Posted on Leave a comment

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

Fine Dining Bangkok

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

 

เมื่อ Royal Osha ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบอาหารไทย ได้เข้าถึงรสชาติอาหารไทยชั้นเลิศได้ที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและการเดินทางที่สะดวกสบาย นักท่องเที่ยวก็สามารถแวะเวียนนัดหมายสำรองที่นั่งเพื่อมาทานอาหารที่ร้านได้ไม่ยาก มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าที่มาเยือนทุกท่านจะได้รับประสบการณ์การบริการที่ดีที่สุด และได้อิ่มอร่อยอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง รูป รส กลิ่น และผิวสัมผัสของอาหาร

1. Fine Dining Bangkok กับร้าน Royal Osha

Fine Dining Bangkok

 

Royal Osha หนึ่งในร้านอาหารสุดเลิศหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหาร Fine Dining แบบ Set Menu ฟูลคอร์ส และแบบ a la carte ให้กับคุณวันละสองรอบ คือมื้อกลางวันและเย็น ไม่ว่าจะเป็นมื้อแห่งการพักผ่อน นัดเดท นัดธุรกิจ หรือนัดสำคัญไหน ๆ ร้าน Royal Osha ก็พร้อมต้อนรับและไม่ทำให้คุณ ต้องผิดหวัง เพียงแค่สำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อให้ทางร้านได้จัดเตรียมความพร้อม เพื่อบริการให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อลูกค้าได้มาเยือน ร้านตั้งอยู่ที่ต้นซอยร่วมฤดี อยู่ในพื้นที่ใจกลางย่านเพลินจิต-วิทยุ ซึ่งเป็นแหล่งร่วมธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของสถานทูตของหลายประเทศ บริษัทเอกชน โรงแรม โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นย่านที่วิลิศมาหราไปด้วยสีสันและไลฟ์สไตล์ และที่สำคัญย่านนี้เป็นย่านใจกลางความสะดวกสบาย ที่มีทั้งความปลอดภัยสูง จากสถานที่ราชการที่อยู่ในบริเวณ และแน่นอนว่าย่านนี้จะมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วย และ Royal Osha ก็ได้ตั้งอยู่ในย่านกลางเมือง ที่จัดว่าเป็นทำเลทองมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

2. การรวมตัวของอาหารทุกภูมิภาคในหนึ่งมื้อ Fine Dining Bangkok

เมนูอาหารที่คัดสรรแล้ว, วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารจากทั่วทุกภูมิภาคถูกส่งมาอยู่ในห้องครัวกลางของ Royal Osha เพื่อปรุงรสออกมาเป็นแต่ละเมนูอาหาร Fine Dining ที่ครบเครื่องครบรส และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างใน Set Menu ฟูลคอร์สของทางร้าน ชุด Ramayana Set 

  1. จะเป็นคอร์สเมนูที่มาจากเมนูใหม่ ๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนเมนูให้หลากหลายตามฤดูกาลและตามวัตถุดิบ ซึ่งเมนูจะถูกออกแบบ ปรุงรส และใช้ส่วนผสมตามเมนูอาหารของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย 
  2. มีคอนเซปต์ของคอร์สที่ให้ลูกค้าได้เลือกทานเมนูนั้น ๆ โดยปรุงในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการย่าง นึ่ง ทอด อบ ตุ๋น และการยำอาหารสุดคลาสสิกไทยสไตล์ 
  3. ไฮไลท์ของการเลือกทานคอร์ส Ramanaya จึงเป็นความหลากหลายในรสชาติอาหารจากทุกภาคตั้งแต่เริ่มคอร์สด้วย Starter เมนู ไปจนถึงของหวาน
  4. เสน่ห์ของการทานคอร์สเมนูในเซ็ตนี้ มีสีสันการประดับตกแต่งเมนูอาหารแต่ละจานที่สวยงามพิถีพิถัน และยังมีเครื่องดื่มสูตรที่เสิร์ฟคู่กันกับคอร์สด้วย

 

การวางลำดับคอร์สและรสชาติที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสในคอร์สนี้จึงยิ่งเลอค่า แต่ถ้าเกิดลูกค้าต้องการเข้ามาทานอาหารในมื้อเล็ก ๆ เป็น a la carte ก็สามารถเลือกและอิ่มอร่อยกับเมนูของแต่ละภาคได้แบบจานต่อจาน

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

3. วิถีการทานอาหาร Fine Dining ที่ออกแบบเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด

Fine Dining Bangkok

Fine Dining Bangkok ของร้าน Royal Osha นับเป็นประสบการณ์ทานอาหารล้ำค่าที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน ด้วยอารยธรรมการทานอาหารไทยที่ถูกวิวัฒน์ให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน โดยยึดแบบโครงสร้างอาหารแบบ Fine Dining มีรายละเอียดที่น่าสนใจและน่าชื่นชมในฝีมือการปรุงรสอาหารไทยของเชฟ ที่คิดออกแบบรสชาติอาหารไทยออกมาให้อยู่ในปริมาณที่พอดีคำแต่ได้รสชาติเต็ม ๆ อย่างการจัดเมนูคอร์ส Starter ที่มาในปริมาณอาหารที่มากเกินไปไม่ได้ ต้องมาในขนาดที่พอดีคำ พอให้ผู้บริโภคได้กระตุ้นความอยากอาหารไล่ลำดับไปเรื่อย ๆ เพื่อลิ้มรสอาหารในคอร์สถัดไป และความเลิศรสและใส่ใจในรายละเอียดเชิงสร้างสรรค์แบบนี้เอง ที่ทำให้ทางร้าน Royal Osha ได้รับการยอมรับว่าเป็นร้านอาหาร Fine Dining ของไทยที่จัดเป็นร้านเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ และหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับ Michelin Guide เป็นร้านที่หลายท่านมั่นใจที่จะแนะนำให้กับเพื่อน ครอบครับ และใครที่ต้องการทานอาหารมื้อพิเศษในบรรยากาศความเป็นไทย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

4. Royal Osha ออกแบบอาหารไทยแบบวีแกน เพื่อผู้บริโภคทุกคน 

อาหารไทยเป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าไม่แพ้ชาติใดในโลก และในปัจจุบันยังได้มีหลากหลายเมนูอาหารยอดนิยมที่ติดตลาดสากล และอีกหลายเมนูที่ได้การยอมรับและยกย่องให้เป็นอาหารที่มีรสชาติดีที่สุดของโลก มีชาวต่างชาติมากมายให้ความสนใจกับอาหารไทยที่ครบรสครบเครื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มผู้บริโภคชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งที่มีอาการแพ้อาหาร ซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำคัญสำหรับอาหารไทย เช่น น้ำมันหอย ถั่วลิสง หรือเป็นชาววีแกน ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ แถมยังมีแยกย่อยลงไปอีกสำหรับวีแกนระดับเคร่งมาก ไปจนถึงวีแกนเคร่งน้อย หรือเป็นมังสวิรัติ และแน่นอนว่าที่ร้าน Royal Osha ได้ออกแบบเมนูอาหารมาเพื่อความต้องการของผู้บริโภคทุกประเภท มีเมนูวีแกนที่ไม่มีส่วนผสมหรือซอสปรุงที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ และยังให้รสชาติที่เลิศหรูตามสไตล์ของร้านอาหาร Fine Dining ได้อย่างครบถ้วน และถ้าหากลูกค้าต้องการรีเควสเพิ่มเติมเรื่องขอลดรสเผ็ดของเมนูไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถแจ้งกับพนักงานได้เลย ทางร้านพร้อมปรับและปรุงเมนูที่ดีที่สุดให้กับแขกของร้านทุกท่าน 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

 

5. Fine Dining Bangkok เปิดประสบการณ์ทานอาหารที่ล้ำค่า คุณค่าที่คุณคู่ควร

Fine Dining Bangkok

การทานอาหารสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ของร้าน Royal Osha เพราะในระหว่างที่ผู้คนกำลังคึกคัก ทั้งเร่งรีบเดินทาง และกำลังเข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมือง ซึ่งต้องแย่งชิงที่นั่งหรือต่อคิวเพื่อเข้าไปทานอาหารหรือเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่ด้วยระบบการจองล่วงหน้าก่อนเข้าไปรับบริการของทางร้าน ขั้นตอนการต่อคิวที่หน้าร้านจึงหมดไป และเมื่อลูกค้าได้ย่างก้าวเข้ามาในร้านแล้ว บรรยากาศในร้านของ Royal Osha จะเปลี่ยนภาพความวุ่นวาย ให้เป็นความรู้สึกสงบ พร้อมกับบรรยากาศการพักผ่อนทานอาหารที่อบอวลไปด้วยความหรูหรา ลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และในระหว่างการเสิร์ฟแต่ละเมนู พนักงานจะให้การอธิบายว่าเมนูที่ลูกค้าได้รับมีความเป็นมาและการปรุงอย่างไรแบบสั้นกระชับ และยังมีการทักทายจากเชฟของทางร้านจากห้องครัวด้วยเป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศการทานอาหารที่อบอุ่นล้ำค่านี้มาจากความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทางร้าน ตั้งแต่ลูกค้าได้เดินเข้าไปในร้าน ไปจนถึงจบคอร์ส ซึ่งที่ตั้งของร้านก็เหมาะสมและสามารถเดินทางได้ง่าย พร้อมทั้งมีที่จอดรถให้ที่ร้าน

 

มื้ออาหารสุดพิเศษกับ Fine Dining Bangkok ในแบบของร้าน Royal Osha จึงเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและควรค่าต่อการมาเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวาระโอกาสไหน ๆ ทางร้านก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความพิเศษให้กับมื้อนั้นของคุณ สำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อเข้ามารับบริการที่ร้าน Royal Osha ได้เลย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

 

6. Fine Dining Bangkok พิถีพิถันทุกขั้นตอนการปรุงจากเชฟแถวหน้าของไทยที่รังสรรค์เมนูของ Royal Osha

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะได้รับการปรุงทุกขั้นตอนที่มีความพิถีพิถัน และรังสรรค์ด้วยความใส่ใจจากเชฟมือทองระดับปรมาจารย์แถวหน้าของประเทศไทย นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่งอาหารไทยให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยในทุกสัมผัสมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของเชฟวิชิต มุกุระ ที่ทำงานในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี ในตำแหน่งเชฟใหญ่ และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเพียงเท่านั้น และยังเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย และด้วยความเชี่ยวชาญ และความมากฝีมือของเชฟวิชิต จึงทำให้ห้องอาหารไทยศาลาริมน้ำนั้นเป็นห้องอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นห้องอาหารไทยในระดับแถวหน้า ที่ผู้ที่ชื่นชอบ หรืออยากจะลิ้มลองอาหารไทยพรีเมียมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจะต้องแวะเวียนกันมาให้ได้สักครั้ง และถึงแม้ว่าเชฟวิชิตนั้นถือว่าเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จในด้านสายอาชีพของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนา และมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่มีความ้ท้าทาย นั่นก็คือ การทำอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระดับโลก เพราะเชฟวิชิตมีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ และอยากจะรังสรรค์อาหารออกมาภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้เกิด Fine Dining Bangkok อย่าง Royal Osha ขึ้นมา ที่เป็นการจับมือระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล เพื่อส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย การปรุงแต่งอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสาน และให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

 

โดยเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีความใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพ ไปจนถึงการปรุงอาหาร และการนำเสนอแต่ละเมนูที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้ทำการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต การกิน และอยู่อาศัยของชาวไทยลงไปในอาหาร และมีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ในอาหารทุกคำอย่างเต็มเปี่ยม ตามแนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ของเชฟวิชิตนั่นเอง และนอกจากนั้นทาง Royal Osha ก็ยังนำแนวคิดที่ว่า “อาหารเป็นยา” มาปรับใช้ในการรังสรรค์เมนูต่างๆ อีกด้วย เพราะว่าชาวไทยนั้นมีความสามารถในการใช้พืช ผัก สมุนไพรเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งทาง Royal Osha นั้นก็ยังมีการปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร และเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และยังเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น และยังมีให้เลือกทั้งแบบ A La Carte และ Set Menu ที่ประกอบไปด้วย Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert ที่มีการสร้างสรรค์ทุกเมนูขึ้นมาให้ทุกคนได้รับประทานมื้ออาหารไทยที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

7. รางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด

Fine Dining Bangkok

“Royal Osha” เป็น Fine Dining Bangkok ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์ด้วยความใส่ใจ และการปรุงด้วยความพิถีพิถันจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ทำให้ทุกเมนูของ Royal Osha นั้นมีรูปร่างหน้าตา รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่สามารถส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างเต็มเปี่ยมทุกคำ และสามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักชิมทั้งชาว และชาวต่างชาติได้อย่างไม่รู้ลืม จนทำให้อาหารไทยจาก Royal Osha นั้นเป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และทำให้ Royal Osha เป็นหนึ่งใน Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลอื่นๆ ที่การันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และรางวัลที่คัดเลือกจากเหล่านักวิจารณ์อาหารที่มีประสบการณ์ในการรับประทานจริง เป็นต้น โดยรางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Fine Dining Bangkok
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น และจะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป รวมถึงจะต้องเป็นร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Fine Dining Bangkok ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัล HELLO! Taste Awards
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่สามารถส่งต่อเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจนได้รับรางวัล Thailand Tatler Best Restaurants

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย นักชิม หรือนักวิจารณ์อาหารทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ต้องการอยากจะลิ้มลองรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารไทยที่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ และผ่านกรรมวิธีในการปรุง และสร้างสรรค์ที่มีความพิถีพิถัน จนสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลองได้ทุกคำที่สัมผัส ต้องแวะมาที่ Royal Osha ที่เป็น Fine Dining Bangkok ที่รังสรรค์ทุกเมนูด้วยความใส่ใจ เติมเต็มวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยใส่ลงไปในอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และรูปร่างหน้าตาของอาหารไทยอย่างแท้จริง

Posted on Leave a comment

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

Bangkok best restaurant

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

มีร้านอาหารมากมายในกรุงเทพมหานคร แต่ร้านไหนจะเป็นร้านอาหารไทย และเป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ได้การยอมรับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติมากหน้าหลายตาที่เดินทางมาแวะเวียนที่กรุงเทพฯ ก็จะร่วมเป็นผู้ตัดสินในเรื่องคุณภาพอาหารที่ดีที่สุดนี้กัน และแน่นอนว่าร้าน Royal Osha จะถูกนับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพด้านไหน Royal Osha ก็มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และประสบการณ์สุดพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากการเข้ามาทานอาหารที่ร้าน แต่การจะเข้าไปอยู่ในหมวดร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ก็มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และมีคู่แข่งหลากหลายสัญชาติที่จะมาแข่งกับอาหารไทยเช่นกัน  

1. Bangkok best restaurant กับการแข่งขันที่สูงเกินบรรยาย

Bangkok best restaurant

ในกรุงเทพมหานครมีอาหารเยอะมาก ซึ่งเยอะในที่นี้ไม่ได้เยอะแค่เพียงจำนวน แต่เยอะในเรื่องของความหลากหลายของประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัญชาติต่าง ๆ อาหาร Fine Dining, อาหารฟาสต์ฟู้ด, อาหารโฮมเมด และ อาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกทานกันตามความชอบและความถนัดของแต่ละคน แต่สุดท้ายแล้วอาหารที่คนไทยซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ นิยมทานกันมากที่สุดก็คืออาหารไทย เพราะด้วยรสชาติอาหารที่คุ้นเคย และความครบเครื่อง ทั้งรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม เป็นอาหารประเภทที่คนไทยกินได้เรื่อย ๆ หากเทียบกับอาหารสัญชาติอื่น ซึ่งการแข่งขันในส่วนนี้ก็มีหลายตลาดที่ยังต้องแข่งขันกันใน market section ของตัวเองต่อไป อย่างตลาดอาหารตามสั่งที่ราคาถูกลงมาหน่อยเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่คุณภาพรองลงมา แต่สำหรับอาหารพรีเมียมที่วัตถุดิบมีราคาแพง ค่าอาหารจึงมีราคาสูงตาม

และทางร้าน Royal Osha ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม แบบ Thai Fine Dining ที่มีการแข่งขันที่สูง แตกต่างจากการแข่งขันของอาหารตลาดอื่น เพราะอาหาร Thai Fine Dining เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับการมาทานในวาระโอกาส นัดสำคัญต่าง ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้บริโภคจะไม่ได้มาทานอาหารที่ร้านทุกวัน ด้วยรสชาติและการบริการที่ดีเยี่ยม ระบบการสำรองที่นั่งก่อนเข้ามารับบริการ และราคาค่าใช้จ่ายของอาหารที่สูง ซึ่งมาจากมาความพิถีพิถันในการเตรียมอาหารและการดำเนินการทุกอย่าง และยังมาจากคุณภาพอาหารที่ผ่านการยอมรับ และได้รับรางวัล Michelin Guide 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. สิ่งที่ต้องมีหากจะเป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant 

ด้วยการแข่งขันที่สูง สิ่งที่ร้านอาหารจะต้องมีและทำให้ได้ เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมีหลายข้อหลายปัจจัยที่จะใช้ในการพิจารณา เพราะว่าตัวเลือกที่ผู้บริโภคสามารถเลือก และเปลี่ยนไปทานมีเยอะมาก และยิ่งเข้าถึงได้ง่ายขึ้นไปอีก ด้วยระบบขนส่งดิลิเวอรี่ทั้งหลาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การทานอาหารให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดคือการทานอาหารตอนปรุงเสร็จใหม่ ๆ ร้อน ๆ แปลว่าร้านอาหารนั้นจะต้องมีหน้าร้านมีที่นั่งให้ลูกค้าได้ใช้เวลาทานอาหารสด ๆ ร้อน ๆ ในร้านได้ และในขณะเดียวกันปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องมีสำหรับร้านอาหารที่ดีที่สุด คือ 

  • คุณภาพอาหารที่ดี
  • รสชาติอาหารดี
  • ทำเลที่ตั้งดี 
  • เดินทางไปได้สะดวก 
  • ราคาอาหารคุ้มค่ากับรสชาติ 
  • ประสบการณ์การทานอาหารที่ดี 

 

และทุกข้อที่กล่าวมาร้าน Royal Osha มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ นอกจากนั้นทางร้านยังสามารถคงมาตรฐานอันดีของคุณภาพของทุก ๆ ข้อไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ มีแต่คุณภาพจะยิ่งสูงขึ้น ด้วยการปรับปรุงสูตรและเมนูใหม่ ๆ ที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความชอบของลูกค้า 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. ร้านอาหาร Fine Dining ที่ถูกจัดเป็น Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

Fine Dining มีที่มาจากร้านอาหารระดับพรีเมียมสัญชาติฝรั่งเศสที่พร้อมเสิร์ฟคอร์สเมนูอันหรูหรา สไตล์ฝรั่งเศสแบบสเต๊ก สลัด และเมนูตามสไตล์เดิม ซึ่งตลาด Fine Dining นับเป็นตลาดที่กว้างมากพอสมควร ในขณะที่มีราคาสูง แต่ในปัจจุบันที่ทั่วโลกเชื่อมต่อกันได้และมีการฟิวชั่นเกิดขึ้นในทุกวงการ สูตรอาหาร Fine Dining ก็ไม่จำเป็นต้องตายตัวและจำกัดอยู่ในกรอบเดิม ๆ จึงได้เกิดการฟิวชั่นอาหารไทยเข้าไปใน Fine Dining ที่ได้การยอมรับในระดับสากล ด้วยรสชาติที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นของวัตถุดิบอาหารไทย การใช้ผัก สมุนไพร ผลไม้ไทย และเครื่องปรุง เครื่องเทศสด ๆ ของไทย ก็มีบทบาทสำคัญในการชูรสชาติต่าง ๆ มากขึ้น จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับรสชาติอาหารไทยอยู่แล้ว อาหาร Thai Fine Dining จะยิ่งเผยรายละเอียดในรสชาติอาหารไทยที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กลิ่นสมุนไพรและรสเครื่องเทศในอาหาร Fine Dining จะชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่ออาหารไทยสไตล์ Fine Dining ได้บุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการแข่งขันของร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อาหารไทยระดับคุณภาพ ที่รสชาติไม่ซ้ำใคร และระบบการดูแลลูกค้าที่เข้มงวดเพื่อมอบประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุด จึงตอบโจทย์ทุกข้อของ Bangkok best restaurant

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining กับหนึ่งใน Bangkok best restaurant

หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง Royal Osha ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองในย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี ทำเล ณ กลางกรุงที่สามารถเดินทางไปถึงได้ไม่ยาก ด้วยรถสาธารณะหรือขับรถไปจอดที่ร้านก็ได้ ระบบการเข้ารับบริการของทางร้าน ต้องผ่านการจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น เพราะว่าทางร้านต้องเตรียมต้อนรับลูกค้าให้ดีที่สุด ครบที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่หน้าประตู จนลูกค้าเดินทางกลับ กระบวนการจองอาจจะดูเหมือนมีพิธีรีตองแต่เป็นระบบที่ Fine Dining ทั่วโลกนิยมใช้ เพื่อการให้บริการที่ดีและน่าประทับใจกับลูกค้า

 

วัตถุดิบในการสร้างสรรค์แต่ละเมนูของทางร้าน ถูกส่งตรงมาจากผลผลิตในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ทั้งผัก ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องปรุงอื่น ๆ จะเข้ามายังครัวกลางที่กรุงเทพมหานครเพื่อปรุงรสชาติตามสูตรอาหารไทย Fine Dining ด้วยรสชาติที่เข้มข้นสมเป็นอาหารไทยนี้ Royal Osha ได้เป็นสื่อกลางในการส่งมอบรสอาหารไทยที่ดีเลิศให้กับผู้บริโภค จากรสชาติอาหารไทยภาคหนึ่งให้กับคนอีกภาคหนึ่ง และส่งต่อรสชาติอาหารไทย และเมนูที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก อย่างเช่น Meuang Kham Bua Lhuang, Lemongrass And Blue River Prawn Salad, Khao Chae: Rice in chilled jasmine water with assorted condiments, Southern Style Rice and Fresh Herbs Salad with Fried Fish และเมนูของหวาน อย่าง Khanom Kho (Sweet Coconut Dumplings) เป็นต้น 

 

ใครที่สนใจเข้ามารับบริการกับ Bangkok best restaurant และเก็บประสบการณ์การทานอาหารมื้อพิเศษสุดเพอร์เฟกต์จากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารคุณภาพดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ที่ Royal Osha สามารถจองคิวเข้ามาที่ร้านได้เลย ร้านเปิดให้บริการมื้อกลางวันและมื้อเย็นเป็นหลัก

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

5. Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่รังสรรค์เมนูด้วยเชฟมากประสบการณ์

Bangkok Best Restaurant

ทุกเมนูอาหารของ Royal Osha เป็นเมนูที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ในด้านการทำอาหารมานานกว่า 40 ปี และประสบความสำเร็จในด้านอาหารจนหลายๆ คนเรียกว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์ โดยเชฟวิชิต มุกุระ นั้นกว่าจะเป็นระดับปรมาจารย์ได้ ก็เคยผ่านการเป็นลูกมือช่วยงานในครัวของคุณแม่มาก่อน และได้ก็ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบในการทำอาหาร จึงมีจุดมุ่งหมายที่เป็นเชฟในระดับแนวหน้าของเมืองไทยให้ได้ ซึ่งเชฟวิชิตก็ได้เริ่มต้นจากการทำงานเป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” ที่เชฟวิชิตได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และได้ตำแหน่งเชฟใหญ่ที่ต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเท่านั้น รวมถึงยังได้มีการมีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหาร และช่วยยกระดับแวดวงร้านอาหารของเมืองไทยได้อย่างมากมาย และหลังจากทำงานเป็นเชฟใหญ่ได้ 27 ปี ก็ได้ลาออกไปช่วยดูแลธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้กลับมาทำงานเป็นเชฟในสายโรงแรมเช่นเดิม และยังเคยไปสอนทำอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่เมื่อถึงในช่วงอายุหนึ่ง เชฟวิชิตก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ อีกต่อไป และมองหาสิ่งท้าทายใหม่ๆ จนได้มาจับมือสร้างร้านอาหารไทย Fine Dining อย่าง Royal Osha กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล โดยเชฟวิชิต มุกุระ มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีความสามารถในเรื่องการใช้สมุนไรพมาปรุงอาหารอีกด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ” จึงเป็นความตั้งใจที่เชฟวิชิตมีต่อร้าน Royal Osha และความต้องการที่จะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน และด้วยความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของเชฟวิชิต ที่มาพร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 40 ปี จึงทำให้เชฟวิชิตได้พา Royal Osha สู่การเป็นร้านอาหาร Fine Dining เป็น Bangkok best Restaurant และได้รับรางวัล Michelin Guide มาถึง 6 ปีซ้อน

 

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทยที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ สามารถแวะมาชิมได้ที่ Royal Osha ที่มีเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย ที่ผ่านการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทย และช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยในมุมมองใหม่ๆ ให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อทำความรู้จักกับเชฟวิชิต มุกุระ แห่ง Royal Osha

6. รางวัลการันตี Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant

“Royal Osha” เป็นร้านอาหาร Thai Fine Dining ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ ทำให้รูปร่าง รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารนั้นสามารถส่งต่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทยได้อย่างชัดเจน และเป็นการยกระดับอาหารไทยให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเสน่ห์ เพื่อให้อาหารไทยนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากยิ่ง จนทำให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหาร Bangkok best Restaurant ที่ได้รับรางวัลการันตีอย่างมากมาย เช่น Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลการันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และเป็นรางวัลที่เป็นยอมรับของเหล่านักวิจารณ์อาหาร โดยรางวัลการันตีที่ Royal Osha ได้รับ มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

7. เมนู Royal Osha ที่ขึ้นชื่อของ Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน โดยจะมีให้เลือกรับประทานทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ เป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ที่จะช่วยยกระดับ และเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่ขึ้นชื่อสมกับ Bangkok best Restaurant นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้

  • Starter เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่จะช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยเมนู Stater นั้นจะมีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้จะมีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และเตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เมนูกงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้นำความสามารถในการดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และมาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นเลิศต่างๆ แบบจัดเต็ม
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่จะช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างคอให้ทุกคนก่อนจะเจอกับเมนูอาหารจานหลัก โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีซุปหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยล้างปากให้พร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่ทุกคนรอคอย โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาตที่ได้รับประทานเมนูนี้จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานปิดท้ายที่จะช่วยให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่เป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของชาวไทย และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มานำเสนอเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย เพิ่มความหอมมันด้วยพุดดิ้งนมสด และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รี ที่นำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ช่วยปิดมื้ออาหารของทุกคนที่สร้างความประทับใจได้แบบไม่รู้ลืม

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha

สำหรับนักชิม หรือผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถแวะมาลิ้มลองอาหารไทยที่มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจนได้ที่ Royal Osha หนึ่งใน Bangkok best Restaurant เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ และพรีเมียม ผ่านการปรุงด้วยเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็นเชฟมากฝีมือระดับปรมาจารย์ ที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองอาหารไทยที่ Royal Osha ทุกเมนู

Posted on Leave a comment

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน  

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

จากร้านอาหาร Chain ของ OSHA Thai Restaurant & Bar ที่โด่งดังในสหรัฐอเมริกา Royal Osha ได้นำโครงสร้างการทำอาหาร Fine Dining จากวัตถุดิบอาหารไทย ร่วมกับการใช้ Molecular Gastronomy จนกลายมาเป็นอาหาร Thai Fine Dining เลิศรสที่คงรสชาติความเป็นอาหารไทยไว้เต็มร้อย และได้รับรางวัลและการยอมรับมากมายมาจนถึงปัจจุบัน ร้าน Royal Osha ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ควรค่าแก่ไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ณ ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร   

1. Top Restaurant in Bangkok ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในกรุงเทพฯ แหล่งรวมเศรษฐกิจของประเทศ

Top Restaurant in Bangkok

หมายความว่าร้าน Royal Osha ได้การยอมรับว่าเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟคุณภาพอันเพียบพร้อมในทุกด้านให้แก่ลูกค้าทุก ๆ ท่าน ทั้งคุณภาพการบริการที่ดียอดเยี่ยม รสชาติอาหารที่ดีเลิศ และปรุงจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุดจากภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมาตรฐานการดูแลลูกค้าของร้านที่จัดอยู่ในระดับต้น ๆ จะมีระบบการทำงานและการจัดการในร้านที่เป๊ะและต้องเพอร์เฟกต์ทุกระเบียดนิ้ว นอกจากนั้น ทำเลที่ตั้งของร้านยังอยู่ในโซนใจกลางเมือง ที่มีสามารถเดินทางเข้าไปได้ง่าย ๆ    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. Royal Osha กับอันดับร้านอาหาร Top Restaurant in Bangkok

ร้าน Royal Osha ได้รับรางวัล Michelin Guide เป็นร้านอาหารที่ได้รับการชื่นชมในเรื่องของรสชาติอาหารเลอค่า ที่มาพร้อม ๆ กัน ทั้งรูป รส กลิ่น บรรยากาศที่ลงตัว ตั้งแต่เปิดร้านมา Royal Osha ได้สั่งสมชื่อเสียงและคงคุณภาพมาตรฐานอันดีไว้ ทางร้านจึงได้รับรางวัลมากมายทั้งในฐานะร้านอาหารที่ดีเยี่ยม แต่ยังรวมไปถึงรางวัลที่ผู้บริโภคเลือกโหวตให้คะแนนนิยมสูงมาตลอดจนถึงปีนี้ นอกจากนั้นทางร้าน Royal Osha ยังถูกจัดเป็นร้านอาหารที่สนับสนุนผลผลิตจากชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย จากการนำผลผลิตชั้นเลิศของชาวไทยมาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนผลผลิตของชาวไทยทุกภูมิภาค เป็นอีกหนึ่งความน่าภูมิใจที่วัตถุดิบอาหารไทย และเมนูอาหารไทยตามพื้นภาคได้ถูกนำมาออกแบบในเมนูอาหารและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล

2.1 รางวัลที่ร้านได้รับมาตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปัจจุบัน

  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2014 Editor’s Choice โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Bangkok’s Top 20 Best Restaurants โดย Thailand Restaurant News Magazine
  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2015 ถึง 2018 โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Top Tables Bangkok 2015 ถึง 2016 โดย BK Magazine for Best Restaurants between 2015-2016
  • USER’S CHOICE WONGNAI IN THAI RESTAURANT CATEGORY 2016 ถึง 2019 สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2016 to 2019 by Wongnai
  • THAILAND TATLER BEST RESTAURANT AWARD 2019 โดย Tatler magazine
  • LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2022 IN THAI RESTAURANT CATEGORY สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2022 by Wongnai
  • Honors Award 2022 จาก Top 25 Restaurants Bangkok
  • Thai Select Premium ปี 2019 และปี 2022 จากกระทรวงพาณิชย์
  • Michelin Guide 6 ปีซ้อน ปี 2019 ถึง 2024 จาก Michelin
  • HELLO! Taste Awards ปี 2020 จาก นิตยสาร HELLO!
  โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้
  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Bangkok Best Restaurant Award เป็นรางวัลที่ได้รับจาก Best Dining & Entertainment Magazine ที่มีการคัดเลือกจากร้านอาหารที่มีคุณภาพ รสชาติ และบริการดีเยี่ยมจากประสบการณ์ของผู้ที่แวะเวียนไปรับประทานจริง
  • รางวัล Top Tables Bangkok เป็นรางวัลที่ได้รับจาก BK Magazine for Best Restaurants ที่มีการคัดเลือกจากการโหวตของเหล่านักชิม และบล็อคเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านอาหาร เป็นการการันตีถึงเรื่องคุณภาพ รสชาติ และบริการของร้านอาหารที่ดีเยี่ยม
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

3. อันดับร้านอาหารเบอร์ต้นของประเทศ จากผลงานการออกแบบเมนูของมิชลินเชฟ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Thailand ด้วยประสบการณ์การทำงานในฐานะเชฟของโรงแรมและภัตตาคารอาหารชื่อดัง เชฟวิชิต มุกุระ ผู้ได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดาวมาเป็น Executive Chef หรือเชฟผู้ควบคุมครัวกลาง และการออกแบบเมนูอาหารชั้นเลิศเพื่อสื่อสารความเป็นอาหารไทยในสไตล์ Fine Dining ที่มีทั้งความละเอียดอ่อนของรสชาติอาหารที่ครบเครื่องจาก เครื่องปรุง และวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทย Royal Osha จึงสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในเมนูอาหารสุดทันสมัยที่มีกลิ่นอายของโครงสร้างอาหารแบบฝรั่งเศส ในขณะที่วัตถุดิบอาหารทั้งหมดนั้นมาจากอาหารไทยดั้งเดิม รสชาติความแปลกใหม่ที่ไม่ทิ้งความเป็นอาหารไทย จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดสำหรับชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย และคนไทยที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทยในรูปแบบใหม่ ๆ และยิ่งเป็นเมนูอาหารที่ได้รับการออกแบบรสชาติมาจากเชฟระดับมิชลินแล้ว ร้าน Royal Osha ยิ่งเป็นอาหารไทย Fine Dining ที่ไม่ควรพลาด   > คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. การทานอาหารที่ Top Restaurant in Bangkok มีความแตกต่างอย่างไร? 

สิ่งที่จะได้รับจากการทานอาหารในร้านระดับนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของรสชาติอาหารที่ดี บรรยากาศที่ดี บริการดูแลลูกค้าที่ดี และการตกแต่งที่ดีของร้าน แต่จะรวมไปถึงเรื่องการรักษามาตรฐานทั้งหมดเหล่านี้ไว้ได้อย่างดี โดยไม่มีข้อใดที่ตกหล่นหรือคุณภาพลดลง เพราะฉะนั้นการดูแลจัดการให้ร้านคงมาตรฐานไว้ได้ นับเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีมูลค่าสูง แต่ทางร้าน Royal Osha ยังคงเลือกและมั่นใจในกระบวนการนี้ เพื่อที่มาตรฐานเหล่านี้จะได้สร้างความประทับใจ ความสุข และประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่มาเยือนร้านทุกคนได้ ทั้งนี้ระบบการทำงานของร้านระดับ Top จึงนิยมใช้หลักการ Customer-centricity มาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับลูกค้าทุกท่าน เพราะประสบการณ์ที่ดีที่ลูกค้าแต่ละท่านได้รับ จะพาให้ลูกค้ากลับมารับใช้บริการที่ร้านอีก รวมทั้งได้รับการบอกต่อไปยังเพื่อนของเพื่อนของลูกค้าด้วย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

5. ผลตอบรับจากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ระดับ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ไม่ได้ได้มาเปล่า ๆ เพราะนอกจากส่วนที่ทางร้านมั่นใจ ทั้งคุณภาพอาหารและการบริการแล้ว ผลตอบรับของคุณภาพเหล่านี้ที่ได้กลับมาก็เป็นเสียงเดียวกันว่า รสชาติอาหารดีมากควรค่าแก่การไปกินจริง มีคอมเมนต์ที่หลากหลาย ว่า  ‘Great Thai cuisine. Some of the best food I have ever eaten in Thailand.’  ‘Lovely stylish restaurant with great fusion food & good service.’  ‘Honestly, not much more to say: you come here with high expectations, and they are met in every single bite, sip, and detail. You can be certain you will enjoy your dining experience with all your senses.’  ‘A la carte is good enough in comparison to the 8- or 10- course menu. Good food and service. Reasonable price.’  ‘On our first night in Bangkok, we went to Osha and had the best meal during all our vacations in Asia. From the setting to the courses presentation, including the service, all was fantastic and exciting. It was a great surprise that exceeded our expectations.’  จากรีวิวที่ร้าน Royal Osha ได้รับ มีทั้งความประทับใจและความชื่นชมที่จะนำพาให้ผู้ที่ไม่เคยทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และมาชิมอาหารรสชาติเลอค่าที่ร้านแห่งนี้ ส่วนลูกค้าที่เคยได้ชิมอาหารไทยสูตรนี้แล้ว จะอยากกลับมาทานซ้ำและรับประสบการณ์ดี หรืออาจจะได้ชิมเมนูใหม่ ๆ ที่ทางร้านเพิ่งคิดขึ้นในปีนั้น ๆ ได้ด้วย 

5.1 สรุปรวม 3 เรื่องที่ลูกค้าจะให้การรีวิว และพูดถึงมากที่สุด

  1. รสชาติอาหารทุกเมนูอร่อยและดีเหมือนหน้าตาอาหารที่สวยงาม 
  2. การบริการลูกค้าดีมาก แบบ Out of the World
  3. การตกแต่งภายในร้านสวยงาม ทั้งสถาปัตยกรรมและไฟที่เปิดแสดง
  ด้วยตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ของ Royal Osha ที่ต้องการส่งออกอาหารไทยระดับคุณภาพดีเลิศให้ทั้งโลกได้สัมผัส การเดินทางของอาหารไทยในเส้นทาง Fine Dining นับว่ายังอีกยาวไกล แต่ทางร้านให้การรับรองได้เลยว่ามาตรฐานของร้านจะยังคงเดิม และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อประสบการณ์ทานอาหารที่ดีที่สุดของลูกค้าทุกท่าน    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha  

6. Royal Osha หนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

รสชาติของอาหารที่ Royal Osha มีการรังสรรค์ขึ้นมาให้แสดงถึงเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของอาหารไทยอย่างชัดเจน ด้วยฝีมือของเชฟระดับปรมาจารย์แถวหน้าของเมืองไทย “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ในการปรุงแต่งอาหารไทยมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน โดยเชฟวิชิต มุกุระ เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งเชฟใหญ่ ในวัย 24 ปี และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี จนทำให้ห้องอาหารศาลาริมน้ำที่นี่กลายเป็นห้องอาหารไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของห้องอาหารไทยเลยก็ว่าได้ และในช่วงเวลานั้นเชฟวิชิตก็ได้มีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย แต่ด้วยความที่เชฟวิชิตอายุเพิ่มมากขึ้น ไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ และอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าท้ายมากขึ้น จึงได้ถือกำเนิด Royal Osha ที่เป็นการจับมือกันระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล ที่มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ จึงทำให้เชฟวิชิต มีความตั้งใจว่าอยากจะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ และทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักกันในระดับโลกมากขึ้น และด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่น ส่งผลให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน และเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแพร่หลาย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. เมนูของ Royal Osha ที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากเชฟระดับปรมาจารย์ของ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok สำหรับเมนูอาหารของ Top Restaurant in Bangkok อย่าง Royal Osha นั้นมีความใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพดีเยี่ยม ไปจนถึงการนำเสนอแต่ละเมนูที่มีการรังสรรค์ขึ้นมาจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็นเชฟมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม   นอกจากนั้นทาง Royal Osha ยังมีการรังสรรค์เมนูต่างๆ ภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” ที่มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น เมนูแกงกะทิใบเหลียง ที่มีการนำใบเหลียงมาเป็นส่วนประกอบ และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา และต้านมะเร็ง เมนูเมี่ยงคำบัวหลวง ที่มีการนำกลีบบัวหลวงมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจ หรือเมนูต้มยำต่างๆ ที่มีการนำข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด เป็นส่วนประกอบในการที่ช่วยให้รสชาติของน้ำต้มยำมีความเข้มข้น และยังมีสรรพคุณในการขับลม ช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นต้น รวมถึงทาง Royal Osha ยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูตามฤดูกาล เพราะการรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ฤดูหนาว ก็จะเป็นเมนูแกงกระด้าง หรือส้มตำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพราะฤดูหนาวนั้นจะมีอาการท้องอืดง่าย และไม่เจริญอาหาร ฤดูร้อน ก็จะเป็นเมนูข้าวแช่ ที่มีสรรพคุณในการช่วยดับร้อนในร่างกาย และในฤดูฝน ก็จะเป็นเมนูเบือทอดภูเก็ต หรือแกงปูทะเลใบยี่หร่า ที่มีความเผ็ดร้อน และสามารถช่วยป้องกัน หรือไล่อาการหวัดได้เป็นอย่างดี และด้วยแนวคิดอาหารเป็นยา และการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha จึงทำให้ทุกคนที่แวะเวียนมาลิ้มลองอาหารที่ Royal Osha นั้นจะได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ Royal Osha เลยก็ว่าได้   เมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ ตามฤดูกาลเป็นประจำ และเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้
  • Starter เป็นเมนูอาหารที่มีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง เป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่มีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป และช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า กงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้ทำการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน พร้อมกับดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และกินได้ง่ายมากขึ้น ที่ผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศแบบจัดเต็มทุกคำ
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว มาพร้อมกับซุปที่มีความหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างปากให้ทุกคนพร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่เชฟวิชิตจัดเต็มาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้ลิ้มลองตั้งแต่คำแรกอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานที่จะช่วยปิดท้ายให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบ โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่มีความหอม หวาน และเป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมของชาวไทย มาดัดแปลงเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย จับคู่กับพุดดิ้งนมสดที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีที่มีความหวานอมเปรี้ยว และผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha ถ้าหากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรือเหล่านักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ อยากจะลิ้มลองความอร่อยที่มีการส่งต่อเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอาหารอย่างชัดเจน สามารถจองเข้ามาได้ที่ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่มีสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟวิชิต มุกุระ เชฟระดับปรมาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรุงอาหารไทย ตั้งใจปรุงทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อยแบบไทยแท้อย่างเต็มคำ