เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

Royal Osha Michelin Thailand ร้านอาหารไทย Fine Dining ที่ได้รับรางวัล Michelin 6 ปีซ้อน

“Royal Osha” เป็น 1 ในร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining Michelin Thailand ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide มากถึง 6 ปีซ้อน และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะว่าเมนูอาหารทุกเมนูนั้นถูกปรุงขึ้นมาจากวัตถุดิบที่มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี และผ่านการปรุงจาก Executive Chef มาฝีมืออย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” จนได้เมนูอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ หลากหลาย ไม่ซ้ำจำเจ มีความครบเครื่อง ครบรส ถ่ายทอดความเป็นไทยลงไปในอาหารทุกจาน ที่เมื่อนักชิมได้สัมผัสแล้วจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน และผนวกเข้ากันกับบรรยากาศที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย ทำให้เวลาที่นักชิมรับประทานอาหารนั้นจะสัมผัสได้ถึงความเป็นไทยได้อย่างแท้จริง เหมาะกับการมารับประทานได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ การคุยงาน หรือคุยเรื่องสำคัญ ที่ Royal Osha ก็มีอาหาร และบรรยากาศที่สามารถตอบโจทย์ในทุกโอกาสได้เป็นอย่างดี

1. Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining Michelin ที่เป็น 1 ใน Michelin Thailand ที่ครองใจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

Michelin Thailand

ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารไทย Fine Dining Michelin ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ “Royal Osha” ก็เป็น 1 ในร้านอาหาร Michelin Thailand ที่นักชิมหลายๆ คนจะต้องนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะว่าที่ Royal Osha เป็นร้านอาหารสไตล์ Fine Dining ที่เป็นสไตล์การรับประทานที่ได้รับความนิยมทั่วทั้งยุโรป ด้วยการจัดสรรเมนูแบบ Full Course ที่มีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และขนมหวาน และในแต่ละเมนูนั้นก็จะมีการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ หรือการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของอาหารชนชาตินั้นๆ เข้าไปด้วย ที่ถือว่าเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของการรับประทานอาหาร ทำให้เวลาที่นักชิมได้สัมผัส หรือลิ้มลองอาหาร Fine Dinning นั้นจะรู้สึกได้ถึงความอร่อย กลมกล่อม และเอกลักษณ์ต่างๆ ที่เชฟต้องการจะถ่ายทอดมาให้นักชิมได้อย่างชัดเจน เหมือนกันกับอาหารไทยทุกเมนูที่ Royal Osha ที่มีการคัดสรรวัตถุดิบทุกชนิดมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีความสด ใหม่ และสะอาด และนำมาผ่านกรรมวิธีในการปรุงจากเชฟมากฝีมือ จนได้เมนูอาหารไทยที่มีการถ่ายทอดความเป็นไทยอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของรสชาติที่มีความกลมกล่อม ครบรสตามสไตล์อาหารไทย มีหน้าตาที่มีสีสันสวยงาม มีการจัดจานมาเป็นอย่างดี มีการนำเสนอ และถ่ายทอดเรื่องราวในความเป็นไทยในทุกสัมผัส และมีการจัดลำดับเมนูที่จะช่วยให้นักชิมสามารถสัมผัสความเป็นไทยผ่านอาหารได้อย่างเต็มที่ และถึงแม้จะเป็นอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรส และครบองค์ประกอบ แต่ว่าก็สามารถรับประทานได้ง่าย และเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย จึงทำให้อาหารไทย Fine Dining Michelin ที่ Royal Osha นั้นถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแน่นอน ดังนั้น นักชิมคนไหนที่อยากจะสัมผัสความเป็นไทยในสไตล์ Fine Dining แบบไม่ซ้ำจำเจ ก็สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha ด้วยการ Booking ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางการติดต่อต่างๆ ได้ เพื่อสำรองที่นั่ง และสัมผัสอาหารไทยแบบพรีเมียมก่อนใคร

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

2. Executive Chef ที่ปรุงเมนู Michelin ด้วยความพิถีพิถัน สมกับเป็น Michelin Thailand

สำหรับเมนูอาหารที่ Royal Osha นั้นนักชิมสามารถมั่นใจได้ในทุกรายละเอียดของทุกเมนูที่สั่งได้เลยว่ามีความเป็นไทยสมกับที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารไทย Michelin Thailand อย่างแน่นอน เพราะว่าทุกเมนูที่ Royal Osha นั้นผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็น Executive Chef แห่ง Royal Osha และเป็นเชฟมากประสบการณ์ที่อยู่วงการอาหารมานานกว่า 40 ปี จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์กันเลยทีเดียว โดยเชฟวิชิต มุกุระนั้นเป็นเชฟแนวหน้าของเมืองไทยที่ได้เป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ”ของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน ตั้งแต่อายุ 24 ปี ที่จะต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน และได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทย เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และยังเป็นอาจารย์สอนที่ โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่ได้สร้างเชฟรุ่นใหม่ประดับวงการอาหารอีกมากมาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเชฟวิชิต มุกุระ ที่อยากจะลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าทาย และช่วยยกระดับวงการอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของทั่วโลกมากขึ้น จึงได้จับมือกับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล และได้สร้างร้านอาหารไทย Fine Dining อย่าง Royal Osha ขึ้นมา เพื่อให้ส่งต่อความอร่อยของอาหารไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่าอาหารไทยนั้นมีความแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ ตรงที่มีครบความเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีสีสันสวยงาม และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรพื้นบ้านมากปรุงเป็นอาหาร ที่ให้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพ ที่ถือว่าเป็น Signature ของอาหารไทยเลยก็ว่าได้ และด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจในการสร้างร้านอาหารไทย Royal Osha จึงทำให้ในปัจจุบันนั้นได้รับรางวัล Michelin Guide มามากถึง 6 ปีซ้อน และรางวัลการันตีอื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นที่รู้จักของนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่ได้สัมผัสถึงความดั้งเดิมแบบไทยๆ และเป็นอีก 1 ร้านอาหาร Michelin Thailand ที่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย หรืออยากสัมผัสอาหารไทยแบบพรีเมียมต้องห้ามพลาด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Chef ของ Royal Osha

3. รังสรรค์ทุกเมนู Michelin ด้วยวัตถุดิบแบบ Seasonal ที่ให้ความอร่อย และดีต่อสุขภาพ ตามสไตล์ของอาหารไทย Michelin Thailand

Michelin Thailand

การรังสรรค์เมนูอาหาร Michelin ที่ Royal Osha นั้นจะมีขั้นตอนในการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบในการทำอาหารที่มีความสด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย และจุดเด่นสำคัญในการเลือกวัตถุดิบของ Royal Osha คือ การเลือกใช้วัตถุดิบแบบ Seasonal หรือการใช้วัตถุดิบตามแต่ละฤดูกาล เพราะว่าเชฟวิชิต มุกุระ มีแนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ด้วยการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นมากผสมผสานเข้ากันกับสุนทรียศาสตร์ของรูป รส และกลิ่นของอาหารไทย ที่มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า “อาหารเป็นยา” ที่มีการนำพืช ผัก และสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร รวมถึงยังมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยได้อย่างลงตัว ทำให้อาหารไทย Michelin ทุกเมนูที่ Royal Osha นั้นเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ที่นักชิมจะได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยได้อย่างเต็มที่ ที่ถือได้ว่าการรับประทานอาหาร Michelin Thailand ที่ Royal Osha นั้นได้ทั้งความอร่อย และดีต่อสุขภาพ และเข้าถึงความเป็นไทยผ่านอาหารไทยได้อย่างแท้จริง และด้วยความที่ Royal Osha นั้นมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล จึงทำให้เมนูอาหาร Michelin มีการเปลี่ยนแปลง หรือสลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาลตามไปด้วย ทำให้นักชิมประจำ หรือผู้ที่ชื่นชอบสามารถแวะมาชิมอาหารไทยที่ Royal Osha ได้แบบไม่มีเบื่อ และนอกจากนั้นในทุกฤดูกาลก็จะมีอาหารครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่นอกจากจะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีแล้ว การรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรืออยากเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining Michelin Thailand ที่ทุกเมนูได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการนำเสนอ สามารถแวะมาชิมได้ที่ Royal Osha ที่มีเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่ได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย จากการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทย และช่วยสร้างการรับประทานอาหารไทยในมุมมองใหม่ๆ ให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

4. ครบรส ครบเครื่อง สไตล์ Michelin Thai Fine Dining กับเมนูอาหาร 3 ฤดูของ Royal Osha Michelin Thailand

เมนูอาหาร Michelin ของ Royal Osha นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง และสลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาล เพราะว่าที่ Royal Osha มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ที่สามารถช่วยสร้างความอร่อย และดีต่อสุขภาพของนักชิม มาพร้อมกับการปรุงแต่งที่มีความครบเครื่อง ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทยที่มีรสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด ที่นักชิมสามารถสัมผัสได้ทั้งหมดภายใน 1 คำ โดยเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีให้เลือกรับประทาน 3 ฤดูกาล ได้แก่ คิมหันต์ฤดู (ฤดูร้อน), วัสสานฤดู (ฤดูฝน) และเหมันต์ฤดู (ฤดูหนาว) ที่แต่ละฤดูนั้นก็จะมีเมนูเรียกน้ำย่อย เมนูอาหารหลัก และขนมหวานที่แตกต่างกัน และมีให้เลือกทั้งแบบ Set Menu และแบบ A La Carte ให้นักชิมได้เลือกรับประทานอาหารตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งเมนูแนะนำ Michelin Thailand ที่ Royal Osha ที่นักชิมต้องห้ามพลาด ดังนี้

4.1 ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา 

ข้าวแช่ต้นตำรับรอยัล โอชา หรือ Khao Chae Original By Royal Osha เป็นเมนู Michelin ยอดนิยมของนักชิมที่แวะเวียนมาที่ Royal Osha และเป็นเมนูขึ้นชื่อที่ใครได้ชิมแล้วจะต้องมาชิมซ้ำอีกครั้ง โดยเมนูข้าวแช่นั้นทำมาจากข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่แช่ข้ามคืน ที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียงชั้นเลิศ 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน และยังมีผักแกะสลักต่างๆ อย่างกระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก ให้รับประทานเคียงกันด้วย

4.2 หลนเนื้อปูกับตะไคร้

หลนเนื้อปูกับตะไคร้ หรือ Blue Crab Meat with Lemongrass Coconut Relish Served with Mixed Vegetables เป็นเมนู Michelin ที่มีการรังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพดีอย่าง “เนื้อปูม้าก้อน” ที่มีขนาดชิ้นใหญ่ นำไปปรุงกับกะทิ และเครื่องสมุนไพรหลากหลายชนิด พร้อมกับเคี่ยวให้หอม จนได้รสชาติที่มีความหอมหวานจากกะทิผสมผสานกับความเค็ม และเปรี้ยวจากสมุนไพร รับประทานคู่กับเครื่องเคียงนานาชนิด เช่น สายบัว ขมิ้นขาว และมะเขือ ซึ่งถือว่าเป็นอีกเมนูอาหารไทยที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องจิ้มที่มีความครบเครื่อง ครบรส หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว ที่นักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องห้ามพลาด

4.3 แกงคั่วสามฉุนกับหอยเชลล์ย่าง

แกงคั่วสามฉุนกับหอยเชลล์ย่าง หรือ Hokkaido Scallop and Acacia Leaves And Pickled Garlic and Bitter Nut in Red Curry เป็นเมนู Michelin ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างหอยเชลล์ จากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่นำมาย่างจนมีกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมกับซอสแกงคั่วที่มีเครื่องแกงเป็นสูตรเฉพาะจากทางภาคใต้ ผสมผสานกับกลิ่นที่เสริมความเผ็ดร้อนจากสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น สะตอ ชะอม และใบชะพลู มาพร้อมกับท็อปปิ้งอิคุระ หรือไข่ปลาแซลมอน ที่ช่วยตัดรสชาติเผ็ดร้อน เค็ม และหวานได้อย่างกลมกล่อม

4.4 ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด

ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด หรือ Thai Style Spicy and Sour Soup with Octopus Tentacle เป็นเมนู Michelin ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบสุกพรีเมียมอย่าง “หนวดปลาหมึกยักษ์” ที่คัดสรรมาเฉพาะหนวดโตๆ มีความสด ใหม่ สะอาด เนื้อนุ่มเด้ง หนึบหนับ ที่ผ่านการปรุงสุกให้มีความสุกกำลังพอดี เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปสีเหลืองทอง ที่มีรสชาติจัดจ้านจากส้มจี๊ดที่ผ่านการปรุงมาอย่างพิถีพิถัน และผ่านการเคี่ยวเข้ากันกับสมุนไพรหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนานจนได้รสชาติ และเพิ่มความหอมด้วยการเสิร์ฟโดย “เครื่องไซฟ่อน” ที่ช่วยดึงเอาน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรต่างๆ สู่ตัวซุปได้เป็นอย่างดี

4.5 ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่ กับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่างซอสน้ำตกเสิร์ฟพร้อมผักย่าง

ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่ กับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่างซอสน้ำตกเสิร์ฟพร้อมผักย่าง หรือ Seared Red Grouper with Thick & Creamy Red Curry “Che Che” Sauce and Grilled Australian Wagyu Beef Striploin wirh Spicy “Nam Tok” Sauce Served  with Pickled and Grilled Vegetables เป็นเมนู Michelin ที่ถูกเสิร์ฟมาแบบ Surf & Turf ที่เป็นการรวมอาหารทะเล และเนื้อสัตว์ไว้ในจานเดียวกัน รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศจากท้องทะเลอย่าง “ปลาเก๋าแดง” ที่ผ่านการปรุงด้วยการนาบกับกระทะที่มีน้ำมันร้อนจนหนังกรอบ มีความสุกกำลังพอดี มีรสสัมผัสที่มีความนุ่มเด้ง และความหวานของเนื้อปลาสด เสิร์ฟพร้อมซอสฉู่ฉี่เข้มข้น และมาพร้อมกับเนื้อวากิวออสเตรเลียย่าง ที่เสิร์ฟคู่กับซอสน้ำตก และผักย่าง ที่ช่วยให้รสชาติมีคามกลมกล่อม และเข้ากันอย่างลงตัว

ทั้งนี้ เมนูข้างต้นเป็นเมนูที่นำมาจาก Set Menu ในแต่ละฤดูกาล อาจทำให้เมนูมีการเปลี่ยนแปลง หรือวางจำหน่ายในบ้างช่วงเท่านั้น ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะลิ้มลองเมนูต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามการอัปเดตได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

5. ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Michelin Authentic Thai Taste ได้ที่ Royal Osha Michelin Thailand

Michelin Thailand

การรับประทานอาหารไทย Michelin ที่ Royal Osha นั้นไม่ได้ถ่ายทอดแค่ความเป็นไทยผ่านทางอาหารเท่านั้น แต่ที่ Royal Osha ยังให้ความใส่ใจในเรื่องของบรรยากาศในร้าน ที่จะช่วยให้นักชิมสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศ Michelin Authentic Thai Taste ได้ที่ Royal Osha Michelin Thailand ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการตกแต่งภายในห้องอาหารในทุกๆ ส่วนให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยมากที่สุด ตั้งแต่ประตูทางเข้า ผนัง เพดาน โต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี โดยภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ มาพร้อมกับการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก ทำให้บรรยากาศภายในร้านนั้นเหมือนกับนักชิมกำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม ที่มีบรรยากาศ เสน่ห์ และกลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ความรู้สึกเรียบหรู และภายในห้องอาหารยังมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเข้ากันกับการตกแต่งภายในร้าน ทำให้นักชิมสามารถดื่มด่ำกับความเป็นไทยได้ทั้งบรรยากาศ และอาหารที่กำลังรับประทานได้อย่างเต็มที่ และด้วยความเป็นไทยอย่างแท้จริงของ Royal Osha จึงทำให้เป็นอีกร้านอาหารไทย Michelin Thailand ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รีวิว Royal Osha Michelin ที่ได้รับจากนักชิมตัวจริง ที่การันตีความเป็นไทยของร้านอาหาร Michelin Thailand

Michelin Thailand

ร้านอาหารไทย Michelin Thailand อย่าง Royal Osha นั้นไม่ได้เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีจาก Michelin Guide 6 ปีซ้อน และรางวัลอื่นๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังได้รับรีวิวจากนักชิมเสียงจริง ตัวจริง ที่การันตีถึงความเป็นไทยของ Royal Osha ทั้งจากนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ ดังนี้

Nongnong Visa Wansupachart. April, 2023

“ซัมเมอร์ปีนี้ได้มากินข้าวแช่ที่ Royal Ocha เป็นที่แรก ก่อนมาก็ทราบมาว่าข้าวแช่ที่นี่รังสรรค์โดยเชฟวิชิต มุกุระ ตื่นเต้นมากเพราะเคยทานอาหารที่เชฟทำแล้วประทับใจมากๆ

ก่อนอื่นเลยการเสิร์ฟมาแบบอลังการ presentation ชนะเลิศ มี dry iced วูบวาบรู้สึกเย็นขึ้นมาทันตา!!! แต่ที่ยกให้เป็นเดอะเบสท์คือข้าว!! เชฟใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ เรียงเม็ดสวย หอมและนุ่มมาก ส่วนน้ำลอยดอยมะลิก็ไม่ธรรมดา เชฟใช้น้ำแร่ Iceland Spring pH8.8 ใส สดชื่น เย็นๆ ชื่นใจ เอาเป็นว่า ดีแบบแตกต่างสุดๆ ชอบมาก

ส่วนเครื่องข้าวแช่ 7 อย่างคือจัดเต็มมากกก ทั้งลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม (อันนี้ไม่เหมือนที่ไหน), ปลายี่สนผัดหวานและหัวไชโป๊วผักหวาน รวมถึงผักที่แกะสลักมาอย่างงดงาม ปิดท้ายด้วยมะยงชิดลอยแก้วสุดสดชื่น”

PookEats. August, 2019

“ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ขับผ่านไปมาบ่อยๆ แต่ไม่เคยคิดจะแวะลองชิมเพราะคิดเอาเองว่ารสน่าจะออกแนวไทยฟิวชั่นเหมือนหลายๆ ร้าน แต่ปรากฏว่าเรามีความเข้าใจผิดมาตลอด เพราะเชฟยังคงรสชาติไทยๆ แบบดั้งเดิมแต่สามารถยกระดับเมนูอาหารไทยธรรมดาให้มีรูปลักษณ์และรสชาติที่น่าสนใจมากขึ้น

เริ่มแรกแอบไม่ประทับใจเล็กน้อย ตรงที่จอดรถที่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได แถมเดินค่อนข้างไกลจากที่จอดรถมาตัวร้าน แต่หลังจากที่เดินเข้าร้านจนทานอาหารเสร็จ ถือว่าได้ความประทับใจมากๆ กลับไปแทน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศร้าน, การบริการของพนักงานทุกท่าน, การพรีเซนต์เมนูอาหารและรสชาติ รวมทั้งเครื่องดื่มที่สั่งนอกเหนือจากดีล

เมนูอาหารที่จัดมาในดีล รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของเชฟและทีมงานในการนำเสนอเมนู เพราะมาครบทั้งรูป, รส, และกลิ่น ชอบที่พนักงานมีการสอบถามรายละเอียดของประวัติการแพ้อาหารของลูกค้าแต่ละท่าน แสดงออกถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของลูกค้า รวมทั้งอธิบายรายละเอียดของเมนูที่ลงเสริฟทุกจานแบบที่ข้อมูลครบถ้วน ไม่ตกหล่น มาครบทั้งแหล่งที่มาและจุดเด่นของวัตถุดิบแต่ละตัว รวมทั้งแนะนำลำดับการรับประทานสำหรับเมนู appetizer ทำให้รสชาติออกมาบาลานซ์กันพอดี”

Joaovj. February, 2020

“Beautiful Restaurant and Food, On our first night in Bangkok, we went to Osha and had the best meal during all our vacation in Asia. From the setting to the courses presentation, including the service, all was fantastic and exciting. It was a great surprise that exceeded our expectations.”

Moknokke. December, 2019

“Royal delicious Thai cuisine, Not only the setting but mostly the presentation and the taste of the dishes are worth the detour. This great chef creates dishes with most respect for the Thai tradition and gives them an upgrade in an unique way. So beautiful and tasteful. Khob khun mak krab ”

Agra. February, 2023

“Excellent Michelin Guide restaurant! Michelin Guide restaurant. Great ambience. Food was delicious, interesting textures, flavorful, and presentation was excellent. Enjoyed an evening dinner with business colleagues.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. สัมผัสความอร่อยของอาหารไทย Michelin สไตล์ Fine Dinning ที่ Royal Osha  Michelin Thailand ได้แล้ว วันนี้!

สำหรับนักชิมที่สนใจอยากจะสัมผัสความอร่อยของอาหารไทย Michelin สไตล์ Fine Dinning ที่ Royal Osha ร้านอาหารไทย Michelin Thailand ที่มีอาหารไทยที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีความครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ มีความกลมกล่อม ทำให้เมนูอาหารไทยที่นักชิมได้ลิ้มลองกันนั้นมีหลากหลายสไตล์ และสามารถเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย สามารถตอบโจทย์นักชิมได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส และยังตั้งอยู่ใน Location ที่เดินทางสะดวกสบาย ดังนั้น นักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยสไตล์พรีเมียม สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha