนมาสัมผัสอาหารไทยแบบตัวจริง เสียงจริงอีกมากมาย เช่น รีวิวนักชิม Local Guide และ Wongnai รวมถึงรีวิวจากนักชิมชาวต่างชาติที่ติดใจในความครบเครื่อง ครบรสของอาหารที่ Royal Osha ดังนี้

Paul Nesteby (Oslo, Norway)

“A wonderful Thai food gem in Bangkok. We had a wonderful 8 course tasting menu which was truly an amazing journey into several typical thai flavors/dishes that had been perfectioned and made delicately as part of this delicious set menu. The staff was very service minded. The venue is elegant. We brought our kid and he just loved the attentiveness of the staff as we did. Can highly recommend this gem in Bangkok.”

Itinerant Bari (Des Moines, Iowa)

“Great Thai cuisine and a refined atmosphere to unwind with friends. Expectations when choosing a Michelin Star restaurant are always high, and Royal Osha lives up to the denomination. You will find here many of the traditional Thai dishes, and they are elevated to the culinary, service and fine dining experience standards coming with One Michelin Star. Honestly, not much more to say, you come here with high expectations, and they are met in every single bite, sip and detail. You can be certain you will enjoy your dining experience with all your senses.”

DickZe (Bangkok, Thailand)

“Very nice Thai food, nice atmosphere. The restaurant has a nice interior with a very high ceiling. The general atmosphere is distinguished and classy. During an earlier visit I was annoyed by disco music, but now nothing of such kind – fortunately. Service is very efficient and friendly, the kind you hardly notice. The menu has Thai dishes. We had an appetizer of tuna salad and beef rolls, a main course of lobster and beef curry. All very well made and tasty. And a pleasure not only to the tongue but also to the eye. All this comes not cheap of course, but we found the prices in keeping with the presented quality.”

luxuryhotelsonly (Dubai, United Arab Emirates)

“We had an amazing dinner at Royal Osha in Bangkok. From the moment we entered the restaurant to the minute we left again, it was a superbe experience and could not have been any better! The service was outstanding, the waiter even organized a car for us and accompanied us till we got savely inside.

The food was just outstanding and the best we had in Thailand, probably even in any Thai food place ever. Each dish was beautifully arranged, tasted perfect and was more than a generous serving. The restaurant itself is beautifully designed and extremely tasteful. We enjoyed every minute, it could not have been any better! Full 5 star score – see you next time in BKK!”

ThorLieu (Hong Kong, China)

“The best Thai restaurant during my visit!

In terms of location, it is not very convenient, but if you are going to the Asiatique night market, I would say this Thai restaurant is outstanding among other outlets there. I believe it is because my visit was on Monday, 2 April, so there were not many people although I did make an advance booking. The Staff and hostess are very nice and very very attentive and proactive. In terms of food, I ordered deep fried shrimp, yellow curry with chicken leg, Tom Yum and mango sticky rice. All the food is very tasty and presentable. I especially love the mango sticky rice as from the sliced mango presentation, you can see how good the skill of their chef!. I will visit it again on my next visit. I hope they can keep a good job.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้ารางวัลการันตี ของ Royal Osha

6. ลิ้มรสอาหารไทยสุดหรูหราแบบ Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์นักชิมได้ทุกรูปแบบ

Fine Dining Restaurant

เมนูอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha นั้นมีการเลือกใช้วัตถุดิบแบบผสมผสาน ด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จะนำมาปรุงแต่งให้กลายเป็นอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และมีกลิ่นอายของอาหารไทยอย่างชัดเจน รวมถึงมีความครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ มีความกลมกล่อม ทำให้เมนูอาหารไทยที่นักชิมได้ลิ้มลองกันนั้นมีหลากหลายสไตล์ และสามารถเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย ส่งผลให้เมนูอาหารไทยที่ Royal Osha สามารถตอบโจทย์นักชิมได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขกคนสำคัญ เฉลิมฉลองกับครอบครัว พบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์กับคนรัก แถมยังตั้งอยู่ใน Location ที่เดินทางสะดวกสบาย จึงทำให้นักชิมหลายๆ คนเลือกที่จะแวะมาลิ้มลองอาหารไทยชั้นเลิศที่ Royal Osha ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสถึงความอร่อยสุดพรีเมียม สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

    • Line Official : @royalosha
    • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
    • Facebook : Royal Osha Bangkok
    • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on

Chef Table กับ Royal OSHA

Chef Table

Chef Table กับ Royal OSHA

Chef Table

ในปัจจุบัน Chef Table เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษที่กำลังเป็นที่นิยม และเป็นเทรนด์ใหม่ในคอนเซปต์ทานอาหารปรุงสดจากมือเชฟ เมนูโดยเชฟมือฉมังที่จะมาร่ายรำทำอาหารโชว์ฝีมือตามความสร้างสรรค์และเดาใจได้ยาก ซึ่งเชฟของ Chef Table แต่ละท่านก็จะมีเอกลักษณ์ในการคิดและรังสรรค์เมนูมาให้ลูกค้าได้ชิมและได้ร่วมรับประการณ์ดี ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งที่ Royal OSHA เองก็ได้เชิญ Chef Table มือรางวัลมิชลินสตาร์มาร่วมสร้างความสุข ความเพลิดเพลิน และความเอร็ดอร่อยที่โต๊ะอาหารให้กับลูกค้าด้วย

1. ประสบการณ์ที่แตกต่างระหว่าง Chef Table และ Fine Dining

Chef Table

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างการทานอาหาร Chef Table กับ Fine Dining คือ “การเสิร์ฟอาหาร” ทั้งในเรื่องของลำดับการออกอาหารแต่ละเมนูมาให้กับลูกค้าและผู้ที่เสิร์ฟ สำหรับ Fine Dining อย่างที่ทุกคนเข้าใจกันดีว่าอาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟตามลำดับ ตั้งแต่ Starters, Salads, Soups, Main Course และ desserts เพื่อให้ผู้ทานได้ค่อย ๆ รู้สึกเพลิดเพลินและอยากอาหารมากขึ้นตามลำดับการทานจากการเริ่มด้วยจานเบา ๆ เรียกน้ำย่อย ไล่ระดับความเอร็ดอร่อยและเจริญอาหารพร้อม ๆ กัน ไปจนถึงเมนูของหวานเป็นจานปิดท้าย เป็นอันจบคอร์ส การเรียงอันดับเมนูอาหารที่ออกของ Fine Dining จึงแตกต่างกับการออกอาหารของ Chef Table 

ในขณะที่จุดเด่นของ Chef Table จะขึ้นอยู่กับความสดของอาหารที่ลูกค้าได้จดจ้อง ในขณะที่เชฟกำลังโชว์ฝีมือการปรุงอาหารตรงหน้าในครัวเปิด รูป กลิ่น เสียง และสีสันของอาหารที่กำลังถูกปรุงจะเป็นตัวเรียกน้ำย่อย และทำให้ผู้ทานได้รู้สึกถึงการตั้งแต่รอ ในอีกมุมหนึ่งผู้ทานจะได้สัมผัสกับความรู้สึกดี ๆ ที่มี Chef’s Table คอยทำอาหารออกมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ เป็นความรู้สึกที่เสมือนกับว่า เรากำลังนั่งรอคุณพ่อหรือคุณแม่ทำอาหารอย่างพิถีพิถันให้เราทานที่บ้านอย่างมีความสุข 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

ซึ่งการทาน Chef Table นั้นจะยิ่งแตกต่างจาก Fine Dining ออกไปอีก ในส่วนที่ว่า Chef’s Table จะเป็นผู้เลือกเมนูที่จะทำให้กับลูกค้าเอง หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเมนูตามใจเชฟ 

ความพิเศษในการทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่พรีเมียมเรียบหรูไม่แพ้กันเลย ของ Chef Table และ Fine Dining เป็นเสน่ห์ที่ร้าน Royal OSHA อยากมอบเป็นประสบการณ์ดี ๆ น่าตื่นตาตื่นใจ ให้ลูกค้าได้สัมผัสและเลือกจองคิวเข้ามารับบริการได้ที่ร้าน โดยลูกค้าจะสามารถมาพบและรับประสบการณ์ทานอาหาร Chef Table หรือ เชฟวิชิต มุกุระ ที่จะมาทำอาหาร Chef Table ในคอนเซปต์ `Classic Thai Elegance Reinvented`

2. ทำความรู้จักกับ Chef Table “Chef Vichit Mukura”

เชฟวิชิต มุกุระ ผู้มาเป็น Chef Table และผู้เป็นเจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ ด้วยคอนเซปต์การทำเมนูอาหารไทยฟิวชั่นที่ครบรสชาติ เลิศหรู และมีความเป็นโมเดิร์น จากความเชื่อที่ว่าอาหารไทยที่อร่อยจะต้องมีรสชาติกลมกล่อมโดยรวมรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน และปรุงออกมาให้รสชาติชัดเจนแต่พอดี นอกจากนั้นผักเครื่องเคียง สมุนไพรใบเล็กใบใหญ่ทั้งหลาย ต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เชฟวิชิตนำมาประกอบรวมไว้ในเมนู Chef Table เพื่อให้รสชาติในแต่ละเมนูมีรสชาติอร่อยถึงเครื่อง และพร้อมที่จะส่งมอบอาหารรสเลิศให้กับลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการ Chef Table กับเชฟวิชิตที่ร้านอาหาร Royal OSHA 

ฝีมือการทำอาหารไทยในสูตรพรีเมียมทั้ง Fine Dining และ Chef Table ของเชฟวิชิต ล้วนมาจากประสบการณ์การทำงานในฐานะเชฟร่วม 30 ปี จุดเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพของเชฟวิชิตมีแรงบันดาลใจมาจากการเฝ้ามองคุณแม่ทำอาหารในครัวและการได้เริ่มเป็นผู้ช่วยเชฟคุณแม่ ก่อนจะเข้ามาสู่วงการทำอาหารอย่างเต็มตัวที่หลายโรงแรมและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งในยุคนั้น เมื่อราว ๆ 40 กว่าปีที่แล้ว ประเทศไทยยังไม่ได้โรงเรียนสอนทำอาหารเฉพาะทางเหมือนในปัจจุบันนี้ 

เชฟวิชิตได้ผ่านการฝึกปรือผ่านงานครัวตั้งแต่งานเล็ก ๆ ดูแลทำความสะอาดจานจนได้ขึ้นตำแหน่งเป็นเชฟใหญ่ (Head Chef) และร้าน Royal OSHA ก็ได้เชิญเชฟวิชิต Chef Table ผู้เปี่ยมด้วยความสามารถและแรงบันดาลใจในการทำอาหารไทยอย่างสวยงาม มาทำเมนู Chef Table ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสและร่วมเก็บความทรงจำและประสบการณ์ดี ๆ กับอาหารไทยสูตรของเชฟวิชิตในคอนเซปต์ `Classic Thai Elegance Reinvented` กันที่ร้าน เมนู Chef Table ที่ลูกค้าจะได้รับจากเชฟจะมีอะไรบ้าง ต้องมาลองด้วยตัวเอง

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

3. เมนูอาหารไทย 3 ฤดู ระดับ High Class แบบ Chef Table ที่ Royal Osha

Chef Table

ทุกเมนูอาหารของ Royal Osha ผ่านการรังสรรค์จากเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็นเชฟมากประสบการณ์ และมีฝีมือระดับปรมาจารย์ ทำให้ทุกขั้นตอนการปรุงนั้นได้รับความใส่ใจ และความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก โดยแต่ละเมนูนั้นก็จะมีเรื่องราว และความละเอียดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ที่เชฟวิชิตได้ตั้งใจทำขึ้นมา เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงองค์ประกอบต่างๆ ของอาหารไทยได้อย่างแท้จริง รวมถึงยังมีการเปลี่ยนเมนู และวัตถุดิบตามแต่ละฤดูกาล เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารได้แบบไม่จำเจ มาพร้อมกับสรรพคุณทางยาที่ทำให้นักชิมได้อิ่มอร่อยไปกับอาหาร และได้ดูแลสุขภาพในเวลาเดียวกัน โดยเมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้

3.1 คิมหันต์ฤดู 

คิมหันต์ฤดู หรือฤดูร้อน เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศของประเทศนั้นจะมีความร้อนมากกว่าปกติ ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table จาก Royal Osha ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมานั้นจะมีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศร้อน เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสกับอาหารไทยได้อย่างเต็มที่ และได้รับการดับร้อนจากอาหารในเวลาเดียวกัน โดยเมนูแนะนำของคิมหันต์ฤดู มีดังนี้

  • ข้าวแช่ตำรับ Royal Osha เป็นเมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อของ Royal Osha ที่เหล่านักชิมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องห้ามพลาดที่จะลิ้มลอง โดยข้าวแช่ตำรับ Royal Osha นั้นจะเป็นข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่แช่ข้ามคืน พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียงชั้นเลิศ 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน รวมถึงยังมีผักแกะสลักต่างๆ ให้รับประทานเคียงกันด้วย
  • ยำผักหวานป่ากับสแกลลอปฮอกไกโด เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu ของคิมหันต์ฤดูที่รสชาติจัดจ้าน ด้วยการนำผักหวานมายำกับกะทิ และเครื่องกรอบต่างๆ มาพร้อมกับสแกลลอปฮอกไกโดที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการจี่ และโรยเกลือหิมาลายา ทำให้มีเนื้อหวาน สด นุ่มเด้ง เมื่อรับประทานคู่กันแล้วทำให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อม และลงตัวเป็นอย่างมาก
  • ต้มโคล้งปลากรอบแบบใสกับยำสายบัวพริกหวานและกุ้งสเปน เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu ของคิมหันต์ฤดูเช่นกัน โดยในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยต้มโคล้งปลากรอบแบบใส ที่มาพร้อมกุ้งสเปนที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการจี่ และโรยเกลือหิมาลายา และนำส่วนหัวทอดแบบเทมปุระ เพื่อนำมารับประทานคู่กับยำสายบัวพริกหวานที่มีน้ำยารสชาติเข้มข้น

3.2 วัสสานฤดู

วัสสานฤดู หรือฤดูฝน เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศจะมีฝนตกเป็นประจำ ทำให้มีความร้อนชื้น หรืออบอ้าวเล็กน้อย ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาให้มีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศที่มีความชื้น และมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้นักชิมได้มีสุขภาพที่ดี และได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยที่เชฟวิชิตได้ตั้งใจถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ โดยเมนูแนะนำของวัสสานฤดู มีดังนี้

  • แกงปูทะเลใบยี่หร่า เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่ใน Set Menu วัสสานฤดู โดยในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยเนื้อปูแบบจัดเต็ม ที่ผ่านการปรุงสุกในแกงเผ็ดเข้มข้นที่มีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงผสมผสานกะทิสดที่มีความมัน มาพร้อมกับใบยี่หร่าภายในแกง และมีใบยี่หร่าทอดกรอบ เมื่อนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็จะช่วยให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อม
  • เนื้อแกะนิวซีแลนด์ย่างผัดฉ่า เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu วัสสานฤดูที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อแกะจากประเทศนิวซีแลนด์ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการย่าง ทำให้มีความหอม และนุ่มเหนียวกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซอสผัดฉ่าที่มีความหอม เผ็ด และเข้มข้น ไว้รับประทานคู่กับข้าวผสมงาขี้ม่อน ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  • ต้มข่าล็อบสเตอร์กับหัวปลี เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่ใน Set Menu วัสสานฤดูเช่นกัน โดยมีส่วนประกอบของล็อบสเตอร์ที่นำมาปรุงสุกด้วยการต้มในซุปต้มข่า และใส่หัวปลีที่เป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ทำให้นักชิมได้ลิ้มลองความอร่อยของอาหารไทย มีสุขภาพดี และช่วยล้างปากก่อนจะสัมผัสถึงความอร่อยของเมนูถัดไป

3.3 เหมันต์ฤดู

เหมันต์ฤดู หรือฤดูหนาว เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศของประเทศนั้นจะมีความหนาวเย็น และมีลมพัดผ่าน ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาให้มีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็น และมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่สามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารไทยรสชาติดี และมีสุขภาพดีด้วย โดยเมนูแนะนำของเหมันต์ฤดู มีดังนี้

  • แตงโมหอยสังข์กับบีทรูทปลาแห้ง เป็น 1 ในเมนูอาหารไทยจาก Set Menu เหมันต์ฤดู ที่มีการนำแตงโมมาหั่นเป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า ตกแต่งด้านบนด้วยหอยสังข์ด้านบน และโรยเกลือหิมาลายาเล็กน้อย แล้วจึงค่อยนำไปย่าง เพื่อให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด บีทรูท และปลาแห้ง ทำให้มีความจัดจ้านกำลังดี และมีความกลมกล่อมอย่างลงตัว
  • ต้มลูกรอกฟัวกราส์ไก่ฝรั่งเศสหนังไก่กรอบ เป็นเมนูอาหารไทยใน Set Menu ที่มีการตุ๋นไก่ในน้ำใส และผ่านการเคี่ยวเป็นระยะเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซุปมีความหอมหวานจากธรรมชาติของกระดูกไก่ เสิร์ฟคู่กับลูกรอกที่ผสมกับฟัวกราส์ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการนึ่ง เนื้อไก่ และหนังไก่กรอบ พร้อมกับราดน้ำซุปร้อนๆ เล็กน้อย เพื่อให้อาหารจานนี้มีความกลมกล่อม
  • ล็อบสเตอร์ผัดฉ่ากับแกะย่างจิ้มแจ่วข้าวหอมมะลิแดง เป็นเมนูอาหารไทยใน Set Menu อีกเมนูที่นักชิมต้องห้ามพลาด เพราะเป็นเมนูแบบ Surf & Turf ที่มีการผสมผสานระหว่างอาหารทะเล และเนื้อไว้ในจานเดียวกัน โดยมีล็อบสเตอร์ที่มาพร้อมกับซอสผัดฉ่า ทำให้มีรสชาติเข้มข้น ตัดด้วยเนื้อแกะย่างที่มีความสุกระดับ Medium Rare ที่มีรสชาติจัดจ้านแบบน้ำจิ้มแจ่ว เมื่อรับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิแดง ก็จะได้รสชาติที่มีความอร่อย และมีความจัดจ้านกำลังดี

 

ทั้งนี้ เมนูที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียง 1 ในเมนูของ Set Menu ในแต่ละฤดู อาจมีการปรับเปลี่ยน หรือมีเมนูที่เปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดตามได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

4. เมนูขนมหวาน Chef Table จาก Royal Osha ที่ช่วยปิดมื้ออาหารสุดพิเศษให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

นอกจากเมนูอาหารไทยที่เป็นเมนูอาหารคาวแล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังมีเมนูขนมหวาน Chef Table ให้นักชิมได้เลือกลิ้มลองกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยปิดมื้ออาหารสุดพิเศษให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเมนูขนมหวาน Chef Table จาก Royal Osha ที่เป็นที่นิยม และเป็นเมนูแนะนำ มีดังนี้
  • ขนมโค เป็นเมนูขนมหวานที่เหล่านักชิมที่แวะเวียนมาที่ Royal Osha ติดใจกันเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อขนมที่มีความนุ่มเหนียวกำลังดี น้ำกะทิหวานมัน หอมควันเทียน เมื่อโรยงาลงไปก็จะยิ่งทำให้มีกลิ่นที่หอมกรุ่น และมีความกลมกล่อมมากขึ้น
  • แครมบรูว์เลมะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนมหวานที่มีการผสมผสานระหว่างแครมบรูว์เลที่มีความหอมหวานของคัสตาร์ด และคาราเมลที่ผ่านการเผาไหม้จนทำให้กรอบ เข้ากันกับมะพร้าวอ่อน ที่จะมีความหอมหวานกำลังดี เมื่อนำมาผสมผสานก็จะได้รสชาติที่มีความหอม หวาน และมันที่ลงตัวเป็นอย่างมาก
  • พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทยและเบอร์รี เป็นเมนูขนมหวานที่มีการผสมผสานระหว่างพุดดิ้งนมสดที่มีความหอม หวาน และมัน เข้ากันกับไอศกรีมชาไทยที่มีความหอมชาเป็นเอกลักษณ์ ตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีชนิดต่างๆ ที่มีรสชาติเปรี้ยวกำลังดี ทำให้เป็นเมนูขนมหวานที่ช่วยปิดท้ายเมนูอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ เมนูขนมหวานที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียง 1 ในเมนูของ Set Menu ในแต่ละฤดู อาจมีการปรับเปลี่ยน หรือมีเมนูที่เปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดตามได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

5. สัมผัสเสน่ห์ของอาหารไทย Chef Table ที่รังสรรค์จากเชฟมากฝีมือภายใต้บรรยากาศสุดหรูของห้องอาหาร Royal Osha

Chef Table

สำหรับการรับประทานอาหารไทย Chef Table ที่ Royal Osha นั้นนอกจากจะได้สัมผัสถึงความครบเครื่อง ครบรส และครบองค์ประกอบของอาหารไทย ที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมืออย่างเชฟวิชิต มุกุรแล้ว ภายในร้านอาหารของ Royal Osha นั้นยังมีการตกแต่งภายในที่มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศ และมนต์เสน่ห์ของพระราชวังสมัยโบราณ ที่มีความเรียบหรูจากสถาปัตยกรรมที่ใช้โทนสีเข้มตัดกับสีทอง และแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด พร้อมกับผสมผสานกับวรรณคดีอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” ในบริเวณตั้งแต่ประตูทางเข้า ผนังลอย และฝาผนังภายในร้าน มีโคมแชนเดอเลยีร์รูปชฎาขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยอัญมณีส่องประกายระยิบระยับที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha รวมถึงมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และของประดับต่างๆ ที่จะทำให้นักชิมรู้สึกเหมือนกับกำลังเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม และพระราชวัง พร้อมกับรับประทานอาหารไทยที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างพิถีพิถัน ช่วยสร้างความประทับใจให้กับมื้ออาหารสุดพิเศษได้มากกว่าที่เคย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รีวิว Chef Table ที่ Royal Osha จากนักชิม Wongnai เสียงจริงตัวจริง

การรับประทานอาหาร Chef Table หรือ Thai Fine Dining ของทาง Royal Osha นั้นไม่ได้เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีต่างๆ เช่น Michelin Guide, Thai Select Premium, Thailand Tatler Best Restaurants หรือ User’s Choice Wongnai อย่างมากมายเท่านั้น แต่ยังได้รับรีวิวจากนักชิมจากเว็บไซต์ Wongnai ที่เคยเข้ามารับประทานอาหาร และเข้ารับบริการที่ Royal Osha แบบตัวจริงเสียงจริง ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องกลับมาสัมผัสอาหารไทยที่นี่อีกครั้งให้ได้ โดยรีวิวิว Chef Table ที่ Royal Osha จากนักชิม Wongnai มีดังนี้

Chaneehiw, January 2023

“ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine dining ระดับมิชลินร้าน Royal Osha คราวนี้เลือกเป็นแบบ Chef’s table โดยมีเชฟวิชิต มุกุระ มาปรุงให้เราเองเลย เปิดประสบการณ์การทานอาหารไทยแบบล้ำมากๆ เป็นแบบ 5 course เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทุกจานคือเชฟปรุงมาอย่างปราณีตในทุกรายละเอียด สวยและอร่อยละมุนทุกจาน ประทับใจมากๆ ส่วนร้านก็บรรยากาศดีเรียบหรู ควรคู่แก่การมาเดทมากค่ะ”

Milkkpp, October 2019

“presentation ดี เทสดี บริการดี ดีทุกอย่างไปหมด ทานแบบคอร์ส ทุกจานมีเรื่องราว มีที่มาที่ไปของวัตถุดิบ และการปรุงที่ so thai แต่ไม่จัดจ้านมาก ชอบการนำเสนอในทุกๆจานที่มาเสิร์ฟมากๆ อร่อยกว่าที่คาดหวังทุกเมนู ทั้งเมนูคาวและหวาน และได้รับการบริการที่ดี สมกับที่ร้านได้รับรางวัลมากมาย”

Yee FullandFun, July 2019

“Royal Osha ร้านอาหารไทย fine dining ที่เป็นที่รู้จักดีในหมู่คนต่างชาติ เมนูอาหารและการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ contemporary ร่วมสมัย บรรยากาศร้านสวยมาก ดูหรูแต่มีความ casual อยู่ในที งานบริการและการพรีเซนต์อาหารแต่ละจานชนะเลิศ สวยงามมีศิลปะ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจในทุกคอร์สที่เสริฟเลย และกุญแจหลักสำคัญ คือ รสชาติอาหารที่อร่อยครบรสและมีความเป็นไทยอยู่ครบถ้วน กับวัตถุดิบอาหารคัดสรรที่ดีเยี่ยม เป็นมื้อที่ประทับใจมาก และเป็นดีล Wongnai Bangkok restaurant week ที่คุ้มค่าสุดๆ อยากบอกต่อจริงๆ”

Miscellaneous Me, September 2016

“ร้านนี้ถือว่าเป็นอีกร้านที่เปิดประสบการณ์ในการชิมอาหารไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ ทุกจานเลือกใช้วัตถุดิบ และจัดองค์ประกอบสวยงาม และนำเสนออย่างน่าสนใจ ตื่นตาตื่นใจ ประทับใจมากๆเพราะในแต่ละเมนูเราเห็นถึงความคิด การวางแผน ความสร้างสรรค์ นำเสนอภูมิปัญญาด้านอาหารไทยดั้งเดิมกับศาสตร์ และศิลป์สมัยใหม่ molecular gastronomy ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญและขาดไม่ได้คือบรรยากาศดี และการบริการที่ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ เป็นมืออาชีพไม่มีพร่องค่ะ”

Jeab Ja, February 2016

”ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่แฝงไปด้วยความหรูหราอย่างมีระดับ ได้ยินชื่อเสียงของร้าน Royal Osha จากพี่ๆน้องๆในวงในมาพอสมควร อีกทั้งมีรางวัลการันตีความอร่อยอีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือรางวัล Wongnai Best of 2016 ยิ่งทำให้อยากมาลิ้มลองดูสักครั้ง ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่ได้มาลิ้มลองอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นแบบนี้มากค่ะ ที่นอกจากจะครีเอทเมนูอาหารให้ออกมาสวยงามและรสชาติดีแล้วยังสามารถนำเสนอความเป็นไทยแฝงออกมาได้ทั้งในอาหารและสถานที่อีกด้วยค่ะ ส่วนการบริการก็ไม่เป็นรองค่ะเรียกได้ว่าเป็นบริการแบบมีระดับประทับใจ”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้ารางวัลการันตีของ Royal Osha

7. รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ด้วย Chef Table ที่ Royal Osha

Chef Table

สำหรับเมนูอาหารไทยของ Chef Table นั้นผ่านการรังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบทั้งของประเทศไทย และจากต่างประเทศ ที่นำมาผ่านกรรมวิธีในการปรุงที่มีความพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติ และองค์ประกอบต่างๆ ที่มีความครบเครื่อง ครบรส และแสดงถึงเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ภาพรวมของอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นมีรสชาติ และรายละเอียดต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้นักชิมที่อยากจะลิ้มลองอาหารไทยแบบ Exclusive มากขึ้น สามารถลิ้มลองได้ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมถึงยังมีราคาสบายกระเป๋า สามารถรองรับแขกคนสำคัญ และเหมาะสำหรับการมานั่งรับประทานได้ในทุกโอกาส ทำให้ Royal Osha นั้นเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมจากนักชิมทุกสัญชาติ ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสกับอาหารไทยพรีเมียมที่ Royal Osha สามารถติดต่อสอบถาม หรือทำการสำรองที่นั่ง ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

    • Line Official : @royalosha
    • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
    • Facebook : Royal Osha Bangkok
    • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on Leave a comment

ความสง่างามของอาหารไทยใน Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

ความสง่างามของอาหารไทยใน Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

รสชาติอาหารไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงอาหารทั่วโลกว่ามีความครบรส กลมกล่อม ทำให้ชาวต่างชาติติดใจ หลายเมนูและวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารของไทยเป็นที่นิยมมาก และได้รับการจดจำอยู่ใน Bucket List ที่ต้องชิมให้ได้ หรือต้องตามมาชิมที่ประเทศไทยอันเป็นต้นกำเนิด หนึ่งในร้านอาหารที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษผ่านเมนูอาหารไทยในรูปแบบ Fine Dining ก็คือ Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA

Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA คือการรวมวัตถุดิบชั้นเลิศจากทุกประเภทของอาหารไทย มาปรุงแต่งรสชาติในสไตล์ฟิวชั่น โดยที่รสชาติดั้งเดิมของเมนูนั้นยังคงความครบรส หวาน เค็ม เปรี้ยว เผ็ด กลมกล่อมถึงรสแบบอาหารไทย รวมกับการจัดประดับตกแต่งอันสวยงามเรียบหรูในแบบไทย ๆ เพราะฉะนั้นการทานอาหารที่ร้าน Royal OSHA จึงเป็นประสบการณ์การทาน Thai Fine Dining ที่คุณจะได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไปกับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างประทับใจ 


สำหรับร้าน Royal OSHA นอกเหนือจากเรื่องความพิเศษในเรื่องของรสชาติอาหารและความสวยงามของอาหาร Thai Fine Dining แล้ว ยังมีอีกหลายคุณค่าน่ามองน่าสนใจ ที่ทำให้ร้านแห่งนี้เป็น Thai Fine Dining ที่ควรค่าแก่การมาเยือน

1. เมนู Thai Fine Dining กับรสชาติที่ไม่สามารถหาทานที่ไหนได้

Thai Fine Dining

Royal OSHA ได้รวมเหล่าเชฟผู้มากความสามารถ ที่สร้างสรรค์เมนู Thai Fine Dining ออกมาได้อย่างอร่อยครบรสและน่าตื่นตาตื่นใจ วัตถุดิบพรีเมียมของไทยเท่านั้นที่จะถูกคัดเลือกนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของเมนู ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เครื่องเทศ และเครื่องปรุงต่าง ๆ ทุกขั้นทุกตอนการปรุงอาหารผ่านการคิด ทดลองซ้ำ ปรับปรุงให้ดีที่สุด จนปรุงออกมาเป็นแต่ละเมนูที่สมบูรณ์แบบพร้อมเสิร์ฟ 

 

การทำอาหาร Thai Fine Dining ต้องใช้ความพิถีพิถันและความเชี่ยวชาญของเชฟเพื่อประดิษฐ์คิดค้นเมนูไทยฟิวชั่น จนเป็นเมนูอาหาร Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA ตั้งแต่เครื่องเคียงประกอบอาหารถ้วยเล็ก ๆ อาทิ น้ำจิ้มของคอร์สเมนู Starters น้ำจิ้มแต่ละถ้วยผ่านการบรรจงตกแต่งรสชาติเก็บรายละเอียดมาอย่างดี เพื่อส่งมอบรสชาติอาหารที่เพอร์เฟกต์และสวยงามให้กับลูกค้า 

 

ด้วยรายละเอียดในรสชาติอาหารที่ไม่ซ้ำใคร และมิติใหม่ในการปรุงแต่งอาหารแบบฟิวชั่นของ Thai Fine Dining ที่ร้าน Royal OSHA ประสบการณ์การลิ้มรสที่ร้านอาหาร Thai Fine Dining แห่งนี้ จึงเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและหาได้ยาก หากใครที่ต้องการสัมผัสกับรสชาติอาหารสุดกลมกล่อมสไตล์นี้ เตรียมสำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อมาชิมอาหารเมนู Thai Fine Dining ได้เลย  

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. วัฒนธรรมไทยและการให้บริการลูกค้าแบบ Thai Fine Dining 

จุดเด่นของการทานอาหาร Thai Fine Dining ที่ร้าน Royal OSHA เรื่องที่สองก็คือ ความสวยงามของบรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งออกมาด้วยกลิ่นอายความเป็นไทย ความเรียบหรูสง่างาม ความอ่อนน้อมนุ่มนวล เพื่อเตรียมพร้อมรองรับให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด บรรยากาศสวยหรูของร้านยังไม่รวมถึงบริการตั้งแต่การต้อนรับทักทายของพนักงาน ไปจนถึงการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีตลอดทั้งคอร์ส ในรูปแบบวัฒนธรรมและมารยาทอันสวยงามนอบน้อมของคนไทย ซึ่งหลอมรวมเข้ากับสไตล์ Thai Fine Dining ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเครื่องแต่งกายไทยประยุกต์ที่ดูสง่างาม เข้ากับความเป็น Thai Fine Dining ได้อย่างลงตัว 

บรรยากาศที่ลูกค้าจะได้รับในระหว่างที่ทานอาหาร Thai Fine Dining และช่วงเวลาดี ๆ ที่ร้าน เป็นความสวยงามในแบบไทยที่ถูกคิดและออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้เก็บความทรงจำดี ๆ ที่ร้าน Royal OSHA ไปเป็นที่ระลึก เพราะทางร้านต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อมาเยือน

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. รวมวัตถุดิบอาหารทุกภาคทั่วไทยไว้ใน Thai Fine Dining ที่เดียว

Thai Fine Dining

Royal OSHA นำเสนออาหาร Thai Fine Dining ที่รวมวัตถุดิบจากทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วัตถุดิบและเมนูเลื่องชื่อจากภาคเหนือจรดภาคใต้ และได้มีการนำเมนูของแต่ละภาคมาเป็นส่วนประกอบในการคิดค้นเมนูไทยฟิวชั่นอันเลิศรสด้วย เป็นประสบการณ์การทานอาหารที่รวมรสชาติจากทั่วทั้งประเทศไทยมารวมไว้ในร้านอาหาร Thai Fine Dining ร้านเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ในระหว่างที่ฤดูกาลเปลี่ยนผ่าน หากลูกค้าได้มาทานอาหาร Thai Fine Dining ในช่วงที่แตกต่างกันออกไปของปีนั้น ลูกค้าจะได้ชิมเมนูจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของไทยอีกด้วย ซึ่งทางร้าน Royal OSHA ให้ความใส่ใจในเรื่องนี้และได้นำแต่ละเมนูมาปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างประสบการณ์ Thai Fine Dining ที่ไม่เหมือนใคร  

แรงบันดาลใจในการดึงวัตถุดิบจากแต่ละภูมิภาคมาเป็นส่วนประกอบใน Thai Fine Dining เป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจ ที่อาหารไทยได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การทานอาหารรูปแบบใหม่ ๆ และยังได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ 

 

Royal OSHA ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าในวัตถุดิบอาหารไทยและความสง่างามที่วัฒนธรรมไทยที่ได้มอบความประทับใจไว้ในระดับสากล จึงได้นำทุกรสชาติมาสร้างสรรค์รวมเป็นประสบการณ์ดี ๆ อยู่ในร้านอาหาร Thai Fine Dining แห่งนี้

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

4. เมนู Thai Fine Dining ที่ผ่านการปรุงแต่งด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากเชฟมากประสบการณ์ระดับปรมาจารย์

สำหรับเมนู Thai Fine Dining ของ Royal Osha เป็นเมนูอาหารไทยที่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน มีความสดใหม่ และสะอาด เพื่อนำมาผ่านการปรุงแต่ง และรังสรรค์จากเชฟมากประสบการณ์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha เป็น 1 ในเชฟระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีความเชี่ยวชาญ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ในการปรุงแต่งอาหารไทยมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน การันตีด้วยความสามารถในการดำรงตำแหน่งเชฟใหญ่แห่งห้องอาหารไทยศาลาริมน้ำ ที่เป็นห้องอาหารไทยชื่อดังระดับประเทศของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน มานานถึง 27 ปี และยังเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย นอกจากนั้นเชฟวิชิต มุกุระ มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” และต้องการรังสรรค์เมนูอาหารไทยภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” เพื่อให้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ของอาหารไทยได้อย่างครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ และครบรสมากที่สุด จึงทำให้เกิดเมนู Thai Fine Dining ต่างๆ ที่ได้รับความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยต่างๆ และส่งต่อไปยังนักชิมให้ได้สัมผัสถึงความเป็นอาหารไทยแท้ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเมนู เช่น

  • ทองม้วนต้มยำกุ้งคาเวียร์ เป็นเมนูที่นำขนมไทยดั้งเดิมอย่างทองม้วนมาทำการสอดไส้ด้วยไส้กุ้ง และมูสต้มยำที่มีขนาดพอดีคำ มาพร้อมกับซอสมะม่วง คาเวียร์ มะกรูดกรอบ และประดับประดาด้วยดอกไม้สวยงาม ทำให้เมนูนี้มีความครบรสของอาหารไทย ที่มีกลิ่นอายของต้มนำ และความหอมของสมุนไพร
  • ยำสมุนไพรตะไคร้มะแขว่นส้มโอกับขาปูทาราบะ เป็นเมนูที่เครื่องเทศจากภาคเหนืออย่างมะแขว่น ที่มีความหอมฉุน และมีรสเผ็ดเล็กน้อน มาผสมผสานเข้ากันกับยำสมุนไพรไทยนานาชนิด เช่น ตะไคร้ หอมแดง ต้นหอม ผักชีใบเลื่อย และผักแพรว ตัดรสด้วยสมโอ พร้อมเสิร์ฟคู่กับปูทาราบะย่างจากประเทศญี่ปุ่น
  • แกงเหลืองปลาฮิราเมะ ยอดมะพร้าวอ่อนและก้านทูน กับขนมจีน เป็นเมนูที่มีการนำก้านทูน พืชผักสมุนไพรที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับบอน มาหั่นบางๆ และนำไปทำให้สุกในแกงเหลือง เพื่อให้ได้ก้านทูนรสชาติที่มีความหอมหวานกลมกล่อม และมีสัมผัสที่เหนียวนุ่ม เสิร์ฟพร้อมขนมจีน ของดองสำหรับแนม และปลาฮิราเมะจากประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านกรรมวิธีในการปรุงสุกที่ช่วยให้เนื้อปลามีความหอมมากขึ้น

โดยเมนูที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงเมนูที่อยู่ในคอร์ส Thai Fine Dining ของทาง Royal Osha เท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลากหลายเมนูให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันทั้งแบบ Fine Dining และแบบ A La Carte ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะลิ้มลองอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ และอัดแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างเต็มที่ สามารถแวะมาสัมผัสได้ที่ Royal Osha

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

5. รีวิว Royal Osha จากนักชิม Local Guide ที่แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

ถ้าหากนักชิมคนไหนกำลังสนใจอยากจะแวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining แต่ยังไม่เคยรับประทานมาก่อน หรือกำลังลังเลว่าจะเหมาะกับสไตล์การรับประทานอาหารของตัวเองหรือไม่ ดังนั้น การได้อ่าน หรือได้ฟังรีวิวจากนักชิม Local Guide ที่ได้แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining และได้รับการบริการจริงจากทาง Royal Osha เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยให้นักชิมสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยรีวิวจากนักชิม Local Guide ที่ได้แวะมาสัมผัสกับอาหารไทยของ Royal Osha แบบตัวจริงเสียงจริง มีดังนี้

Kris, January 2024

“รสชาติอาหารอร่อยมากๆ ครับ เชฟยังคงรักษารสชาติความเป็นอาหารไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน ถึงแม้จะปรับหน้าตา presentation อาหารไปบ้าง แต่รสชาติไทยยังคงอยู่เต็ม 100 Very good experience and enjoyable meal krub!”

Chess Pisit, January 2024

“เชฟวิชิตมาทำให้เลย มาปรุง มาประดับทุกๆ เมนู คือสุดยอดมากๆ กว่าจะได้มาซึ่งแต่ละเมนูคือการต้องคิด ต้องทดลอง ต้องทำซ้ำๆ ไม่รู้กี่ครั้ง นับถือความพยายามมากๆ และรวมถึงเทคนิคการทำ การดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมา การผสมรวมกันของรสชาติที่จะคงโดดเด่นออกมาในทุกๆ มิติ ไม่ได้มีอะไรมาตีกัน รสชาติเด่นของวัตถุดิบแต่ละอย่างจะค่อยๆไล่ๆกันออกมาให้เราได้สัมผัส มันคือสุดยอดประสบการณ์ของการทานอาหารที่สุดในชีวิตครับ”

GL, December 2023

“Excellent service & ambiance. Vegetarian food was good as well but the mango sticky rice dessert was exceptional! They prepared a special dessert platter for our very special celebration. Do order a cocktail – it arrives on a unique, insta worthy platter. Would highly recommend adding this place to your restaurant list when in Bangkok.”

Kanutsanan Thadee, August 2023

“เป็นร้านอาหารที่ดีมากๆ สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับร้านนี้ก็คือการบริการ พนักงานทุกคนได้รับการอบรมและบริการอย่างดี มีการอธิบายและให้คำแนะนำกับลูกค้าถึงเมนูต่างๆ ว่าควรรับประทานอะไรก่อนหลัง ซึ่งมันจะช่วยให้รสชาติของอาหารนั้นชูรสชูโรง ส่วนของเมนูอาหารที่นี่ดิฉันยกให้ “ข้าวแช่” เป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าเราจะได้ทานเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนมาลองมาสัมผัสมาใช้ลิ้นเพื่อรับรถชาติความอร่อยของข้าวแช่ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมาก”

Nok Thanakit, May 2023

“ประทับใจบรรยากาศการบริการ ส่วนอาหารค่อนข้างพิถีพิถันและสร้างสรรค์ออกมาอย่างสวยงามรสชาติอร่อย และชาวต่างชาติสามารถทานได้”

Napharat Tangkitthaworn, 2020

“Authentic Thai food. This is original taste but present in a modern way. Every dish is designed with a right combination and all dishes come with stories. Staffs are awesome here. Best service. Price is quite high for local but worth it.  รสชาติอาหารไทยแท้จริงๆ อร่อยมาก เลือก combination ของวัตถุดิบได้ดี ทุกอย่างที่ใส่มามีเหตุผลของมันว่าใส่มาทำไม คิดมาดี ดีไซน์รสชาติมากลมกล่อม ราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่า พนักงานบริการดีมากๆ ประทับใจ แม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำก็มีน้ำยาบ้วนปากและไหมขัดฟันเตรียมไว้ให้ เผื่อว่าเราต้องไปที่ไหนต่อ ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ”

Numage, 2019

“Great tasting food with great presentation, I have to say it exceeded my expectations. There for an 8 course set menu “The Delight Thai Twist ” when there was a 4 for 3 promotion. The restaurant was decorated in a mix of modern and traditional Thai style and is very elegant. The Staff were friendly and took their time to explain the delicacy of each dish as well as giving us a second floor tour. A recommended place for people who love fine dining.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น 1 ใน Thai Fine Dining ระดับ TOP ของประเทศ

นอกจากรีวิวของ Royal Osha ที่ได้รับจากนักชิม Local Guide ตัวจริงที่แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining แล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังได้รับรางวัลต่างๆ ที่เป็นเครื่องการันตีว่าเราเป็น 1 ใน Thai Fine Dining ระดับ TOP ของประเทศไทย ที่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติควรแวะมาลิ้มลองให้ได้สักครั้ง เพื่อสัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ของอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรส และครบทุกองค์ประกอบของความเป็นไทย โดยรางวัลที่ Royal Osha ได้รับ มีดังนี้

  • รางวัลการันตี Michelin Guide เป็นรางวัลที่ Royal Osha ได้รับในปี 2024, 2023, 2022, 2021, 2020 และ 2019 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย รวมถึงเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Thai Fine Dining ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ถึง 6 ปีซ้อน
  • รางวัลการันตี User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2021, 2020, 2018, 2017 และ 2016 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น และรางวัลนี้จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ถึง 5 ครั้ง
  • รางวัลการันตี Thai Select Premium เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2022 และปี 2019 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม โดยรางวัลนี้จะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป รวมถึงจะต้องเป็นร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลนี้ ซึ่งทาง Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ 2 ปี และการันตีว่าเป็นอีก 1 Thai Fine Dining ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัลการันตี Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2020, 2018 และ 2017 และเป็นที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และ Royal Osha ก็เป็น 1 ใน Thai Fine Dining ที่สามารถส่งต่อเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นจนได้รับรางวัลนี้มากถึง 3 ปี
  • รางวัลการันตี HELLO! Taste Award เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2022 และเป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่มีความพรีเมียมในทุกๆ ด้านจนสามารถครองใจเหล่านักชิมได้ และเป็นการการันตีว่า Royal Osha เป็น Thai Fine Dining อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าชมรางวัลการันตีของ Royal Osha

7. เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่ Royal Osha ในใจกลางเมืองแห่งกรุงเทพฯ

Thai fine dining

Royal Osha เป็นร้านอาหาร Thai Fine Dining ที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่ถือว่าเป็นที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่ให้ลเคียงกับสถานที่สำคัญอย่างสถานฑูต แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา โรงพยาบาล บริษัทเอกชน และแหล่งธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย ทำให้สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่ Royal Osha นั้นได้รับความนิยมไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสถานที่ตั้งเท่านั้น แต่ด้วยความที่ Royal Osha มีเมนูอาหารไทยให้เลือกอย่างหลากหลาย มีให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันทั้งแบบ Set Menu ที่ทางเชฟจะจัดมาให้เป็นเซ็ท และมีการรังสรรค์มาแล้วว่าทุกเมนูที่อยู่ในเซ็ทนั้นผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว แบบ Full Course เป็นคอร์สอาหารที่ทางเชฟจะจัดมาให้นักชิมแบบจัดเต็ม เพื่อให้นักชิมได้รับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Starter, Main Course หรือ Dessert ก็มีรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความพิถีพิถัน เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้อย่างเต็มที่ และยังมีแบบ A La Carete ที่จะเป็นเมนูอาหารจานเดี่ยว ที่นักชิมสามารถเลือกได้ว่าอยากรับประทานเมนูไหนบ้าง เหมาะกับนักชิมที่อยากชิมเฉพาะบางเมนู ไม่รับประทานส่วนประกอบบางอย่าง หรือชอบรับประทานอาหารแบบจานเดี่ยว ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะมีจำนวนอาหาร และเมนูที่มีการออกแบบมาให้แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารของนักชิมมากที่สุด รวมถึงอาหาร Thai Fine Dining ของ Royal Osha นั้นยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ และวัตถุดิบในประเทศมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้องค์ประกอบ และรสชาติของอาหารนั้นสามารถตอบโจทย์การรับประทานอาหารของนักชิมได้หลากหลายสัญชาติ และหลากหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้ที่แวะเวียนมาชิมอาหาร Thai Fine Dining ที่ Royal Osha นั้นมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่อยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่มีความแตกต่าง และความพรีเมียมในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

 

ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังมองหาร้านอาหาร Thai Fine Dining เพื่อคุยธุรกิจ หรือเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้ง่าย และอาหารมีความหลากหลาย ที่สามารถตอบโจทย์สไตล์การรับประทานอาหารได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่มาพร้อมกับบริการด้วยความใส่ใจที่ทำให้นักชิมได้ประทับใจในทุกนาทีที่ได้นั่งรับประทานอาหาร สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha และสามารถสำรองที่นั่งได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ Royal Osha หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-256-6551

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on Leave a comment

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

Fine Dining Bangkok

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

 

เมื่อ Royal Osha ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบอาหารไทย ได้เข้าถึงรสชาติอาหารไทยชั้นเลิศได้ที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและการเดินทางที่สะดวกสบาย นักท่องเที่ยวก็สามารถแวะเวียนนัดหมายสำรองที่นั่งเพื่อมาทานอาหารที่ร้านได้ไม่ยาก มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าที่มาเยือนทุกท่านจะได้รับประสบการณ์การบริการที่ดีที่สุด และได้อิ่มอร่อยอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง รูป รส กลิ่น และผิวสัมผัสของอาหาร

1. Fine Dining Bangkok กับร้าน Royal Osha

Fine Dining Bangkok

 

Royal Osha หนึ่งในร้านอาหารสุดเลิศหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหาร Fine Dining แบบ Set Menu ฟูลคอร์ส และแบบ a la carte ให้กับคุณวันละสองรอบ คือมื้อกลางวันและเย็น ไม่ว่าจะเป็นมื้อแห่งการพักผ่อน นัดเดท นัดธุรกิจ หรือนัดสำคัญไหน ๆ ร้าน Royal Osha ก็พร้อมต้อนรับและไม่ทำให้คุณ ต้องผิดหวัง เพียงแค่สำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อให้ทางร้านได้จัดเตรียมความพร้อม เพื่อบริการให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อลูกค้าได้มาเยือน ร้านตั้งอยู่ที่ต้นซอยร่วมฤดี อยู่ในพื้นที่ใจกลางย่านเพลินจิต-วิทยุ ซึ่งเป็นแหล่งร่วมธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของสถานทูตของหลายประเทศ บริษัทเอกชน โรงแรม โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นย่านที่วิลิศมาหราไปด้วยสีสันและไลฟ์สไตล์ และที่สำคัญย่านนี้เป็นย่านใจกลางความสะดวกสบาย ที่มีทั้งความปลอดภัยสูง จากสถานที่ราชการที่อยู่ในบริเวณ และแน่นอนว่าย่านนี้จะมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วย และ Royal Osha ก็ได้ตั้งอยู่ในย่านกลางเมือง ที่จัดว่าเป็นทำเลทองมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

2. การรวมตัวของอาหารทุกภูมิภาคในหนึ่งมื้อ Fine Dining Bangkok

เมนูอาหารที่คัดสรรแล้ว, วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารจากทั่วทุกภูมิภาคถูกส่งมาอยู่ในห้องครัวกลางของ Royal Osha เพื่อปรุงรสออกมาเป็นแต่ละเมนูอาหาร Fine Dining ที่ครบเครื่องครบรส และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างใน Set Menu ฟูลคอร์สของทางร้าน ชุด Ramayana Set 

  1. จะเป็นคอร์สเมนูที่มาจากเมนูใหม่ ๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนเมนูให้หลากหลายตามฤดูกาลและตามวัตถุดิบ ซึ่งเมนูจะถูกออกแบบ ปรุงรส และใช้ส่วนผสมตามเมนูอาหารของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย 
  2. มีคอนเซปต์ของคอร์สที่ให้ลูกค้าได้เลือกทานเมนูนั้น ๆ โดยปรุงในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการย่าง นึ่ง ทอด อบ ตุ๋น และการยำอาหารสุดคลาสสิกไทยสไตล์ 
  3. ไฮไลท์ของการเลือกทานคอร์ส Ramanaya จึงเป็นความหลากหลายในรสชาติอาหารจากทุกภาคตั้งแต่เริ่มคอร์สด้วย Starter เมนู ไปจนถึงของหวาน
  4. เสน่ห์ของการทานคอร์สเมนูในเซ็ตนี้ มีสีสันการประดับตกแต่งเมนูอาหารแต่ละจานที่สวยงามพิถีพิถัน และยังมีเครื่องดื่มสูตรที่เสิร์ฟคู่กันกับคอร์สด้วย

 

การวางลำดับคอร์สและรสชาติที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสในคอร์สนี้จึงยิ่งเลอค่า แต่ถ้าเกิดลูกค้าต้องการเข้ามาทานอาหารในมื้อเล็ก ๆ เป็น a la carte ก็สามารถเลือกและอิ่มอร่อยกับเมนูของแต่ละภาคได้แบบจานต่อจาน

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

3. วิถีการทานอาหาร Fine Dining ที่ออกแบบเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด

Fine Dining Bangkok

Fine Dining Bangkok ของร้าน Royal Osha นับเป็นประสบการณ์ทานอาหารล้ำค่าที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน ด้วยอารยธรรมการทานอาหารไทยที่ถูกวิวัฒน์ให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน โดยยึดแบบโครงสร้างอาหารแบบ Fine Dining มีรายละเอียดที่น่าสนใจและน่าชื่นชมในฝีมือการปรุงรสอาหารไทยของเชฟ ที่คิดออกแบบรสชาติอาหารไทยออกมาให้อยู่ในปริมาณที่พอดีคำแต่ได้รสชาติเต็ม ๆ อย่างการจัดเมนูคอร์ส Starter ที่มาในปริมาณอาหารที่มากเกินไปไม่ได้ ต้องมาในขนาดที่พอดีคำ พอให้ผู้บริโภคได้กระตุ้นความอยากอาหารไล่ลำดับไปเรื่อย ๆ เพื่อลิ้มรสอาหารในคอร์สถัดไป และความเลิศรสและใส่ใจในรายละเอียดเชิงสร้างสรรค์แบบนี้เอง ที่ทำให้ทางร้าน Royal Osha ได้รับการยอมรับว่าเป็นร้านอาหาร Fine Dining ของไทยที่จัดเป็นร้านเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ และหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับ Michelin Guide เป็นร้านที่หลายท่านมั่นใจที่จะแนะนำให้กับเพื่อน ครอบครับ และใครที่ต้องการทานอาหารมื้อพิเศษในบรรยากาศความเป็นไทย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

4. Royal Osha ออกแบบอาหารไทยแบบวีแกน เพื่อผู้บริโภคทุกคน 

อาหารไทยเป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าไม่แพ้ชาติใดในโลก และในปัจจุบันยังได้มีหลากหลายเมนูอาหารยอดนิยมที่ติดตลาดสากล และอีกหลายเมนูที่ได้การยอมรับและยกย่องให้เป็นอาหารที่มีรสชาติดีที่สุดของโลก มีชาวต่างชาติมากมายให้ความสนใจกับอาหารไทยที่ครบรสครบเครื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มผู้บริโภคชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งที่มีอาการแพ้อาหาร ซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำคัญสำหรับอาหารไทย เช่น น้ำมันหอย ถั่วลิสง หรือเป็นชาววีแกน ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ แถมยังมีแยกย่อยลงไปอีกสำหรับวีแกนระดับเคร่งมาก ไปจนถึงวีแกนเคร่งน้อย หรือเป็นมังสวิรัติ และแน่นอนว่าที่ร้าน Royal Osha ได้ออกแบบเมนูอาหารมาเพื่อความต้องการของผู้บริโภคทุกประเภท มีเมนูวีแกนที่ไม่มีส่วนผสมหรือซอสปรุงที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ และยังให้รสชาติที่เลิศหรูตามสไตล์ของร้านอาหาร Fine Dining ได้อย่างครบถ้วน และถ้าหากลูกค้าต้องการรีเควสเพิ่มเติมเรื่องขอลดรสเผ็ดของเมนูไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถแจ้งกับพนักงานได้เลย ทางร้านพร้อมปรับและปรุงเมนูที่ดีที่สุดให้กับแขกของร้านทุกท่าน 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

 

5. Fine Dining Bangkok เปิดประสบการณ์ทานอาหารที่ล้ำค่า คุณค่าที่คุณคู่ควร

Fine Dining Bangkok

การทานอาหารสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ของร้าน Royal Osha เพราะในระหว่างที่ผู้คนกำลังคึกคัก ทั้งเร่งรีบเดินทาง และกำลังเข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมือง ซึ่งต้องแย่งชิงที่นั่งหรือต่อคิวเพื่อเข้าไปทานอาหารหรือเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่ด้วยระบบการจองล่วงหน้าก่อนเข้าไปรับบริการของทางร้าน ขั้นตอนการต่อคิวที่หน้าร้านจึงหมดไป และเมื่อลูกค้าได้ย่างก้าวเข้ามาในร้านแล้ว บรรยากาศในร้านของ Royal Osha จะเปลี่ยนภาพความวุ่นวาย ให้เป็นความรู้สึกสงบ พร้อมกับบรรยากาศการพักผ่อนทานอาหารที่อบอวลไปด้วยความหรูหรา ลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และในระหว่างการเสิร์ฟแต่ละเมนู พนักงานจะให้การอธิบายว่าเมนูที่ลูกค้าได้รับมีความเป็นมาและการปรุงอย่างไรแบบสั้นกระชับ และยังมีการทักทายจากเชฟของทางร้านจากห้องครัวด้วยเป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศการทานอาหารที่อบอุ่นล้ำค่านี้มาจากความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทางร้าน ตั้งแต่ลูกค้าได้เดินเข้าไปในร้าน ไปจนถึงจบคอร์ส ซึ่งที่ตั้งของร้านก็เหมาะสมและสามารถเดินทางได้ง่าย พร้อมทั้งมีที่จอดรถให้ที่ร้าน

 

มื้ออาหารสุดพิเศษกับ Fine Dining Bangkok ในแบบของร้าน Royal Osha จึงเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและควรค่าต่อการมาเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวาระโอกาสไหน ๆ ทางร้านก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความพิเศษให้กับมื้อนั้นของคุณ สำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อเข้ามารับบริการที่ร้าน Royal Osha ได้เลย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

 

6. Fine Dining Bangkok พิถีพิถันทุกขั้นตอนการปรุงจากเชฟแถวหน้าของไทยที่รังสรรค์เมนูของ Royal Osha

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะได้รับการปรุงทุกขั้นตอนที่มีความพิถีพิถัน และรังสรรค์ด้วยความใส่ใจจากเชฟมือทองระดับปรมาจารย์แถวหน้าของประเทศไทย นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่งอาหารไทยให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยในทุกสัมผัสมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของเชฟวิชิต มุกุระ ที่ทำงานในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี ในตำแหน่งเชฟใหญ่ และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเพียงเท่านั้น และยังเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย และด้วยความเชี่ยวชาญ และความมากฝีมือของเชฟวิชิต จึงทำให้ห้องอาหารไทยศาลาริมน้ำนั้นเป็นห้องอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นห้องอาหารไทยในระดับแถวหน้า ที่ผู้ที่ชื่นชอบ หรืออยากจะลิ้มลองอาหารไทยพรีเมียมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจะต้องแวะเวียนกันมาให้ได้สักครั้ง และถึงแม้ว่าเชฟวิชิตนั้นถือว่าเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จในด้านสายอาชีพของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนา และมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่มีความ้ท้าทาย นั่นก็คือ การทำอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระดับโลก เพราะเชฟวิชิตมีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ และอยากจะรังสรรค์อาหารออกมาภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้เกิด Fine Dining Bangkok อย่าง Royal Osha ขึ้นมา ที่เป็นการจับมือระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล เพื่อส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย การปรุงแต่งอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสาน และให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

 

โดยเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีความใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพ ไปจนถึงการปรุงอาหาร และการนำเสนอแต่ละเมนูที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้ทำการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต การกิน และอยู่อาศัยของชาวไทยลงไปในอาหาร และมีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ในอาหารทุกคำอย่างเต็มเปี่ยม ตามแนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ของเชฟวิชิตนั่นเอง และนอกจากนั้นทาง Royal Osha ก็ยังนำแนวคิดที่ว่า “อาหารเป็นยา” มาปรับใช้ในการรังสรรค์เมนูต่างๆ อีกด้วย เพราะว่าชาวไทยนั้นมีความสามารถในการใช้พืช ผัก สมุนไพรเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งทาง Royal Osha นั้นก็ยังมีการปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร และเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และยังเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น และยังมีให้เลือกทั้งแบบ A La Carte และ Set Menu ที่ประกอบไปด้วย Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert ที่มีการสร้างสรรค์ทุกเมนูขึ้นมาให้ทุกคนได้รับประทานมื้ออาหารไทยที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

7. รางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด

Fine Dining Bangkok

“Royal Osha” เป็น Fine Dining Bangkok ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์ด้วยความใส่ใจ และการปรุงด้วยความพิถีพิถันจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ทำให้ทุกเมนูของ Royal Osha นั้นมีรูปร่างหน้าตา รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่สามารถส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างเต็มเปี่ยมทุกคำ และสามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักชิมทั้งชาว และชาวต่างชาติได้อย่างไม่รู้ลืม จนทำให้อาหารไทยจาก Royal Osha นั้นเป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และทำให้ Royal Osha เป็นหนึ่งใน Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลอื่นๆ ที่การันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และรางวัลที่คัดเลือกจากเหล่านักวิจารณ์อาหารที่มีประสบการณ์ในการรับประทานจริง เป็นต้น โดยรางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Fine Dining Bangkok
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น และจะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป รวมถึงจะต้องเป็นร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Fine Dining Bangkok ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัล HELLO! Taste Awards
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่สามารถส่งต่อเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจนได้รับรางวัล Thailand Tatler Best Restaurants

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย นักชิม หรือนักวิจารณ์อาหารทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ต้องการอยากจะลิ้มลองรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารไทยที่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ และผ่านกรรมวิธีในการปรุง และสร้างสรรค์ที่มีความพิถีพิถัน จนสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลองได้ทุกคำที่สัมผัส ต้องแวะมาที่ Royal Osha ที่เป็น Fine Dining Bangkok ที่รังสรรค์ทุกเมนูด้วยความใส่ใจ เติมเต็มวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยใส่ลงไปในอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และรูปร่างหน้าตาของอาหารไทยอย่างแท้จริง

Posted on Leave a comment

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

Bangkok best restaurant

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

มีร้านอาหารมากมายในกรุงเทพมหานคร แต่ร้านไหนจะเป็นร้านอาหารไทย และเป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ได้การยอมรับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติมากหน้าหลายตาที่เดินทางมาแวะเวียนที่กรุงเทพฯ ก็จะร่วมเป็นผู้ตัดสินในเรื่องคุณภาพอาหารที่ดีที่สุดนี้กัน และแน่นอนว่าร้าน Royal Osha จะถูกนับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพด้านไหน Royal Osha ก็มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และประสบการณ์สุดพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากการเข้ามาทานอาหารที่ร้าน แต่การจะเข้าไปอยู่ในหมวดร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ก็มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และมีคู่แข่งหลากหลายสัญชาติที่จะมาแข่งกับอาหารไทยเช่นกัน  

1. Bangkok best restaurant กับการแข่งขันที่สูงเกินบรรยาย

Bangkok best restaurant

ในกรุงเทพมหานครมีอาหารเยอะมาก ซึ่งเยอะในที่นี้ไม่ได้เยอะแค่เพียงจำนวน แต่เยอะในเรื่องของความหลากหลายของประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัญชาติต่าง ๆ อาหาร Fine Dining, อาหารฟาสต์ฟู้ด, อาหารโฮมเมด และ อาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกทานกันตามความชอบและความถนัดของแต่ละคน แต่สุดท้ายแล้วอาหารที่คนไทยซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ นิยมทานกันมากที่สุดก็คืออาหารไทย เพราะด้วยรสชาติอาหารที่คุ้นเคย และความครบเครื่อง ทั้งรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม เป็นอาหารประเภทที่คนไทยกินได้เรื่อย ๆ หากเทียบกับอาหารสัญชาติอื่น ซึ่งการแข่งขันในส่วนนี้ก็มีหลายตลาดที่ยังต้องแข่งขันกันใน market section ของตัวเองต่อไป อย่างตลาดอาหารตามสั่งที่ราคาถูกลงมาหน่อยเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่คุณภาพรองลงมา แต่สำหรับอาหารพรีเมียมที่วัตถุดิบมีราคาแพง ค่าอาหารจึงมีราคาสูงตาม

และทางร้าน Royal Osha ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม แบบ Thai Fine Dining ที่มีการแข่งขันที่สูง แตกต่างจากการแข่งขันของอาหารตลาดอื่น เพราะอาหาร Thai Fine Dining เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับการมาทานในวาระโอกาส นัดสำคัญต่าง ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้บริโภคจะไม่ได้มาทานอาหารที่ร้านทุกวัน ด้วยรสชาติและการบริการที่ดีเยี่ยม ระบบการสำรองที่นั่งก่อนเข้ามารับบริการ และราคาค่าใช้จ่ายของอาหารที่สูง ซึ่งมาจากมาความพิถีพิถันในการเตรียมอาหารและการดำเนินการทุกอย่าง และยังมาจากคุณภาพอาหารที่ผ่านการยอมรับ และได้รับรางวัล Michelin Guide 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. สิ่งที่ต้องมีหากจะเป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant 

ด้วยการแข่งขันที่สูง สิ่งที่ร้านอาหารจะต้องมีและทำให้ได้ เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมีหลายข้อหลายปัจจัยที่จะใช้ในการพิจารณา เพราะว่าตัวเลือกที่ผู้บริโภคสามารถเลือก และเปลี่ยนไปทานมีเยอะมาก และยิ่งเข้าถึงได้ง่ายขึ้นไปอีก ด้วยระบบขนส่งดิลิเวอรี่ทั้งหลาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การทานอาหารให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดคือการทานอาหารตอนปรุงเสร็จใหม่ ๆ ร้อน ๆ แปลว่าร้านอาหารนั้นจะต้องมีหน้าร้านมีที่นั่งให้ลูกค้าได้ใช้เวลาทานอาหารสด ๆ ร้อน ๆ ในร้านได้ และในขณะเดียวกันปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องมีสำหรับร้านอาหารที่ดีที่สุด คือ 

  • คุณภาพอาหารที่ดี
  • รสชาติอาหารดี
  • ทำเลที่ตั้งดี 
  • เดินทางไปได้สะดวก 
  • ราคาอาหารคุ้มค่ากับรสชาติ 
  • ประสบการณ์การทานอาหารที่ดี 

 

และทุกข้อที่กล่าวมาร้าน Royal Osha มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ นอกจากนั้นทางร้านยังสามารถคงมาตรฐานอันดีของคุณภาพของทุก ๆ ข้อไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ มีแต่คุณภาพจะยิ่งสูงขึ้น ด้วยการปรับปรุงสูตรและเมนูใหม่ ๆ ที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความชอบของลูกค้า 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. ร้านอาหาร Fine Dining ที่ถูกจัดเป็น Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

Fine Dining มีที่มาจากร้านอาหารระดับพรีเมียมสัญชาติฝรั่งเศสที่พร้อมเสิร์ฟคอร์สเมนูอันหรูหรา สไตล์ฝรั่งเศสแบบสเต๊ก สลัด และเมนูตามสไตล์เดิม ซึ่งตลาด Fine Dining นับเป็นตลาดที่กว้างมากพอสมควร ในขณะที่มีราคาสูง แต่ในปัจจุบันที่ทั่วโลกเชื่อมต่อกันได้และมีการฟิวชั่นเกิดขึ้นในทุกวงการ สูตรอาหาร Fine Dining ก็ไม่จำเป็นต้องตายตัวและจำกัดอยู่ในกรอบเดิม ๆ จึงได้เกิดการฟิวชั่นอาหารไทยเข้าไปใน Fine Dining ที่ได้การยอมรับในระดับสากล ด้วยรสชาติที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นของวัตถุดิบอาหารไทย การใช้ผัก สมุนไพร ผลไม้ไทย และเครื่องปรุง เครื่องเทศสด ๆ ของไทย ก็มีบทบาทสำคัญในการชูรสชาติต่าง ๆ มากขึ้น จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับรสชาติอาหารไทยอยู่แล้ว อาหาร Thai Fine Dining จะยิ่งเผยรายละเอียดในรสชาติอาหารไทยที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กลิ่นสมุนไพรและรสเครื่องเทศในอาหาร Fine Dining จะชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่ออาหารไทยสไตล์ Fine Dining ได้บุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการแข่งขันของร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อาหารไทยระดับคุณภาพ ที่รสชาติไม่ซ้ำใคร และระบบการดูแลลูกค้าที่เข้มงวดเพื่อมอบประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุด จึงตอบโจทย์ทุกข้อของ Bangkok best restaurant

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining กับหนึ่งใน Bangkok best restaurant

หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง Royal Osha ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองในย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี ทำเล ณ กลางกรุงที่สามารถเดินทางไปถึงได้ไม่ยาก ด้วยรถสาธารณะหรือขับรถไปจอดที่ร้านก็ได้ ระบบการเข้ารับบริการของทางร้าน ต้องผ่านการจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น เพราะว่าทางร้านต้องเตรียมต้อนรับลูกค้าให้ดีที่สุด ครบที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่หน้าประตู จนลูกค้าเดินทางกลับ กระบวนการจองอาจจะดูเหมือนมีพิธีรีตองแต่เป็นระบบที่ Fine Dining ทั่วโลกนิยมใช้ เพื่อการให้บริการที่ดีและน่าประทับใจกับลูกค้า

 

วัตถุดิบในการสร้างสรรค์แต่ละเมนูของทางร้าน ถูกส่งตรงมาจากผลผลิตในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ทั้งผัก ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องปรุงอื่น ๆ จะเข้ามายังครัวกลางที่กรุงเทพมหานครเพื่อปรุงรสชาติตามสูตรอาหารไทย Fine Dining ด้วยรสชาติที่เข้มข้นสมเป็นอาหารไทยนี้ Royal Osha ได้เป็นสื่อกลางในการส่งมอบรสอาหารไทยที่ดีเลิศให้กับผู้บริโภค จากรสชาติอาหารไทยภาคหนึ่งให้กับคนอีกภาคหนึ่ง และส่งต่อรสชาติอาหารไทย และเมนูที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก อย่างเช่น Meuang Kham Bua Lhuang, Lemongrass And Blue River Prawn Salad, Khao Chae: Rice in chilled jasmine water with assorted condiments, Southern Style Rice and Fresh Herbs Salad with Fried Fish และเมนูของหวาน อย่าง Khanom Kho (Sweet Coconut Dumplings) เป็นต้น 

 

ใครที่สนใจเข้ามารับบริการกับ Bangkok best restaurant และเก็บประสบการณ์การทานอาหารมื้อพิเศษสุดเพอร์เฟกต์จากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารคุณภาพดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ที่ Royal Osha สามารถจองคิวเข้ามาที่ร้านได้เลย ร้านเปิดให้บริการมื้อกลางวันและมื้อเย็นเป็นหลัก

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

5. Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่รังสรรค์เมนูด้วยเชฟมากประสบการณ์

Bangkok Best Restaurant

ทุกเมนูอาหารของ Royal Osha เป็นเมนูที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ในด้านการทำอาหารมานานกว่า 40 ปี และประสบความสำเร็จในด้านอาหารจนหลายๆ คนเรียกว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์ โดยเชฟวิชิต มุกุระ นั้นกว่าจะเป็นระดับปรมาจารย์ได้ ก็เคยผ่านการเป็นลูกมือช่วยงานในครัวของคุณแม่มาก่อน และได้ก็ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบในการทำอาหาร จึงมีจุดมุ่งหมายที่เป็นเชฟในระดับแนวหน้าของเมืองไทยให้ได้ ซึ่งเชฟวิชิตก็ได้เริ่มต้นจากการทำงานเป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” ที่เชฟวิชิตได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และได้ตำแหน่งเชฟใหญ่ที่ต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเท่านั้น รวมถึงยังได้มีการมีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหาร และช่วยยกระดับแวดวงร้านอาหารของเมืองไทยได้อย่างมากมาย และหลังจากทำงานเป็นเชฟใหญ่ได้ 27 ปี ก็ได้ลาออกไปช่วยดูแลธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้กลับมาทำงานเป็นเชฟในสายโรงแรมเช่นเดิม และยังเคยไปสอนทำอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่เมื่อถึงในช่วงอายุหนึ่ง เชฟวิชิตก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ อีกต่อไป และมองหาสิ่งท้าทายใหม่ๆ จนได้มาจับมือสร้างร้านอาหารไทย Fine Dining อย่าง Royal Osha กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล โดยเชฟวิชิต มุกุระ มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีความสามารถในเรื่องการใช้สมุนไรพมาปรุงอาหารอีกด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ” จึงเป็นความตั้งใจที่เชฟวิชิตมีต่อร้าน Royal Osha และความต้องการที่จะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน และด้วยความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของเชฟวิชิต ที่มาพร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 40 ปี จึงทำให้เชฟวิชิตได้พา Royal Osha สู่การเป็นร้านอาหาร Fine Dining เป็น Bangkok best Restaurant และได้รับรางวัล Michelin Guide มาถึง 6 ปีซ้อน

 

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทยที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ สามารถแวะมาชิมได้ที่ Royal Osha ที่มีเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย ที่ผ่านการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทย และช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยในมุมมองใหม่ๆ ให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อทำความรู้จักกับเชฟวิชิต มุกุระ แห่ง Royal Osha

6. รางวัลการันตี Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant

“Royal Osha” เป็นร้านอาหาร Thai Fine Dining ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ ทำให้รูปร่าง รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารนั้นสามารถส่งต่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทยได้อย่างชัดเจน และเป็นการยกระดับอาหารไทยให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเสน่ห์ เพื่อให้อาหารไทยนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากยิ่ง จนทำให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหาร Bangkok best Restaurant ที่ได้รับรางวัลการันตีอย่างมากมาย เช่น Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลการันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และเป็นรางวัลที่เป็นยอมรับของเหล่านักวิจารณ์อาหาร โดยรางวัลการันตีที่ Royal Osha ได้รับ มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

7. เมนู Royal Osha ที่ขึ้นชื่อของ Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน โดยจะมีให้เลือกรับประทานทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ เป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ที่จะช่วยยกระดับ และเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่ขึ้นชื่อสมกับ Bangkok best Restaurant นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้

  • Starter เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่จะช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยเมนู Stater นั้นจะมีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้จะมีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และเตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เมนูกงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้นำความสามารถในการดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และมาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นเลิศต่างๆ แบบจัดเต็ม
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่จะช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างคอให้ทุกคนก่อนจะเจอกับเมนูอาหารจานหลัก โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีซุปหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยล้างปากให้พร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่ทุกคนรอคอย โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาตที่ได้รับประทานเมนูนี้จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานปิดท้ายที่จะช่วยให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่เป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของชาวไทย และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มานำเสนอเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย เพิ่มความหอมมันด้วยพุดดิ้งนมสด และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รี ที่นำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ช่วยปิดมื้ออาหารของทุกคนที่สร้างความประทับใจได้แบบไม่รู้ลืม

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha

สำหรับนักชิม หรือผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถแวะมาลิ้มลองอาหารไทยที่มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจนได้ที่ Royal Osha หนึ่งใน Bangkok best Restaurant เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ และพรีเมียม ผ่านการปรุงด้วยเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็นเชฟมากฝีมือระดับปรมาจารย์ ที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองอาหารไทยที่ Royal Osha ทุกเมนู

Posted on Leave a comment

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน  

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

จากร้านอาหาร Chain ของ OSHA Thai Restaurant & Bar ที่โด่งดังในสหรัฐอเมริกา Royal Osha ได้นำโครงสร้างการทำอาหาร Fine Dining จากวัตถุดิบอาหารไทย ร่วมกับการใช้ Molecular Gastronomy จนกลายมาเป็นอาหาร Thai Fine Dining เลิศรสที่คงรสชาติความเป็นอาหารไทยไว้เต็มร้อย และได้รับรางวัลและการยอมรับมากมายมาจนถึงปัจจุบัน ร้าน Royal Osha ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ควรค่าแก่ไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ณ ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร   

1. Top Restaurant in Bangkok ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในกรุงเทพฯ แหล่งรวมเศรษฐกิจของประเทศ

Top Restaurant in Bangkok

หมายความว่าร้าน Royal Osha ได้การยอมรับว่าเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟคุณภาพอันเพียบพร้อมในทุกด้านให้แก่ลูกค้าทุก ๆ ท่าน ทั้งคุณภาพการบริการที่ดียอดเยี่ยม รสชาติอาหารที่ดีเลิศ และปรุงจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุดจากภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมาตรฐานการดูแลลูกค้าของร้านที่จัดอยู่ในระดับต้น ๆ จะมีระบบการทำงานและการจัดการในร้านที่เป๊ะและต้องเพอร์เฟกต์ทุกระเบียดนิ้ว นอกจากนั้น ทำเลที่ตั้งของร้านยังอยู่ในโซนใจกลางเมือง ที่มีสามารถเดินทางเข้าไปได้ง่าย ๆ    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. Royal Osha กับอันดับร้านอาหาร Top Restaurant in Bangkok

ร้าน Royal Osha ได้รับรางวัล Michelin Guide เป็นร้านอาหารที่ได้รับการชื่นชมในเรื่องของรสชาติอาหารเลอค่า ที่มาพร้อม ๆ กัน ทั้งรูป รส กลิ่น บรรยากาศที่ลงตัว ตั้งแต่เปิดร้านมา Royal Osha ได้สั่งสมชื่อเสียงและคงคุณภาพมาตรฐานอันดีไว้ ทางร้านจึงได้รับรางวัลมากมายทั้งในฐานะร้านอาหารที่ดีเยี่ยม แต่ยังรวมไปถึงรางวัลที่ผู้บริโภคเลือกโหวตให้คะแนนนิยมสูงมาตลอดจนถึงปีนี้ นอกจากนั้นทางร้าน Royal Osha ยังถูกจัดเป็นร้านอาหารที่สนับสนุนผลผลิตจากชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย จากการนำผลผลิตชั้นเลิศของชาวไทยมาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนผลผลิตของชาวไทยทุกภูมิภาค เป็นอีกหนึ่งความน่าภูมิใจที่วัตถุดิบอาหารไทย และเมนูอาหารไทยตามพื้นภาคได้ถูกนำมาออกแบบในเมนูอาหารและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล

2.1 รางวัลที่ร้านได้รับมาตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปัจจุบัน

  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2014 Editor’s Choice โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Bangkok’s Top 20 Best Restaurants โดย Thailand Restaurant News Magazine
  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2015 ถึง 2018 โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Top Tables Bangkok 2015 ถึง 2016 โดย BK Magazine for Best Restaurants between 2015-2016
  • USER’S CHOICE WONGNAI IN THAI RESTAURANT CATEGORY 2016 ถึง 2019 สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2016 to 2019 by Wongnai
  • THAILAND TATLER BEST RESTAURANT AWARD 2019 โดย Tatler magazine
  • LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2022 IN THAI RESTAURANT CATEGORY สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2022 by Wongnai
  • Honors Award 2022 จาก Top 25 Restaurants Bangkok
  • Thai Select Premium ปี 2019 และปี 2022 จากกระทรวงพาณิชย์
  • Michelin Guide 6 ปีซ้อน ปี 2019 ถึง 2024 จาก Michelin
  • HELLO! Taste Awards ปี 2020 จาก นิตยสาร HELLO!
  โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้
  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Bangkok Best Restaurant Award เป็นรางวัลที่ได้รับจาก Best Dining & Entertainment Magazine ที่มีการคัดเลือกจากร้านอาหารที่มีคุณภาพ รสชาติ และบริการดีเยี่ยมจากประสบการณ์ของผู้ที่แวะเวียนไปรับประทานจริง
  • รางวัล Top Tables Bangkok เป็นรางวัลที่ได้รับจาก BK Magazine for Best Restaurants ที่มีการคัดเลือกจากการโหวตของเหล่านักชิม และบล็อคเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านอาหาร เป็นการการันตีถึงเรื่องคุณภาพ รสชาติ และบริการของร้านอาหารที่ดีเยี่ยม
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

3. อันดับร้านอาหารเบอร์ต้นของประเทศ จากผลงานการออกแบบเมนูของมิชลินเชฟ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Thailand ด้วยประสบการณ์การทำงานในฐานะเชฟของโรงแรมและภัตตาคารอาหารชื่อดัง เชฟวิชิต มุกุระ ผู้ได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดาวมาเป็น Executive Chef หรือเชฟผู้ควบคุมครัวกลาง และการออกแบบเมนูอาหารชั้นเลิศเพื่อสื่อสารความเป็นอาหารไทยในสไตล์ Fine Dining ที่มีทั้งความละเอียดอ่อนของรสชาติอาหารที่ครบเครื่องจาก เครื่องปรุง และวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทย Royal Osha จึงสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในเมนูอาหารสุดทันสมัยที่มีกลิ่นอายของโครงสร้างอาหารแบบฝรั่งเศส ในขณะที่วัตถุดิบอาหารทั้งหมดนั้นมาจากอาหารไทยดั้งเดิม รสชาติความแปลกใหม่ที่ไม่ทิ้งความเป็นอาหารไทย จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดสำหรับชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย และคนไทยที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทยในรูปแบบใหม่ ๆ และยิ่งเป็นเมนูอาหารที่ได้รับการออกแบบรสชาติมาจากเชฟระดับมิชลินแล้ว ร้าน Royal Osha ยิ่งเป็นอาหารไทย Fine Dining ที่ไม่ควรพลาด   > คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. การทานอาหารที่ Top Restaurant in Bangkok มีความแตกต่างอย่างไร? 

สิ่งที่จะได้รับจากการทานอาหารในร้านระดับนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของรสชาติอาหารที่ดี บรรยากาศที่ดี บริการดูแลลูกค้าที่ดี และการตกแต่งที่ดีของร้าน แต่จะรวมไปถึงเรื่องการรักษามาตรฐานทั้งหมดเหล่านี้ไว้ได้อย่างดี โดยไม่มีข้อใดที่ตกหล่นหรือคุณภาพลดลง เพราะฉะนั้นการดูแลจัดการให้ร้านคงมาตรฐานไว้ได้ นับเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีมูลค่าสูง แต่ทางร้าน Royal Osha ยังคงเลือกและมั่นใจในกระบวนการนี้ เพื่อที่มาตรฐานเหล่านี้จะได้สร้างความประทับใจ ความสุข และประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่มาเยือนร้านทุกคนได้ ทั้งนี้ระบบการทำงานของร้านระดับ Top จึงนิยมใช้หลักการ Customer-centricity มาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับลูกค้าทุกท่าน เพราะประสบการณ์ที่ดีที่ลูกค้าแต่ละท่านได้รับ จะพาให้ลูกค้ากลับมารับใช้บริการที่ร้านอีก รวมทั้งได้รับการบอกต่อไปยังเพื่อนของเพื่อนของลูกค้าด้วย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

5. ผลตอบรับจากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ระดับ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ไม่ได้ได้มาเปล่า ๆ เพราะนอกจากส่วนที่ทางร้านมั่นใจ ทั้งคุณภาพอาหารและการบริการแล้ว ผลตอบรับของคุณภาพเหล่านี้ที่ได้กลับมาก็เป็นเสียงเดียวกันว่า รสชาติอาหารดีมากควรค่าแก่การไปกินจริง มีคอมเมนต์ที่หลากหลาย ว่า  ‘Great Thai cuisine. Some of the best food I have ever eaten in Thailand.’  ‘Lovely stylish restaurant with great fusion food & good service.’  ‘Honestly, not much more to say: you come here with high expectations, and they are met in every single bite, sip, and detail. You can be certain you will enjoy your dining experience with all your senses.’  ‘A la carte is good enough in comparison to the 8- or 10- course menu. Good food and service. Reasonable price.’  ‘On our first night in Bangkok, we went to Osha and had the best meal during all our vacations in Asia. From the setting to the courses presentation, including the service, all was fantastic and exciting. It was a great surprise that exceeded our expectations.’  จากรีวิวที่ร้าน Royal Osha ได้รับ มีทั้งความประทับใจและความชื่นชมที่จะนำพาให้ผู้ที่ไม่เคยทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และมาชิมอาหารรสชาติเลอค่าที่ร้านแห่งนี้ ส่วนลูกค้าที่เคยได้ชิมอาหารไทยสูตรนี้แล้ว จะอยากกลับมาทานซ้ำและรับประสบการณ์ดี หรืออาจจะได้ชิมเมนูใหม่ ๆ ที่ทางร้านเพิ่งคิดขึ้นในปีนั้น ๆ ได้ด้วย 

5.1 สรุปรวม 3 เรื่องที่ลูกค้าจะให้การรีวิว และพูดถึงมากที่สุด

  1. รสชาติอาหารทุกเมนูอร่อยและดีเหมือนหน้าตาอาหารที่สวยงาม 
  2. การบริการลูกค้าดีมาก แบบ Out of the World
  3. การตกแต่งภายในร้านสวยงาม ทั้งสถาปัตยกรรมและไฟที่เปิดแสดง
  ด้วยตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ของ Royal Osha ที่ต้องการส่งออกอาหารไทยระดับคุณภาพดีเลิศให้ทั้งโลกได้สัมผัส การเดินทางของอาหารไทยในเส้นทาง Fine Dining นับว่ายังอีกยาวไกล แต่ทางร้านให้การรับรองได้เลยว่ามาตรฐานของร้านจะยังคงเดิม และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อประสบการณ์ทานอาหารที่ดีที่สุดของลูกค้าทุกท่าน    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha  

6. Royal Osha หนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

รสชาติของอาหารที่ Royal Osha มีการรังสรรค์ขึ้นมาให้แสดงถึงเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของอาหารไทยอย่างชัดเจน ด้วยฝีมือของเชฟระดับปรมาจารย์แถวหน้าของเมืองไทย “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ในการปรุงแต่งอาหารไทยมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน โดยเชฟวิชิต มุกุระ เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งเชฟใหญ่ ในวัย 24 ปี และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี จนทำให้ห้องอาหารศาลาริมน้ำที่นี่กลายเป็นห้องอาหารไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของห้องอาหารไทยเลยก็ว่าได้ และในช่วงเวลานั้นเชฟวิชิตก็ได้มีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย แต่ด้วยความที่เชฟวิชิตอายุเพิ่มมากขึ้น ไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ และอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าท้ายมากขึ้น จึงได้ถือกำเนิด Royal Osha ที่เป็นการจับมือกันระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล ที่มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ จึงทำให้เชฟวิชิต มีความตั้งใจว่าอยากจะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ และทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักกันในระดับโลกมากขึ้น และด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่น ส่งผลให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน และเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแพร่หลาย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. เมนูของ Royal Osha ที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากเชฟระดับปรมาจารย์ของ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok สำหรับเมนูอาหารของ Top Restaurant in Bangkok อย่าง Royal Osha นั้นมีความใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพดีเยี่ยม ไปจนถึงการนำเสนอแต่ละเมนูที่มีการรังสรรค์ขึ้นมาจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็นเชฟมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม   นอกจากนั้นทาง Royal Osha ยังมีการรังสรรค์เมนูต่างๆ ภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” ที่มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น เมนูแกงกะทิใบเหลียง ที่มีการนำใบเหลียงมาเป็นส่วนประกอบ และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา และต้านมะเร็ง เมนูเมี่ยงคำบัวหลวง ที่มีการนำกลีบบัวหลวงมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจ หรือเมนูต้มยำต่างๆ ที่มีการนำข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด เป็นส่วนประกอบในการที่ช่วยให้รสชาติของน้ำต้มยำมีความเข้มข้น และยังมีสรรพคุณในการขับลม ช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นต้น รวมถึงทาง Royal Osha ยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูตามฤดูกาล เพราะการรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ฤดูหนาว ก็จะเป็นเมนูแกงกระด้าง หรือส้มตำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพราะฤดูหนาวนั้นจะมีอาการท้องอืดง่าย และไม่เจริญอาหาร ฤดูร้อน ก็จะเป็นเมนูข้าวแช่ ที่มีสรรพคุณในการช่วยดับร้อนในร่างกาย และในฤดูฝน ก็จะเป็นเมนูเบือทอดภูเก็ต หรือแกงปูทะเลใบยี่หร่า ที่มีความเผ็ดร้อน และสามารถช่วยป้องกัน หรือไล่อาการหวัดได้เป็นอย่างดี และด้วยแนวคิดอาหารเป็นยา และการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha จึงทำให้ทุกคนที่แวะเวียนมาลิ้มลองอาหารที่ Royal Osha นั้นจะได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ Royal Osha เลยก็ว่าได้   เมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ ตามฤดูกาลเป็นประจำ และเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้
  • Starter เป็นเมนูอาหารที่มีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง เป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่มีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป และช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า กงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้ทำการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน พร้อมกับดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และกินได้ง่ายมากขึ้น ที่ผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศแบบจัดเต็มทุกคำ
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว มาพร้อมกับซุปที่มีความหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างปากให้ทุกคนพร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่เชฟวิชิตจัดเต็มาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้ลิ้มลองตั้งแต่คำแรกอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานที่จะช่วยปิดท้ายให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบ โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่มีความหอม หวาน และเป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมของชาวไทย มาดัดแปลงเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย จับคู่กับพุดดิ้งนมสดที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีที่มีความหวานอมเปรี้ยว และผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha ถ้าหากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรือเหล่านักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ อยากจะลิ้มลองความอร่อยที่มีการส่งต่อเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอาหารอย่างชัดเจน สามารถจองเข้ามาได้ที่ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่มีสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟวิชิต มุกุระ เชฟระดับปรมาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรุงอาหารไทย ตั้งใจปรุงทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อยแบบไทยแท้อย่างเต็มคำ