Posted on

Chef Table กับ Royal OSHA

Chef Table

Chef Table กับ Royal OSHA

Chef Table

ในปัจจุบัน Chef Table เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษที่กำลังเป็นที่นิยม และเป็นเทรนด์ใหม่ในคอนเซปต์ทานอาหารปรุงสดจากมือเชฟ เมนูโดยเชฟมือฉมังที่จะมาร่ายรำทำอาหารโชว์ฝีมือตามความสร้างสรรค์และเดาใจได้ยาก ซึ่งเชฟของ Chef Table แต่ละท่านก็จะมีเอกลักษณ์ในการคิดและรังสรรค์เมนูมาให้ลูกค้าได้ชิมและได้ร่วมรับประการณ์ดี ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งที่ Royal OSHA เองก็ได้เชิญ Chef Table มือรางวัลมิชลินสตาร์มาร่วมสร้างความสุข ความเพลิดเพลิน และความเอร็ดอร่อยที่โต๊ะอาหารให้กับลูกค้าด้วย

1. ประสบการณ์ที่แตกต่างระหว่าง Chef Table และ Fine Dining

Chef Table

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างการทานอาหาร Chef Table กับ Fine Dining คือ “การเสิร์ฟอาหาร” ทั้งในเรื่องของลำดับการออกอาหารแต่ละเมนูมาให้กับลูกค้าและผู้ที่เสิร์ฟ สำหรับ Fine Dining อย่างที่ทุกคนเข้าใจกันดีว่าอาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟตามลำดับ ตั้งแต่ Starters, Salads, Soups, Main Course และ desserts เพื่อให้ผู้ทานได้ค่อย ๆ รู้สึกเพลิดเพลินและอยากอาหารมากขึ้นตามลำดับการทานจากการเริ่มด้วยจานเบา ๆ เรียกน้ำย่อย ไล่ระดับความเอร็ดอร่อยและเจริญอาหารพร้อม ๆ กัน ไปจนถึงเมนูของหวานเป็นจานปิดท้าย เป็นอันจบคอร์ส การเรียงอันดับเมนูอาหารที่ออกของ Fine Dining จึงแตกต่างกับการออกอาหารของ Chef Table 

ในขณะที่จุดเด่นของ Chef Table จะขึ้นอยู่กับความสดของอาหารที่ลูกค้าได้จดจ้อง ในขณะที่เชฟกำลังโชว์ฝีมือการปรุงอาหารตรงหน้าในครัวเปิด รูป กลิ่น เสียง และสีสันของอาหารที่กำลังถูกปรุงจะเป็นตัวเรียกน้ำย่อย และทำให้ผู้ทานได้รู้สึกถึงการตั้งแต่รอ ในอีกมุมหนึ่งผู้ทานจะได้สัมผัสกับความรู้สึกดี ๆ ที่มี Chef’s Table คอยทำอาหารออกมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ เป็นความรู้สึกที่เสมือนกับว่า เรากำลังนั่งรอคุณพ่อหรือคุณแม่ทำอาหารอย่างพิถีพิถันให้เราทานที่บ้านอย่างมีความสุข 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

ซึ่งการทาน Chef Table นั้นจะยิ่งแตกต่างจาก Fine Dining ออกไปอีก ในส่วนที่ว่า Chef’s Table จะเป็นผู้เลือกเมนูที่จะทำให้กับลูกค้าเอง หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าเมนูตามใจเชฟ 

ความพิเศษในการทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่พรีเมียมเรียบหรูไม่แพ้กันเลย ของ Chef Table และ Fine Dining เป็นเสน่ห์ที่ร้าน Royal OSHA อยากมอบเป็นประสบการณ์ดี ๆ น่าตื่นตาตื่นใจ ให้ลูกค้าได้สัมผัสและเลือกจองคิวเข้ามารับบริการได้ที่ร้าน โดยลูกค้าจะสามารถมาพบและรับประสบการณ์ทานอาหาร Chef Table หรือ เชฟวิชิต มุกุระ ที่จะมาทำอาหาร Chef Table ในคอนเซปต์ `Classic Thai Elegance Reinvented`

2. ทำความรู้จักกับ Chef Table “Chef Vichit Mukura”

เชฟวิชิต มุกุระ ผู้มาเป็น Chef Table และผู้เป็นเจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ ด้วยคอนเซปต์การทำเมนูอาหารไทยฟิวชั่นที่ครบรสชาติ เลิศหรู และมีความเป็นโมเดิร์น จากความเชื่อที่ว่าอาหารไทยที่อร่อยจะต้องมีรสชาติกลมกล่อมโดยรวมรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน และปรุงออกมาให้รสชาติชัดเจนแต่พอดี นอกจากนั้นผักเครื่องเคียง สมุนไพรใบเล็กใบใหญ่ทั้งหลาย ต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เชฟวิชิตนำมาประกอบรวมไว้ในเมนู Chef Table เพื่อให้รสชาติในแต่ละเมนูมีรสชาติอร่อยถึงเครื่อง และพร้อมที่จะส่งมอบอาหารรสเลิศให้กับลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการ Chef Table กับเชฟวิชิตที่ร้านอาหาร Royal OSHA 

ฝีมือการทำอาหารไทยในสูตรพรีเมียมทั้ง Fine Dining และ Chef Table ของเชฟวิชิต ล้วนมาจากประสบการณ์การทำงานในฐานะเชฟร่วม 30 ปี จุดเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพของเชฟวิชิตมีแรงบันดาลใจมาจากการเฝ้ามองคุณแม่ทำอาหารในครัวและการได้เริ่มเป็นผู้ช่วยเชฟคุณแม่ ก่อนจะเข้ามาสู่วงการทำอาหารอย่างเต็มตัวที่หลายโรงแรมและร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งในยุคนั้น เมื่อราว ๆ 40 กว่าปีที่แล้ว ประเทศไทยยังไม่ได้โรงเรียนสอนทำอาหารเฉพาะทางเหมือนในปัจจุบันนี้ 

เชฟวิชิตได้ผ่านการฝึกปรือผ่านงานครัวตั้งแต่งานเล็ก ๆ ดูแลทำความสะอาดจานจนได้ขึ้นตำแหน่งเป็นเชฟใหญ่ (Head Chef) และร้าน Royal OSHA ก็ได้เชิญเชฟวิชิต Chef Table ผู้เปี่ยมด้วยความสามารถและแรงบันดาลใจในการทำอาหารไทยอย่างสวยงาม มาทำเมนู Chef Table ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสและร่วมเก็บความทรงจำและประสบการณ์ดี ๆ กับอาหารไทยสูตรของเชฟวิชิตในคอนเซปต์ `Classic Thai Elegance Reinvented` กันที่ร้าน เมนู Chef Table ที่ลูกค้าจะได้รับจากเชฟจะมีอะไรบ้าง ต้องมาลองด้วยตัวเอง

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

3. เมนูอาหารไทย 3 ฤดู ระดับ High Class แบบ Chef Table ที่ Royal Osha

Chef Table

ทุกเมนูอาหารของ Royal Osha ผ่านการรังสรรค์จากเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็นเชฟมากประสบการณ์ และมีฝีมือระดับปรมาจารย์ ทำให้ทุกขั้นตอนการปรุงนั้นได้รับความใส่ใจ และความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก โดยแต่ละเมนูนั้นก็จะมีเรื่องราว และความละเอียดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ที่เชฟวิชิตได้ตั้งใจทำขึ้นมา เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงองค์ประกอบต่างๆ ของอาหารไทยได้อย่างแท้จริง รวมถึงยังมีการเปลี่ยนเมนู และวัตถุดิบตามแต่ละฤดูกาล เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารได้แบบไม่จำเจ มาพร้อมกับสรรพคุณทางยาที่ทำให้นักชิมได้อิ่มอร่อยไปกับอาหาร และได้ดูแลสุขภาพในเวลาเดียวกัน โดยเมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้

3.1 คิมหันต์ฤดู 

คิมหันต์ฤดู หรือฤดูร้อน เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศของประเทศนั้นจะมีความร้อนมากกว่าปกติ ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table จาก Royal Osha ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมานั้นจะมีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศร้อน เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสกับอาหารไทยได้อย่างเต็มที่ และได้รับการดับร้อนจากอาหารในเวลาเดียวกัน โดยเมนูแนะนำของคิมหันต์ฤดู มีดังนี้

  • ข้าวแช่ตำรับ Royal Osha เป็นเมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อของ Royal Osha ที่เหล่านักชิมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องห้ามพลาดที่จะลิ้มลอง โดยข้าวแช่ตำรับ Royal Osha นั้นจะเป็นข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดที่แช่ข้ามคืน พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียงชั้นเลิศ 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน รวมถึงยังมีผักแกะสลักต่างๆ ให้รับประทานเคียงกันด้วย
  • ยำผักหวานป่ากับสแกลลอปฮอกไกโด เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu ของคิมหันต์ฤดูที่รสชาติจัดจ้าน ด้วยการนำผักหวานมายำกับกะทิ และเครื่องกรอบต่างๆ มาพร้อมกับสแกลลอปฮอกไกโดที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการจี่ และโรยเกลือหิมาลายา ทำให้มีเนื้อหวาน สด นุ่มเด้ง เมื่อรับประทานคู่กันแล้วทำให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อม และลงตัวเป็นอย่างมาก
  • ต้มโคล้งปลากรอบแบบใสกับยำสายบัวพริกหวานและกุ้งสเปน เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu ของคิมหันต์ฤดูเช่นกัน โดยในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยต้มโคล้งปลากรอบแบบใส ที่มาพร้อมกุ้งสเปนที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการจี่ และโรยเกลือหิมาลายา และนำส่วนหัวทอดแบบเทมปุระ เพื่อนำมารับประทานคู่กับยำสายบัวพริกหวานที่มีน้ำยารสชาติเข้มข้น

3.2 วัสสานฤดู

วัสสานฤดู หรือฤดูฝน เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศจะมีฝนตกเป็นประจำ ทำให้มีความร้อนชื้น หรืออบอ้าวเล็กน้อย ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาให้มีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศที่มีความชื้น และมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้นักชิมได้มีสุขภาพที่ดี และได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยที่เชฟวิชิตได้ตั้งใจถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆ โดยเมนูแนะนำของวัสสานฤดู มีดังนี้

  • แกงปูทะเลใบยี่หร่า เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่ใน Set Menu วัสสานฤดู โดยในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยเนื้อปูแบบจัดเต็ม ที่ผ่านการปรุงสุกในแกงเผ็ดเข้มข้นที่มีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงผสมผสานกะทิสดที่มีความมัน มาพร้อมกับใบยี่หร่าภายในแกง และมีใบยี่หร่าทอดกรอบ เมื่อนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็จะช่วยให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อม
  • เนื้อแกะนิวซีแลนด์ย่างผัดฉ่า เป็นเมนูอาหารไทยที่อยู่ใน Set Menu วัสสานฤดูที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อแกะจากประเทศนิวซีแลนด์ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการย่าง ทำให้มีความหอม และนุ่มเหนียวกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซอสผัดฉ่าที่มีความหอม เผ็ด และเข้มข้น ไว้รับประทานคู่กับข้าวผสมงาขี้ม่อน ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  • ต้มข่าล็อบสเตอร์กับหัวปลี เป็นเมนูอาหารไทยที่จัดอยู่ใน Set Menu วัสสานฤดูเช่นกัน โดยมีส่วนประกอบของล็อบสเตอร์ที่นำมาปรุงสุกด้วยการต้มในซุปต้มข่า และใส่หัวปลีที่เป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ทำให้นักชิมได้ลิ้มลองความอร่อยของอาหารไทย มีสุขภาพดี และช่วยล้างปากก่อนจะสัมผัสถึงความอร่อยของเมนูถัดไป

3.3 เหมันต์ฤดู

เหมันต์ฤดู หรือฤดูหนาว เป็นช่วงฤดูที่สภาพอากาศของประเทศนั้นจะมีความหนาวเย็น และมีลมพัดผ่าน ทำให้เมนูอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาให้มีองค์ประกอบที่เหมาะกับการรับประทานในสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็น และมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่สามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารไทยรสชาติดี และมีสุขภาพดีด้วย โดยเมนูแนะนำของเหมันต์ฤดู มีดังนี้

  • แตงโมหอยสังข์กับบีทรูทปลาแห้ง เป็น 1 ในเมนูอาหารไทยจาก Set Menu เหมันต์ฤดู ที่มีการนำแตงโมมาหั่นเป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า ตกแต่งด้านบนด้วยหอยสังข์ด้านบน และโรยเกลือหิมาลายาเล็กน้อย แล้วจึงค่อยนำไปย่าง เพื่อให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด บีทรูท และปลาแห้ง ทำให้มีความจัดจ้านกำลังดี และมีความกลมกล่อมอย่างลงตัว
  • ต้มลูกรอกฟัวกราส์ไก่ฝรั่งเศสหนังไก่กรอบ เป็นเมนูอาหารไทยใน Set Menu ที่มีการตุ๋นไก่ในน้ำใส และผ่านการเคี่ยวเป็นระยะเวลานานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซุปมีความหอมหวานจากธรรมชาติของกระดูกไก่ เสิร์ฟคู่กับลูกรอกที่ผสมกับฟัวกราส์ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการนึ่ง เนื้อไก่ และหนังไก่กรอบ พร้อมกับราดน้ำซุปร้อนๆ เล็กน้อย เพื่อให้อาหารจานนี้มีความกลมกล่อม
  • ล็อบสเตอร์ผัดฉ่ากับแกะย่างจิ้มแจ่วข้าวหอมมะลิแดง เป็นเมนูอาหารไทยใน Set Menu อีกเมนูที่นักชิมต้องห้ามพลาด เพราะเป็นเมนูแบบ Surf & Turf ที่มีการผสมผสานระหว่างอาหารทะเล และเนื้อไว้ในจานเดียวกัน โดยมีล็อบสเตอร์ที่มาพร้อมกับซอสผัดฉ่า ทำให้มีรสชาติเข้มข้น ตัดด้วยเนื้อแกะย่างที่มีความสุกระดับ Medium Rare ที่มีรสชาติจัดจ้านแบบน้ำจิ้มแจ่ว เมื่อรับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิแดง ก็จะได้รสชาติที่มีความอร่อย และมีความจัดจ้านกำลังดี

 

ทั้งนี้ เมนูที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียง 1 ในเมนูของ Set Menu ในแต่ละฤดู อาจมีการปรับเปลี่ยน หรือมีเมนูที่เปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดตามได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

4. เมนูขนมหวาน Chef Table จาก Royal Osha ที่ช่วยปิดมื้ออาหารสุดพิเศษให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

นอกจากเมนูอาหารไทยที่เป็นเมนูอาหารคาวแล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังมีเมนูขนมหวาน Chef Table ให้นักชิมได้เลือกลิ้มลองกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยปิดมื้ออาหารสุดพิเศษให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเมนูขนมหวาน Chef Table จาก Royal Osha ที่เป็นที่นิยม และเป็นเมนูแนะนำ มีดังนี้
  • ขนมโค เป็นเมนูขนมหวานที่เหล่านักชิมที่แวะเวียนมาที่ Royal Osha ติดใจกันเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อขนมที่มีความนุ่มเหนียวกำลังดี น้ำกะทิหวานมัน หอมควันเทียน เมื่อโรยงาลงไปก็จะยิ่งทำให้มีกลิ่นที่หอมกรุ่น และมีความกลมกล่อมมากขึ้น
  • แครมบรูว์เลมะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนมหวานที่มีการผสมผสานระหว่างแครมบรูว์เลที่มีความหอมหวานของคัสตาร์ด และคาราเมลที่ผ่านการเผาไหม้จนทำให้กรอบ เข้ากันกับมะพร้าวอ่อน ที่จะมีความหอมหวานกำลังดี เมื่อนำมาผสมผสานก็จะได้รสชาติที่มีความหอม หวาน และมันที่ลงตัวเป็นอย่างมาก
  • พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทยและเบอร์รี เป็นเมนูขนมหวานที่มีการผสมผสานระหว่างพุดดิ้งนมสดที่มีความหอม หวาน และมัน เข้ากันกับไอศกรีมชาไทยที่มีความหอมชาเป็นเอกลักษณ์ ตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีชนิดต่างๆ ที่มีรสชาติเปรี้ยวกำลังดี ทำให้เป็นเมนูขนมหวานที่ช่วยปิดท้ายเมนูอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ เมนูขนมหวานที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียง 1 ในเมนูของ Set Menu ในแต่ละฤดู อาจมีการปรับเปลี่ยน หรือมีเมนูที่เปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือติดตามได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

5. สัมผัสเสน่ห์ของอาหารไทย Chef Table ที่รังสรรค์จากเชฟมากฝีมือภายใต้บรรยากาศสุดหรูของห้องอาหาร Royal Osha

Chef Table

สำหรับการรับประทานอาหารไทย Chef Table ที่ Royal Osha นั้นนอกจากจะได้สัมผัสถึงความครบเครื่อง ครบรส และครบองค์ประกอบของอาหารไทย ที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมืออย่างเชฟวิชิต มุกุรแล้ว ภายในร้านอาหารของ Royal Osha นั้นยังมีการตกแต่งภายในที่มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศ และมนต์เสน่ห์ของพระราชวังสมัยโบราณ ที่มีความเรียบหรูจากสถาปัตยกรรมที่ใช้โทนสีเข้มตัดกับสีทอง และแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด พร้อมกับผสมผสานกับวรรณคดีอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” ในบริเวณตั้งแต่ประตูทางเข้า ผนังลอย และฝาผนังภายในร้าน มีโคมแชนเดอเลยีร์รูปชฎาขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยอัญมณีส่องประกายระยิบระยับที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha รวมถึงมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และของประดับต่างๆ ที่จะทำให้นักชิมรู้สึกเหมือนกับกำลังเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม และพระราชวัง พร้อมกับรับประทานอาหารไทยที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างพิถีพิถัน ช่วยสร้างความประทับใจให้กับมื้ออาหารสุดพิเศษได้มากกว่าที่เคย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รีวิว Chef Table ที่ Royal Osha จากนักชิม Wongnai เสียงจริงตัวจริง

การรับประทานอาหาร Chef Table หรือ Thai Fine Dining ของทาง Royal Osha นั้นไม่ได้เพียงแค่ได้รับรางวัลการันตีต่างๆ เช่น Michelin Guide, Thai Select Premium, Thailand Tatler Best Restaurants หรือ User’s Choice Wongnai อย่างมากมายเท่านั้น แต่ยังได้รับรีวิวจากนักชิมจากเว็บไซต์ Wongnai ที่เคยเข้ามารับประทานอาหาร และเข้ารับบริการที่ Royal Osha แบบตัวจริงเสียงจริง ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องกลับมาสัมผัสอาหารไทยที่นี่อีกครั้งให้ได้ โดยรีวิวิว Chef Table ที่ Royal Osha จากนักชิม Wongnai มีดังนี้

Chaneehiw, January 2023

“ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine dining ระดับมิชลินร้าน Royal Osha คราวนี้เลือกเป็นแบบ Chef’s table โดยมีเชฟวิชิต มุกุระ มาปรุงให้เราเองเลย เปิดประสบการณ์การทานอาหารไทยแบบล้ำมากๆ เป็นแบบ 5 course เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทุกจานคือเชฟปรุงมาอย่างปราณีตในทุกรายละเอียด สวยและอร่อยละมุนทุกจาน ประทับใจมากๆ ส่วนร้านก็บรรยากาศดีเรียบหรู ควรคู่แก่การมาเดทมากค่ะ”

Milkkpp, October 2019

“presentation ดี เทสดี บริการดี ดีทุกอย่างไปหมด ทานแบบคอร์ส ทุกจานมีเรื่องราว มีที่มาที่ไปของวัตถุดิบ และการปรุงที่ so thai แต่ไม่จัดจ้านมาก ชอบการนำเสนอในทุกๆจานที่มาเสิร์ฟมากๆ อร่อยกว่าที่คาดหวังทุกเมนู ทั้งเมนูคาวและหวาน และได้รับการบริการที่ดี สมกับที่ร้านได้รับรางวัลมากมาย”

Yee FullandFun, July 2019

“Royal Osha ร้านอาหารไทย fine dining ที่เป็นที่รู้จักดีในหมู่คนต่างชาติ เมนูอาหารและการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ contemporary ร่วมสมัย บรรยากาศร้านสวยมาก ดูหรูแต่มีความ casual อยู่ในที งานบริการและการพรีเซนต์อาหารแต่ละจานชนะเลิศ สวยงามมีศิลปะ ดูแล้วตื่นตาตื่นใจในทุกคอร์สที่เสริฟเลย และกุญแจหลักสำคัญ คือ รสชาติอาหารที่อร่อยครบรสและมีความเป็นไทยอยู่ครบถ้วน กับวัตถุดิบอาหารคัดสรรที่ดีเยี่ยม เป็นมื้อที่ประทับใจมาก และเป็นดีล Wongnai Bangkok restaurant week ที่คุ้มค่าสุดๆ อยากบอกต่อจริงๆ”

Miscellaneous Me, September 2016

“ร้านนี้ถือว่าเป็นอีกร้านที่เปิดประสบการณ์ในการชิมอาหารไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ ทุกจานเลือกใช้วัตถุดิบ และจัดองค์ประกอบสวยงาม และนำเสนออย่างน่าสนใจ ตื่นตาตื่นใจ ประทับใจมากๆเพราะในแต่ละเมนูเราเห็นถึงความคิด การวางแผน ความสร้างสรรค์ นำเสนอภูมิปัญญาด้านอาหารไทยดั้งเดิมกับศาสตร์ และศิลป์สมัยใหม่ molecular gastronomy ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญและขาดไม่ได้คือบรรยากาศดี และการบริการที่ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ เป็นมืออาชีพไม่มีพร่องค่ะ”

Jeab Ja, February 2016

”ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่แฝงไปด้วยความหรูหราอย่างมีระดับ ได้ยินชื่อเสียงของร้าน Royal Osha จากพี่ๆน้องๆในวงในมาพอสมควร อีกทั้งมีรางวัลการันตีความอร่อยอีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือรางวัล Wongnai Best of 2016 ยิ่งทำให้อยากมาลิ้มลองดูสักครั้ง ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่ได้มาลิ้มลองอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นแบบนี้มากค่ะ ที่นอกจากจะครีเอทเมนูอาหารให้ออกมาสวยงามและรสชาติดีแล้วยังสามารถนำเสนอความเป็นไทยแฝงออกมาได้ทั้งในอาหารและสถานที่อีกด้วยค่ะ ส่วนการบริการก็ไม่เป็นรองค่ะเรียกได้ว่าเป็นบริการแบบมีระดับประทับใจ”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้ารางวัลการันตีของ Royal Osha

7. รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ด้วย Chef Table ที่ Royal Osha

Chef Table

สำหรับเมนูอาหารไทยของ Chef Table นั้นผ่านการรังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศที่มีการเลือกใช้วัตถุดิบทั้งของประเทศไทย และจากต่างประเทศ ที่นำมาผ่านกรรมวิธีในการปรุงที่มีความพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติ และองค์ประกอบต่างๆ ที่มีความครบเครื่อง ครบรส และแสดงถึงเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ภาพรวมของอาหารไทย Chef Table ของ Royal Osha นั้นมีรสชาติ และรายละเอียดต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้นักชิมที่อยากจะลิ้มลองอาหารไทยแบบ Exclusive มากขึ้น สามารถลิ้มลองได้ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมถึงยังมีราคาสบายกระเป๋า สามารถรองรับแขกคนสำคัญ และเหมาะสำหรับการมานั่งรับประทานได้ในทุกโอกาส ทำให้ Royal Osha นั้นเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมจากนักชิมทุกสัญชาติ ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสกับอาหารไทยพรีเมียมที่ Royal Osha สามารถติดต่อสอบถาม หรือทำการสำรองที่นั่ง ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

    • Line Official : @royalosha
    • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
    • Facebook : Royal Osha Bangkok
    • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on Leave a comment

ความสง่างามของอาหารไทยใน Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

ความสง่างามของอาหารไทยใน Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

รสชาติอาหารไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงอาหารทั่วโลกว่ามีความครบรส กลมกล่อม ทำให้ชาวต่างชาติติดใจ หลายเมนูและวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารของไทยเป็นที่นิยมมาก และได้รับการจดจำอยู่ใน Bucket List ที่ต้องชิมให้ได้ หรือต้องตามมาชิมที่ประเทศไทยอันเป็นต้นกำเนิด หนึ่งในร้านอาหารที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษผ่านเมนูอาหารไทยในรูปแบบ Fine Dining ก็คือ Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA

Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA คือการรวมวัตถุดิบชั้นเลิศจากทุกประเภทของอาหารไทย มาปรุงแต่งรสชาติในสไตล์ฟิวชั่น โดยที่รสชาติดั้งเดิมของเมนูนั้นยังคงความครบรส หวาน เค็ม เปรี้ยว เผ็ด กลมกล่อมถึงรสแบบอาหารไทย รวมกับการจัดประดับตกแต่งอันสวยงามเรียบหรูในแบบไทย ๆ เพราะฉะนั้นการทานอาหารที่ร้าน Royal OSHA จึงเป็นประสบการณ์การทาน Thai Fine Dining ที่คุณจะได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไปกับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างประทับใจ 


สำหรับร้าน Royal OSHA นอกเหนือจากเรื่องความพิเศษในเรื่องของรสชาติอาหารและความสวยงามของอาหาร Thai Fine Dining แล้ว ยังมีอีกหลายคุณค่าน่ามองน่าสนใจ ที่ทำให้ร้านแห่งนี้เป็น Thai Fine Dining ที่ควรค่าแก่การมาเยือน

1. เมนู Thai Fine Dining กับรสชาติที่ไม่สามารถหาทานที่ไหนได้

Thai Fine Dining

Royal OSHA ได้รวมเหล่าเชฟผู้มากความสามารถ ที่สร้างสรรค์เมนู Thai Fine Dining ออกมาได้อย่างอร่อยครบรสและน่าตื่นตาตื่นใจ วัตถุดิบพรีเมียมของไทยเท่านั้นที่จะถูกคัดเลือกนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของเมนู ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เครื่องเทศ และเครื่องปรุงต่าง ๆ ทุกขั้นทุกตอนการปรุงอาหารผ่านการคิด ทดลองซ้ำ ปรับปรุงให้ดีที่สุด จนปรุงออกมาเป็นแต่ละเมนูที่สมบูรณ์แบบพร้อมเสิร์ฟ 

 

การทำอาหาร Thai Fine Dining ต้องใช้ความพิถีพิถันและความเชี่ยวชาญของเชฟเพื่อประดิษฐ์คิดค้นเมนูไทยฟิวชั่น จนเป็นเมนูอาหาร Thai Fine Dining ของร้าน Royal OSHA ตั้งแต่เครื่องเคียงประกอบอาหารถ้วยเล็ก ๆ อาทิ น้ำจิ้มของคอร์สเมนู Starters น้ำจิ้มแต่ละถ้วยผ่านการบรรจงตกแต่งรสชาติเก็บรายละเอียดมาอย่างดี เพื่อส่งมอบรสชาติอาหารที่เพอร์เฟกต์และสวยงามให้กับลูกค้า 

 

ด้วยรายละเอียดในรสชาติอาหารที่ไม่ซ้ำใคร และมิติใหม่ในการปรุงแต่งอาหารแบบฟิวชั่นของ Thai Fine Dining ที่ร้าน Royal OSHA ประสบการณ์การลิ้มรสที่ร้านอาหาร Thai Fine Dining แห่งนี้ จึงเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและหาได้ยาก หากใครที่ต้องการสัมผัสกับรสชาติอาหารสุดกลมกล่อมสไตล์นี้ เตรียมสำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อมาชิมอาหารเมนู Thai Fine Dining ได้เลย  

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. วัฒนธรรมไทยและการให้บริการลูกค้าแบบ Thai Fine Dining 

จุดเด่นของการทานอาหาร Thai Fine Dining ที่ร้าน Royal OSHA เรื่องที่สองก็คือ ความสวยงามของบรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งออกมาด้วยกลิ่นอายความเป็นไทย ความเรียบหรูสง่างาม ความอ่อนน้อมนุ่มนวล เพื่อเตรียมพร้อมรองรับให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด บรรยากาศสวยหรูของร้านยังไม่รวมถึงบริการตั้งแต่การต้อนรับทักทายของพนักงาน ไปจนถึงการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีตลอดทั้งคอร์ส ในรูปแบบวัฒนธรรมและมารยาทอันสวยงามนอบน้อมของคนไทย ซึ่งหลอมรวมเข้ากับสไตล์ Thai Fine Dining ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเครื่องแต่งกายไทยประยุกต์ที่ดูสง่างาม เข้ากับความเป็น Thai Fine Dining ได้อย่างลงตัว 

บรรยากาศที่ลูกค้าจะได้รับในระหว่างที่ทานอาหาร Thai Fine Dining และช่วงเวลาดี ๆ ที่ร้าน เป็นความสวยงามในแบบไทยที่ถูกคิดและออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้เก็บความทรงจำดี ๆ ที่ร้าน Royal OSHA ไปเป็นที่ระลึก เพราะทางร้านต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อมาเยือน

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. รวมวัตถุดิบอาหารทุกภาคทั่วไทยไว้ใน Thai Fine Dining ที่เดียว

Thai Fine Dining

Royal OSHA นำเสนออาหาร Thai Fine Dining ที่รวมวัตถุดิบจากทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วัตถุดิบและเมนูเลื่องชื่อจากภาคเหนือจรดภาคใต้ และได้มีการนำเมนูของแต่ละภาคมาเป็นส่วนประกอบในการคิดค้นเมนูไทยฟิวชั่นอันเลิศรสด้วย เป็นประสบการณ์การทานอาหารที่รวมรสชาติจากทั่วทั้งประเทศไทยมารวมไว้ในร้านอาหาร Thai Fine Dining ร้านเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ในระหว่างที่ฤดูกาลเปลี่ยนผ่าน หากลูกค้าได้มาทานอาหาร Thai Fine Dining ในช่วงที่แตกต่างกันออกไปของปีนั้น ลูกค้าจะได้ชิมเมนูจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของไทยอีกด้วย ซึ่งทางร้าน Royal OSHA ให้ความใส่ใจในเรื่องนี้และได้นำแต่ละเมนูมาปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างประสบการณ์ Thai Fine Dining ที่ไม่เหมือนใคร  

แรงบันดาลใจในการดึงวัตถุดิบจากแต่ละภูมิภาคมาเป็นส่วนประกอบใน Thai Fine Dining เป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจ ที่อาหารไทยได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การทานอาหารรูปแบบใหม่ ๆ และยังได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ 

 

Royal OSHA ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าในวัตถุดิบอาหารไทยและความสง่างามที่วัฒนธรรมไทยที่ได้มอบความประทับใจไว้ในระดับสากล จึงได้นำทุกรสชาติมาสร้างสรรค์รวมเป็นประสบการณ์ดี ๆ อยู่ในร้านอาหาร Thai Fine Dining แห่งนี้

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

4. เมนู Thai Fine Dining ที่ผ่านการปรุงแต่งด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากเชฟมากประสบการณ์ระดับปรมาจารย์

สำหรับเมนู Thai Fine Dining ของ Royal Osha เป็นเมนูอาหารไทยที่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน มีความสดใหม่ และสะอาด เพื่อนำมาผ่านการปรุงแต่ง และรังสรรค์จากเชฟมากประสบการณ์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha เป็น 1 ในเชฟระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีความเชี่ยวชาญ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ในการปรุงแต่งอาหารไทยมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน การันตีด้วยความสามารถในการดำรงตำแหน่งเชฟใหญ่แห่งห้องอาหารไทยศาลาริมน้ำ ที่เป็นห้องอาหารไทยชื่อดังระดับประเทศของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน มานานถึง 27 ปี และยังเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย นอกจากนั้นเชฟวิชิต มุกุระ มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” และต้องการรังสรรค์เมนูอาหารไทยภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” เพื่อให้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ของอาหารไทยได้อย่างครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ และครบรสมากที่สุด จึงทำให้เกิดเมนู Thai Fine Dining ต่างๆ ที่ได้รับความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยต่างๆ และส่งต่อไปยังนักชิมให้ได้สัมผัสถึงความเป็นอาหารไทยแท้ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเมนู เช่น

  • ทองม้วนต้มยำกุ้งคาเวียร์ เป็นเมนูที่นำขนมไทยดั้งเดิมอย่างทองม้วนมาทำการสอดไส้ด้วยไส้กุ้ง และมูสต้มยำที่มีขนาดพอดีคำ มาพร้อมกับซอสมะม่วง คาเวียร์ มะกรูดกรอบ และประดับประดาด้วยดอกไม้สวยงาม ทำให้เมนูนี้มีความครบรสของอาหารไทย ที่มีกลิ่นอายของต้มนำ และความหอมของสมุนไพร
  • ยำสมุนไพรตะไคร้มะแขว่นส้มโอกับขาปูทาราบะ เป็นเมนูที่เครื่องเทศจากภาคเหนืออย่างมะแขว่น ที่มีความหอมฉุน และมีรสเผ็ดเล็กน้อน มาผสมผสานเข้ากันกับยำสมุนไพรไทยนานาชนิด เช่น ตะไคร้ หอมแดง ต้นหอม ผักชีใบเลื่อย และผักแพรว ตัดรสด้วยสมโอ พร้อมเสิร์ฟคู่กับปูทาราบะย่างจากประเทศญี่ปุ่น
  • แกงเหลืองปลาฮิราเมะ ยอดมะพร้าวอ่อนและก้านทูน กับขนมจีน เป็นเมนูที่มีการนำก้านทูน พืชผักสมุนไพรที่จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับบอน มาหั่นบางๆ และนำไปทำให้สุกในแกงเหลือง เพื่อให้ได้ก้านทูนรสชาติที่มีความหอมหวานกลมกล่อม และมีสัมผัสที่เหนียวนุ่ม เสิร์ฟพร้อมขนมจีน ของดองสำหรับแนม และปลาฮิราเมะจากประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านกรรมวิธีในการปรุงสุกที่ช่วยให้เนื้อปลามีความหอมมากขึ้น

โดยเมนูที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงเมนูที่อยู่ในคอร์ส Thai Fine Dining ของทาง Royal Osha เท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลากหลายเมนูให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันทั้งแบบ Fine Dining และแบบ A La Carte ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะลิ้มลองอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ และอัดแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างเต็มที่ สามารถแวะมาสัมผัสได้ที่ Royal Osha

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหารของ Royal Osha

5. รีวิว Royal Osha จากนักชิม Local Guide ที่แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining

Thai Fine Dining

ถ้าหากนักชิมคนไหนกำลังสนใจอยากจะแวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining แต่ยังไม่เคยรับประทานมาก่อน หรือกำลังลังเลว่าจะเหมาะกับสไตล์การรับประทานอาหารของตัวเองหรือไม่ ดังนั้น การได้อ่าน หรือได้ฟังรีวิวจากนักชิม Local Guide ที่ได้แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining และได้รับการบริการจริงจากทาง Royal Osha เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยให้นักชิมสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยรีวิวจากนักชิม Local Guide ที่ได้แวะมาสัมผัสกับอาหารไทยของ Royal Osha แบบตัวจริงเสียงจริง มีดังนี้

Kris, January 2024

“รสชาติอาหารอร่อยมากๆ ครับ เชฟยังคงรักษารสชาติความเป็นอาหารไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน ถึงแม้จะปรับหน้าตา presentation อาหารไปบ้าง แต่รสชาติไทยยังคงอยู่เต็ม 100 Very good experience and enjoyable meal krub!”

Chess Pisit, January 2024

“เชฟวิชิตมาทำให้เลย มาปรุง มาประดับทุกๆ เมนู คือสุดยอดมากๆ กว่าจะได้มาซึ่งแต่ละเมนูคือการต้องคิด ต้องทดลอง ต้องทำซ้ำๆ ไม่รู้กี่ครั้ง นับถือความพยายามมากๆ และรวมถึงเทคนิคการทำ การดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมา การผสมรวมกันของรสชาติที่จะคงโดดเด่นออกมาในทุกๆ มิติ ไม่ได้มีอะไรมาตีกัน รสชาติเด่นของวัตถุดิบแต่ละอย่างจะค่อยๆไล่ๆกันออกมาให้เราได้สัมผัส มันคือสุดยอดประสบการณ์ของการทานอาหารที่สุดในชีวิตครับ”

GL, December 2023

“Excellent service & ambiance. Vegetarian food was good as well but the mango sticky rice dessert was exceptional! They prepared a special dessert platter for our very special celebration. Do order a cocktail – it arrives on a unique, insta worthy platter. Would highly recommend adding this place to your restaurant list when in Bangkok.”

Kanutsanan Thadee, August 2023

“เป็นร้านอาหารที่ดีมากๆ สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับร้านนี้ก็คือการบริการ พนักงานทุกคนได้รับการอบรมและบริการอย่างดี มีการอธิบายและให้คำแนะนำกับลูกค้าถึงเมนูต่างๆ ว่าควรรับประทานอะไรก่อนหลัง ซึ่งมันจะช่วยให้รสชาติของอาหารนั้นชูรสชูโรง ส่วนของเมนูอาหารที่นี่ดิฉันยกให้ “ข้าวแช่” เป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าเราจะได้ทานเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนมาลองมาสัมผัสมาใช้ลิ้นเพื่อรับรถชาติความอร่อยของข้าวแช่ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมาก”

Nok Thanakit, May 2023

“ประทับใจบรรยากาศการบริการ ส่วนอาหารค่อนข้างพิถีพิถันและสร้างสรรค์ออกมาอย่างสวยงามรสชาติอร่อย และชาวต่างชาติสามารถทานได้”

Napharat Tangkitthaworn, 2020

“Authentic Thai food. This is original taste but present in a modern way. Every dish is designed with a right combination and all dishes come with stories. Staffs are awesome here. Best service. Price is quite high for local but worth it.  รสชาติอาหารไทยแท้จริงๆ อร่อยมาก เลือก combination ของวัตถุดิบได้ดี ทุกอย่างที่ใส่มามีเหตุผลของมันว่าใส่มาทำไม คิดมาดี ดีไซน์รสชาติมากลมกล่อม ราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่า พนักงานบริการดีมากๆ ประทับใจ แม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำก็มีน้ำยาบ้วนปากและไหมขัดฟันเตรียมไว้ให้ เผื่อว่าเราต้องไปที่ไหนต่อ ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ”

Numage, 2019

“Great tasting food with great presentation, I have to say it exceeded my expectations. There for an 8 course set menu “The Delight Thai Twist ” when there was a 4 for 3 promotion. The restaurant was decorated in a mix of modern and traditional Thai style and is very elegant. The Staff were friendly and took their time to explain the delicacy of each dish as well as giving us a second floor tour. A recommended place for people who love fine dining.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

6. รางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น 1 ใน Thai Fine Dining ระดับ TOP ของประเทศ

นอกจากรีวิวของ Royal Osha ที่ได้รับจากนักชิม Local Guide ตัวจริงที่แวะมาลิ้มลองอาหาร Thai Fine Dining แล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังได้รับรางวัลต่างๆ ที่เป็นเครื่องการันตีว่าเราเป็น 1 ใน Thai Fine Dining ระดับ TOP ของประเทศไทย ที่ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติควรแวะมาลิ้มลองให้ได้สักครั้ง เพื่อสัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ของอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรส และครบทุกองค์ประกอบของความเป็นไทย โดยรางวัลที่ Royal Osha ได้รับ มีดังนี้

  • รางวัลการันตี Michelin Guide เป็นรางวัลที่ Royal Osha ได้รับในปี 2024, 2023, 2022, 2021, 2020 และ 2019 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย รวมถึงเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Thai Fine Dining ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ถึง 6 ปีซ้อน
  • รางวัลการันตี User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2021, 2020, 2018, 2017 และ 2016 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น และรางวัลนี้จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ถึง 5 ครั้ง
  • รางวัลการันตี Thai Select Premium เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2022 และปี 2019 และเป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม โดยรางวัลนี้จะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป รวมถึงจะต้องเป็นร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลนี้ ซึ่งทาง Royal Osha ได้รับรางวัลนี้ 2 ปี และการันตีว่าเป็นอีก 1 Thai Fine Dining ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัลการันตี Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2020, 2018 และ 2017 และเป็นที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และ Royal Osha ก็เป็น 1 ใน Thai Fine Dining ที่สามารถส่งต่อเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้นจนได้รับรางวัลนี้มากถึง 3 ปี
  • รางวัลการันตี HELLO! Taste Award เป็นรางวัลที่ได้รับในปี 2022 และเป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่มีความพรีเมียมในทุกๆ ด้านจนสามารถครองใจเหล่านักชิมได้ และเป็นการการันตีว่า Royal Osha เป็น Thai Fine Dining อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าชมรางวัลการันตีของ Royal Osha

7. เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่ Royal Osha ในใจกลางเมืองแห่งกรุงเทพฯ

Thai fine dining

Royal Osha เป็นร้านอาหาร Thai Fine Dining ที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่ถือว่าเป็นที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่ให้ลเคียงกับสถานที่สำคัญอย่างสถานฑูต แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา โรงพยาบาล บริษัทเอกชน และแหล่งธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย ทำให้สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แต่การที่ Royal Osha นั้นได้รับความนิยมไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสถานที่ตั้งเท่านั้น แต่ด้วยความที่ Royal Osha มีเมนูอาหารไทยให้เลือกอย่างหลากหลาย มีให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันทั้งแบบ Set Menu ที่ทางเชฟจะจัดมาให้เป็นเซ็ท และมีการรังสรรค์มาแล้วว่าทุกเมนูที่อยู่ในเซ็ทนั้นผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว แบบ Full Course เป็นคอร์สอาหารที่ทางเชฟจะจัดมาให้นักชิมแบบจัดเต็ม เพื่อให้นักชิมได้รับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Starter, Main Course หรือ Dessert ก็มีรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความพิถีพิถัน เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้อย่างเต็มที่ และยังมีแบบ A La Carete ที่จะเป็นเมนูอาหารจานเดี่ยว ที่นักชิมสามารถเลือกได้ว่าอยากรับประทานเมนูไหนบ้าง เหมาะกับนักชิมที่อยากชิมเฉพาะบางเมนู ไม่รับประทานส่วนประกอบบางอย่าง หรือชอบรับประทานอาหารแบบจานเดี่ยว ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะมีจำนวนอาหาร และเมนูที่มีการออกแบบมาให้แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารของนักชิมมากที่สุด รวมถึงอาหาร Thai Fine Dining ของ Royal Osha นั้นยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ และวัตถุดิบในประเทศมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้องค์ประกอบ และรสชาติของอาหารนั้นสามารถตอบโจทย์การรับประทานอาหารของนักชิมได้หลากหลายสัญชาติ และหลากหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้ที่แวะเวียนมาชิมอาหาร Thai Fine Dining ที่ Royal Osha นั้นมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่อยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร Thai Fine Dining ที่มีความแตกต่าง และความพรีเมียมในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

 

ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังมองหาร้านอาหาร Thai Fine Dining เพื่อคุยธุรกิจ หรือเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้ง่าย และอาหารมีความหลากหลาย ที่สามารถตอบโจทย์สไตล์การรับประทานอาหารได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่มาพร้อมกับบริการด้วยความใส่ใจที่ทำให้นักชิมได้ประทับใจในทุกนาทีที่ได้นั่งรับประทานอาหาร สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha และสามารถสำรองที่นั่งได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ Royal Osha หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-256-6551

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

Posted on Leave a comment

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

Fine Dining Bangkok

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Fine Dining Bangkok กับรสชาติสมบูรณ์แบบ อิ่มอร่อยแบบเติมเต็มทุกสัมผัสที่ Royal Osha

 

เมื่อ Royal Osha ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบอาหารไทย ได้เข้าถึงรสชาติอาหารไทยชั้นเลิศได้ที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและการเดินทางที่สะดวกสบาย นักท่องเที่ยวก็สามารถแวะเวียนนัดหมายสำรองที่นั่งเพื่อมาทานอาหารที่ร้านได้ไม่ยาก มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าที่มาเยือนทุกท่านจะได้รับประสบการณ์การบริการที่ดีที่สุด และได้อิ่มอร่อยอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง รูป รส กลิ่น และผิวสัมผัสของอาหาร

1. Fine Dining Bangkok กับร้าน Royal Osha

Fine Dining Bangkok

 

Royal Osha หนึ่งในร้านอาหารสุดเลิศหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหาร Fine Dining แบบ Set Menu ฟูลคอร์ส และแบบ a la carte ให้กับคุณวันละสองรอบ คือมื้อกลางวันและเย็น ไม่ว่าจะเป็นมื้อแห่งการพักผ่อน นัดเดท นัดธุรกิจ หรือนัดสำคัญไหน ๆ ร้าน Royal Osha ก็พร้อมต้อนรับและไม่ทำให้คุณ ต้องผิดหวัง เพียงแค่สำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อให้ทางร้านได้จัดเตรียมความพร้อม เพื่อบริการให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อลูกค้าได้มาเยือน ร้านตั้งอยู่ที่ต้นซอยร่วมฤดี อยู่ในพื้นที่ใจกลางย่านเพลินจิต-วิทยุ ซึ่งเป็นแหล่งร่วมธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของสถานทูตของหลายประเทศ บริษัทเอกชน โรงแรม โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นย่านที่วิลิศมาหราไปด้วยสีสันและไลฟ์สไตล์ และที่สำคัญย่านนี้เป็นย่านใจกลางความสะดวกสบาย ที่มีทั้งความปลอดภัยสูง จากสถานที่ราชการที่อยู่ในบริเวณ และแน่นอนว่าย่านนี้จะมีค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วย และ Royal Osha ก็ได้ตั้งอยู่ในย่านกลางเมือง ที่จัดว่าเป็นทำเลทองมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

2. การรวมตัวของอาหารทุกภูมิภาคในหนึ่งมื้อ Fine Dining Bangkok

เมนูอาหารที่คัดสรรแล้ว, วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารจากทั่วทุกภูมิภาคถูกส่งมาอยู่ในห้องครัวกลางของ Royal Osha เพื่อปรุงรสออกมาเป็นแต่ละเมนูอาหาร Fine Dining ที่ครบเครื่องครบรส และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างใน Set Menu ฟูลคอร์สของทางร้าน ชุด Ramayana Set 

  1. จะเป็นคอร์สเมนูที่มาจากเมนูใหม่ ๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนเมนูให้หลากหลายตามฤดูกาลและตามวัตถุดิบ ซึ่งเมนูจะถูกออกแบบ ปรุงรส และใช้ส่วนผสมตามเมนูอาหารของภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย 
  2. มีคอนเซปต์ของคอร์สที่ให้ลูกค้าได้เลือกทานเมนูนั้น ๆ โดยปรุงในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการย่าง นึ่ง ทอด อบ ตุ๋น และการยำอาหารสุดคลาสสิกไทยสไตล์ 
  3. ไฮไลท์ของการเลือกทานคอร์ส Ramanaya จึงเป็นความหลากหลายในรสชาติอาหารจากทุกภาคตั้งแต่เริ่มคอร์สด้วย Starter เมนู ไปจนถึงของหวาน
  4. เสน่ห์ของการทานคอร์สเมนูในเซ็ตนี้ มีสีสันการประดับตกแต่งเมนูอาหารแต่ละจานที่สวยงามพิถีพิถัน และยังมีเครื่องดื่มสูตรที่เสิร์ฟคู่กันกับคอร์สด้วย

 

การวางลำดับคอร์สและรสชาติที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสในคอร์สนี้จึงยิ่งเลอค่า แต่ถ้าเกิดลูกค้าต้องการเข้ามาทานอาหารในมื้อเล็ก ๆ เป็น a la carte ก็สามารถเลือกและอิ่มอร่อยกับเมนูของแต่ละภาคได้แบบจานต่อจาน

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

3. วิถีการทานอาหาร Fine Dining ที่ออกแบบเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด

Fine Dining Bangkok

Fine Dining Bangkok ของร้าน Royal Osha นับเป็นประสบการณ์ทานอาหารล้ำค่าที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน ด้วยอารยธรรมการทานอาหารไทยที่ถูกวิวัฒน์ให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน โดยยึดแบบโครงสร้างอาหารแบบ Fine Dining มีรายละเอียดที่น่าสนใจและน่าชื่นชมในฝีมือการปรุงรสอาหารไทยของเชฟ ที่คิดออกแบบรสชาติอาหารไทยออกมาให้อยู่ในปริมาณที่พอดีคำแต่ได้รสชาติเต็ม ๆ อย่างการจัดเมนูคอร์ส Starter ที่มาในปริมาณอาหารที่มากเกินไปไม่ได้ ต้องมาในขนาดที่พอดีคำ พอให้ผู้บริโภคได้กระตุ้นความอยากอาหารไล่ลำดับไปเรื่อย ๆ เพื่อลิ้มรสอาหารในคอร์สถัดไป และความเลิศรสและใส่ใจในรายละเอียดเชิงสร้างสรรค์แบบนี้เอง ที่ทำให้ทางร้าน Royal Osha ได้รับการยอมรับว่าเป็นร้านอาหาร Fine Dining ของไทยที่จัดเป็นร้านเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ และหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับ Michelin Guide เป็นร้านที่หลายท่านมั่นใจที่จะแนะนำให้กับเพื่อน ครอบครับ และใครที่ต้องการทานอาหารมื้อพิเศษในบรรยากาศความเป็นไทย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

4. Royal Osha ออกแบบอาหารไทยแบบวีแกน เพื่อผู้บริโภคทุกคน 

อาหารไทยเป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าไม่แพ้ชาติใดในโลก และในปัจจุบันยังได้มีหลากหลายเมนูอาหารยอดนิยมที่ติดตลาดสากล และอีกหลายเมนูที่ได้การยอมรับและยกย่องให้เป็นอาหารที่มีรสชาติดีที่สุดของโลก มีชาวต่างชาติมากมายให้ความสนใจกับอาหารไทยที่ครบรสครบเครื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มผู้บริโภคชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งที่มีอาการแพ้อาหาร ซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำคัญสำหรับอาหารไทย เช่น น้ำมันหอย ถั่วลิสง หรือเป็นชาววีแกน ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ แถมยังมีแยกย่อยลงไปอีกสำหรับวีแกนระดับเคร่งมาก ไปจนถึงวีแกนเคร่งน้อย หรือเป็นมังสวิรัติ และแน่นอนว่าที่ร้าน Royal Osha ได้ออกแบบเมนูอาหารมาเพื่อความต้องการของผู้บริโภคทุกประเภท มีเมนูวีแกนที่ไม่มีส่วนผสมหรือซอสปรุงที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ และยังให้รสชาติที่เลิศหรูตามสไตล์ของร้านอาหาร Fine Dining ได้อย่างครบถ้วน และถ้าหากลูกค้าต้องการรีเควสเพิ่มเติมเรื่องขอลดรสเผ็ดของเมนูไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถแจ้งกับพนักงานได้เลย ทางร้านพร้อมปรับและปรุงเมนูที่ดีที่สุดให้กับแขกของร้านทุกท่าน 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหาร ของ Royal Osha

 

5. Fine Dining Bangkok เปิดประสบการณ์ทานอาหารที่ล้ำค่า คุณค่าที่คุณคู่ควร

Fine Dining Bangkok

การทานอาหารสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ของร้าน Royal Osha เพราะในระหว่างที่ผู้คนกำลังคึกคัก ทั้งเร่งรีบเดินทาง และกำลังเข้ามาท่องเที่ยวในตัวเมือง ซึ่งต้องแย่งชิงที่นั่งหรือต่อคิวเพื่อเข้าไปทานอาหารหรือเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่ด้วยระบบการจองล่วงหน้าก่อนเข้าไปรับบริการของทางร้าน ขั้นตอนการต่อคิวที่หน้าร้านจึงหมดไป และเมื่อลูกค้าได้ย่างก้าวเข้ามาในร้านแล้ว บรรยากาศในร้านของ Royal Osha จะเปลี่ยนภาพความวุ่นวาย ให้เป็นความรู้สึกสงบ พร้อมกับบรรยากาศการพักผ่อนทานอาหารที่อบอวลไปด้วยความหรูหรา ลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และในระหว่างการเสิร์ฟแต่ละเมนู พนักงานจะให้การอธิบายว่าเมนูที่ลูกค้าได้รับมีความเป็นมาและการปรุงอย่างไรแบบสั้นกระชับ และยังมีการทักทายจากเชฟของทางร้านจากห้องครัวด้วยเป็นช่วง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศการทานอาหารที่อบอุ่นล้ำค่านี้มาจากความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทางร้าน ตั้งแต่ลูกค้าได้เดินเข้าไปในร้าน ไปจนถึงจบคอร์ส ซึ่งที่ตั้งของร้านก็เหมาะสมและสามารถเดินทางได้ง่าย พร้อมทั้งมีที่จอดรถให้ที่ร้าน

 

มื้ออาหารสุดพิเศษกับ Fine Dining Bangkok ในแบบของร้าน Royal Osha จึงเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและควรค่าต่อการมาเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นวาระโอกาสไหน ๆ ทางร้านก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความพิเศษให้กับมื้อนั้นของคุณ สำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อเข้ามารับบริการที่ร้าน Royal Osha ได้เลย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

 

6. Fine Dining Bangkok พิถีพิถันทุกขั้นตอนการปรุงจากเชฟแถวหน้าของไทยที่รังสรรค์เมนูของ Royal Osha

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะได้รับการปรุงทุกขั้นตอนที่มีความพิถีพิถัน และรังสรรค์ด้วยความใส่ใจจากเชฟมือทองระดับปรมาจารย์แถวหน้าของประเทศไทย นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงแต่งอาหารไทยให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยในทุกสัมผัสมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของเชฟวิชิต มุกุระ ที่ทำงานในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี ในตำแหน่งเชฟใหญ่ และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเพียงเท่านั้น และยังเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย และด้วยความเชี่ยวชาญ และความมากฝีมือของเชฟวิชิต จึงทำให้ห้องอาหารไทยศาลาริมน้ำนั้นเป็นห้องอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นห้องอาหารไทยในระดับแถวหน้า ที่ผู้ที่ชื่นชอบ หรืออยากจะลิ้มลองอาหารไทยพรีเมียมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจะต้องแวะเวียนกันมาให้ได้สักครั้ง และถึงแม้ว่าเชฟวิชิตนั้นถือว่าเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จในด้านสายอาชีพของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนา และมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่มีความ้ท้าทาย นั่นก็คือ การทำอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระดับโลก เพราะเชฟวิชิตมีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ และอยากจะรังสรรค์อาหารออกมาภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้เกิด Fine Dining Bangkok อย่าง Royal Osha ขึ้นมา ที่เป็นการจับมือระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล เพื่อส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย การปรุงแต่งอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสาน และให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

 

โดยเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีความใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพ ไปจนถึงการปรุงอาหาร และการนำเสนอแต่ละเมนูที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้ทำการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต การกิน และอยู่อาศัยของชาวไทยลงไปในอาหาร และมีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ในอาหารทุกคำอย่างเต็มเปี่ยม ตามแนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” ของเชฟวิชิตนั่นเอง และนอกจากนั้นทาง Royal Osha ก็ยังนำแนวคิดที่ว่า “อาหารเป็นยา” มาปรับใช้ในการรังสรรค์เมนูต่างๆ อีกด้วย เพราะว่าชาวไทยนั้นมีความสามารถในการใช้พืช ผัก สมุนไพรเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งทาง Royal Osha นั้นก็ยังมีการปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร และเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และยังเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น และยังมีให้เลือกทั้งแบบ A La Carte และ Set Menu ที่ประกอบไปด้วย Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert ที่มีการสร้างสรรค์ทุกเมนูขึ้นมาให้ทุกคนได้รับประทานมื้ออาหารไทยที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

 

7. รางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด

Fine Dining Bangkok

“Royal Osha” เป็น Fine Dining Bangkok ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์ด้วยความใส่ใจ และการปรุงด้วยความพิถีพิถันจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ทำให้ทุกเมนูของ Royal Osha นั้นมีรูปร่างหน้าตา รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่สามารถส่งต่อความเป็นเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างเต็มเปี่ยมทุกคำ และสามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่านักชิมทั้งชาว และชาวต่างชาติได้อย่างไม่รู้ลืม จนทำให้อาหารไทยจาก Royal Osha นั้นเป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และทำให้ Royal Osha เป็นหนึ่งใน Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลอื่นๆ ที่การันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และรางวัลที่คัดเลือกจากเหล่านักวิจารณ์อาหารที่มีประสบการณ์ในการรับประทานจริง เป็นต้น โดยรางวัลของ Royal Osha ที่การันตีว่าเป็น Fine Dining Bangkok ที่นักชิมห้ามพลาด มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Fine Dining Bangkok
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น และจะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป รวมถึงจะต้องเป็นร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้นถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Fine Dining Bangkok ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่ได้รับรางวัล HELLO! Taste Awards
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และ Royal Osha ก็เป็น Fine Dining Bangkok ที่สามารถส่งต่อเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจนได้รับรางวัล Thailand Tatler Best Restaurants

 

คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย นักชิม หรือนักวิจารณ์อาหารทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ต้องการอยากจะลิ้มลองรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารไทยที่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ และผ่านกรรมวิธีในการปรุง และสร้างสรรค์ที่มีความพิถีพิถัน จนสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลองได้ทุกคำที่สัมผัส ต้องแวะมาที่ Royal Osha ที่เป็น Fine Dining Bangkok ที่รังสรรค์ทุกเมนูด้วยความใส่ใจ เติมเต็มวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยใส่ลงไปในอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และรูปร่างหน้าตาของอาหารไทยอย่างแท้จริง

Posted on Leave a comment

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

Bangkok best restaurant

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

 

Bangkok best restaurant ในสไตล์ Thai Fine Dining

มีร้านอาหารมากมายในกรุงเทพมหานคร แต่ร้านไหนจะเป็นร้านอาหารไทย และเป็นร้านอาหาร Fine Dining ที่ได้การยอมรับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติมากหน้าหลายตาที่เดินทางมาแวะเวียนที่กรุงเทพฯ ก็จะร่วมเป็นผู้ตัดสินในเรื่องคุณภาพอาหารที่ดีที่สุดนี้กัน และแน่นอนว่าร้าน Royal Osha จะถูกนับเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพด้านไหน Royal Osha ก็มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และประสบการณ์สุดพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากการเข้ามาทานอาหารที่ร้าน แต่การจะเข้าไปอยู่ในหมวดร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ก็มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และมีคู่แข่งหลากหลายสัญชาติที่จะมาแข่งกับอาหารไทยเช่นกัน  

1. Bangkok best restaurant กับการแข่งขันที่สูงเกินบรรยาย

Bangkok best restaurant

ในกรุงเทพมหานครมีอาหารเยอะมาก ซึ่งเยอะในที่นี้ไม่ได้เยอะแค่เพียงจำนวน แต่เยอะในเรื่องของความหลากหลายของประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัญชาติต่าง ๆ อาหาร Fine Dining, อาหารฟาสต์ฟู้ด, อาหารโฮมเมด และ อาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกทานกันตามความชอบและความถนัดของแต่ละคน แต่สุดท้ายแล้วอาหารที่คนไทยซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ นิยมทานกันมากที่สุดก็คืออาหารไทย เพราะด้วยรสชาติอาหารที่คุ้นเคย และความครบเครื่อง ทั้งรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม เป็นอาหารประเภทที่คนไทยกินได้เรื่อย ๆ หากเทียบกับอาหารสัญชาติอื่น ซึ่งการแข่งขันในส่วนนี้ก็มีหลายตลาดที่ยังต้องแข่งขันกันใน market section ของตัวเองต่อไป อย่างตลาดอาหารตามสั่งที่ราคาถูกลงมาหน่อยเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่คุณภาพรองลงมา แต่สำหรับอาหารพรีเมียมที่วัตถุดิบมีราคาแพง ค่าอาหารจึงมีราคาสูงตาม

และทางร้าน Royal Osha ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม แบบ Thai Fine Dining ที่มีการแข่งขันที่สูง แตกต่างจากการแข่งขันของอาหารตลาดอื่น เพราะอาหาร Thai Fine Dining เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับการมาทานในวาระโอกาส นัดสำคัญต่าง ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้บริโภคจะไม่ได้มาทานอาหารที่ร้านทุกวัน ด้วยรสชาติและการบริการที่ดีเยี่ยม ระบบการสำรองที่นั่งก่อนเข้ามารับบริการ และราคาค่าใช้จ่ายของอาหารที่สูง ซึ่งมาจากมาความพิถีพิถันในการเตรียมอาหารและการดำเนินการทุกอย่าง และยังมาจากคุณภาพอาหารที่ผ่านการยอมรับ และได้รับรางวัล Michelin Guide 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. สิ่งที่ต้องมีหากจะเป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant 

ด้วยการแข่งขันที่สูง สิ่งที่ร้านอาหารจะต้องมีและทำให้ได้ เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมีหลายข้อหลายปัจจัยที่จะใช้ในการพิจารณา เพราะว่าตัวเลือกที่ผู้บริโภคสามารถเลือก และเปลี่ยนไปทานมีเยอะมาก และยิ่งเข้าถึงได้ง่ายขึ้นไปอีก ด้วยระบบขนส่งดิลิเวอรี่ทั้งหลาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การทานอาหารให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดคือการทานอาหารตอนปรุงเสร็จใหม่ ๆ ร้อน ๆ แปลว่าร้านอาหารนั้นจะต้องมีหน้าร้านมีที่นั่งให้ลูกค้าได้ใช้เวลาทานอาหารสด ๆ ร้อน ๆ ในร้านได้ และในขณะเดียวกันปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องมีสำหรับร้านอาหารที่ดีที่สุด คือ 

  • คุณภาพอาหารที่ดี
  • รสชาติอาหารดี
  • ทำเลที่ตั้งดี 
  • เดินทางไปได้สะดวก 
  • ราคาอาหารคุ้มค่ากับรสชาติ 
  • ประสบการณ์การทานอาหารที่ดี 

 

และทุกข้อที่กล่าวมาร้าน Royal Osha มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ นอกจากนั้นทางร้านยังสามารถคงมาตรฐานอันดีของคุณภาพของทุก ๆ ข้อไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ มีแต่คุณภาพจะยิ่งสูงขึ้น ด้วยการปรับปรุงสูตรและเมนูใหม่ ๆ ที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความชอบของลูกค้า 

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

3. ร้านอาหาร Fine Dining ที่ถูกจัดเป็น Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

Fine Dining มีที่มาจากร้านอาหารระดับพรีเมียมสัญชาติฝรั่งเศสที่พร้อมเสิร์ฟคอร์สเมนูอันหรูหรา สไตล์ฝรั่งเศสแบบสเต๊ก สลัด และเมนูตามสไตล์เดิม ซึ่งตลาด Fine Dining นับเป็นตลาดที่กว้างมากพอสมควร ในขณะที่มีราคาสูง แต่ในปัจจุบันที่ทั่วโลกเชื่อมต่อกันได้และมีการฟิวชั่นเกิดขึ้นในทุกวงการ สูตรอาหาร Fine Dining ก็ไม่จำเป็นต้องตายตัวและจำกัดอยู่ในกรอบเดิม ๆ จึงได้เกิดการฟิวชั่นอาหารไทยเข้าไปใน Fine Dining ที่ได้การยอมรับในระดับสากล ด้วยรสชาติที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นของวัตถุดิบอาหารไทย การใช้ผัก สมุนไพร ผลไม้ไทย และเครื่องปรุง เครื่องเทศสด ๆ ของไทย ก็มีบทบาทสำคัญในการชูรสชาติต่าง ๆ มากขึ้น จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับรสชาติอาหารไทยอยู่แล้ว อาหาร Thai Fine Dining จะยิ่งเผยรายละเอียดในรสชาติอาหารไทยที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กลิ่นสมุนไพรและรสเครื่องเทศในอาหาร Fine Dining จะชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่ออาหารไทยสไตล์ Fine Dining ได้บุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการแข่งขันของร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อาหารไทยระดับคุณภาพ ที่รสชาติไม่ซ้ำใคร และระบบการดูแลลูกค้าที่เข้มงวดเพื่อมอบประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุด จึงตอบโจทย์ทุกข้อของ Bangkok best restaurant

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining กับหนึ่งใน Bangkok best restaurant

หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง Royal Osha ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองในย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี ทำเล ณ กลางกรุงที่สามารถเดินทางไปถึงได้ไม่ยาก ด้วยรถสาธารณะหรือขับรถไปจอดที่ร้านก็ได้ ระบบการเข้ารับบริการของทางร้าน ต้องผ่านการจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น เพราะว่าทางร้านต้องเตรียมต้อนรับลูกค้าให้ดีที่สุด ครบที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่หน้าประตู จนลูกค้าเดินทางกลับ กระบวนการจองอาจจะดูเหมือนมีพิธีรีตองแต่เป็นระบบที่ Fine Dining ทั่วโลกนิยมใช้ เพื่อการให้บริการที่ดีและน่าประทับใจกับลูกค้า

 

วัตถุดิบในการสร้างสรรค์แต่ละเมนูของทางร้าน ถูกส่งตรงมาจากผลผลิตในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ทั้งผัก ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องปรุงอื่น ๆ จะเข้ามายังครัวกลางที่กรุงเทพมหานครเพื่อปรุงรสชาติตามสูตรอาหารไทย Fine Dining ด้วยรสชาติที่เข้มข้นสมเป็นอาหารไทยนี้ Royal Osha ได้เป็นสื่อกลางในการส่งมอบรสอาหารไทยที่ดีเลิศให้กับผู้บริโภค จากรสชาติอาหารไทยภาคหนึ่งให้กับคนอีกภาคหนึ่ง และส่งต่อรสชาติอาหารไทย และเมนูที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก อย่างเช่น Meuang Kham Bua Lhuang, Lemongrass And Blue River Prawn Salad, Khao Chae: Rice in chilled jasmine water with assorted condiments, Southern Style Rice and Fresh Herbs Salad with Fried Fish และเมนูของหวาน อย่าง Khanom Kho (Sweet Coconut Dumplings) เป็นต้น 

 

ใครที่สนใจเข้ามารับบริการกับ Bangkok best restaurant และเก็บประสบการณ์การทานอาหารมื้อพิเศษสุดเพอร์เฟกต์จากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่เป็นหนึ่งในร้านอาหารคุณภาพดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ที่ Royal Osha สามารถจองคิวเข้ามาที่ร้านได้เลย ร้านเปิดให้บริการมื้อกลางวันและมื้อเย็นเป็นหลัก

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

5. Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่รังสรรค์เมนูด้วยเชฟมากประสบการณ์

Bangkok Best Restaurant

ทุกเมนูอาหารของ Royal Osha เป็นเมนูที่ผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ นั่นก็คือ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีประสบการณ์ในด้านการทำอาหารมานานกว่า 40 ปี และประสบความสำเร็จในด้านอาหารจนหลายๆ คนเรียกว่าเป็นเชฟระดับปรมาจารย์ โดยเชฟวิชิต มุกุระ นั้นกว่าจะเป็นระดับปรมาจารย์ได้ ก็เคยผ่านการเป็นลูกมือช่วยงานในครัวของคุณแม่มาก่อน และได้ก็ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบในการทำอาหาร จึงมีจุดมุ่งหมายที่เป็นเชฟในระดับแนวหน้าของเมืองไทยให้ได้ ซึ่งเชฟวิชิตก็ได้เริ่มต้นจากการทำงานเป็นเชฟใหญ่ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” ที่เชฟวิชิตได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารไทยนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี และได้ตำแหน่งเชฟใหญ่ที่ต้องคุมทีมที่มีจำนวนสมาชิกมากถึง 32 คน ในวัย 24 ปีเท่านั้น รวมถึงยังได้มีการมีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหาร และช่วยยกระดับแวดวงร้านอาหารของเมืองไทยได้อย่างมากมาย และหลังจากทำงานเป็นเชฟใหญ่ได้ 27 ปี ก็ได้ลาออกไปช่วยดูแลธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้กลับมาทำงานเป็นเชฟในสายโรงแรมเช่นเดิม และยังเคยไปสอนทำอาหารที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่เมื่อถึงในช่วงอายุหนึ่ง เชฟวิชิตก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ อีกต่อไป และมองหาสิ่งท้าทายใหม่ๆ จนได้มาจับมือสร้างร้านอาหารไทย Fine Dining อย่าง Royal Osha กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล โดยเชฟวิชิต มุกุระ มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีความสามารถในเรื่องการใช้สมุนไรพมาปรุงอาหารอีกด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ” จึงเป็นความตั้งใจที่เชฟวิชิตมีต่อร้าน Royal Osha และความต้องการที่จะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน และด้วยความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของเชฟวิชิต ที่มาพร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 40 ปี จึงทำให้เชฟวิชิตได้พา Royal Osha สู่การเป็นร้านอาหาร Fine Dining เป็น Bangkok best Restaurant และได้รับรางวัล Michelin Guide มาถึง 6 ปีซ้อน

 

ดังนั้น นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทยที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ สามารถแวะมาชิมได้ที่ Royal Osha ที่มีเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และเสน่ห์ของอาหารไทย ที่ผ่านการปรุงในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยยกระดับอาหารไทย และช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยในมุมมองใหม่ๆ ให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อทำความรู้จักกับเชฟวิชิต มุกุระ แห่ง Royal Osha

6. รางวัลการันตี Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Bangkok best restaurant

“Royal Osha” เป็นร้านอาหาร Thai Fine Dining ที่ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์จากเชฟที่มีฝีมือ และมากประสบการณ์ ทำให้รูปร่าง รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของอาหารนั้นสามารถส่งต่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทยได้อย่างชัดเจน และเป็นการยกระดับอาหารไทยให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเสน่ห์ เพื่อให้อาหารไทยนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากยิ่ง จนทำให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหาร Bangkok best Restaurant ที่ได้รับรางวัลการันตีอย่างมากมาย เช่น Michelin Guide 6 ปีซ้อน หรือรางวัลการันตีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และเป็นรางวัลที่เป็นยอมรับของเหล่านักวิจารณ์อาหาร โดยรางวัลการันตีที่ Royal Osha ได้รับ มีดังนี้

  • รางวัลการันตีปี 2024 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2023 : Michelin Guide
  • รางวัลการันตีปี 2022 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2021 : Michelin Guide และ User’s Choice Wongnai
  • รางวัลการันตีปี 2020 : Michelin Guide, User’s Choice Wongnai, HELLO! Taste Awards และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2019 : Michelin Guide และ Thai Select Premium
  • รางวัลการันตีปี 2018 : User’s Choice Wongnai และ Thailand Tatler Best Restaurants
  • รางวัลการันตีปี 2017 : Wongnai, Thailand Tatler Best Restaurants และ Winner Bangkok’s Best Restaurant Awards
  • รางวัลการันตีปี 2016 : Wongnai

 

โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้

  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

7. เมนู Royal Osha ที่ขึ้นชื่อของ Bangkok best restaurant

Bangkok best restaurants

สำหรับเมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน โดยจะมีให้เลือกรับประทานทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ เป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ที่จะช่วยยกระดับ และเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่ขึ้นชื่อสมกับ Bangkok best Restaurant นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้

  • Starter เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่จะช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยเมนู Stater นั้นจะมีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้จะมีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และเตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ เมนูกงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้นำความสามารถในการดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และมาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นเลิศต่างๆ แบบจัดเต็ม
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่จะช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างคอให้ทุกคนก่อนจะเจอกับเมนูอาหารจานหลัก โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีซุปหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยล้างปากให้พร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่ทุกคนรอคอย โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาตที่ได้รับประทานเมนูนี้จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานปิดท้ายที่จะช่วยให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่เป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของชาวไทย และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มานำเสนอเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย เพิ่มความหอมมันด้วยพุดดิ้งนมสด และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รี ที่นำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ช่วยปิดมื้ออาหารของทุกคนที่สร้างความประทับใจได้แบบไม่รู้ลืม

 

> คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha

สำหรับนักชิม หรือผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถแวะมาลิ้มลองอาหารไทยที่มีกลิ่นอาย และเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจนได้ที่ Royal Osha หนึ่งใน Bangkok best Restaurant เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ และพรีเมียม ผ่านการปรุงด้วยเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็นเชฟมากฝีมือระดับปรมาจารย์ ที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้ที่ได้ลิ้มลองอาหารไทยที่ Royal Osha ทุกเมนู

Posted on Leave a comment

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน  

Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok

จากร้านอาหาร Chain ของ OSHA Thai Restaurant & Bar ที่โด่งดังในสหรัฐอเมริกา Royal Osha ได้นำโครงสร้างการทำอาหาร Fine Dining จากวัตถุดิบอาหารไทย ร่วมกับการใช้ Molecular Gastronomy จนกลายมาเป็นอาหาร Thai Fine Dining เลิศรสที่คงรสชาติความเป็นอาหารไทยไว้เต็มร้อย และได้รับรางวัลและการยอมรับมากมายมาจนถึงปัจจุบัน ร้าน Royal Osha ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ควรค่าแก่ไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ณ ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร   

1. Top Restaurant in Bangkok ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในกรุงเทพฯ แหล่งรวมเศรษฐกิจของประเทศ

Top Restaurant in Bangkok

หมายความว่าร้าน Royal Osha ได้การยอมรับว่าเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟคุณภาพอันเพียบพร้อมในทุกด้านให้แก่ลูกค้าทุก ๆ ท่าน ทั้งคุณภาพการบริการที่ดียอดเยี่ยม รสชาติอาหารที่ดีเลิศ และปรุงจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุดจากภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมาตรฐานการดูแลลูกค้าของร้านที่จัดอยู่ในระดับต้น ๆ จะมีระบบการทำงานและการจัดการในร้านที่เป๊ะและต้องเพอร์เฟกต์ทุกระเบียดนิ้ว นอกจากนั้น ทำเลที่ตั้งของร้านยังอยู่ในโซนใจกลางเมือง ที่มีสามารถเดินทางเข้าไปได้ง่าย ๆ    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

2. Royal Osha กับอันดับร้านอาหาร Top Restaurant in Bangkok

ร้าน Royal Osha ได้รับรางวัล Michelin Guide เป็นร้านอาหารที่ได้รับการชื่นชมในเรื่องของรสชาติอาหารเลอค่า ที่มาพร้อม ๆ กัน ทั้งรูป รส กลิ่น บรรยากาศที่ลงตัว ตั้งแต่เปิดร้านมา Royal Osha ได้สั่งสมชื่อเสียงและคงคุณภาพมาตรฐานอันดีไว้ ทางร้านจึงได้รับรางวัลมากมายทั้งในฐานะร้านอาหารที่ดีเยี่ยม แต่ยังรวมไปถึงรางวัลที่ผู้บริโภคเลือกโหวตให้คะแนนนิยมสูงมาตลอดจนถึงปีนี้ นอกจากนั้นทางร้าน Royal Osha ยังถูกจัดเป็นร้านอาหารที่สนับสนุนผลผลิตจากชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย จากการนำผลผลิตชั้นเลิศของชาวไทยมาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นการสนับสนุนผลผลิตของชาวไทยทุกภูมิภาค เป็นอีกหนึ่งความน่าภูมิใจที่วัตถุดิบอาหารไทย และเมนูอาหารไทยตามพื้นภาคได้ถูกนำมาออกแบบในเมนูอาหารและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล

2.1 รางวัลที่ร้านได้รับมาตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปัจจุบัน

  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2014 Editor’s Choice โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Bangkok’s Top 20 Best Restaurants โดย Thailand Restaurant News Magazine
  • Bangkok’s Best Restaurant Award 2015 ถึง 2018 โดย Best Dining & Entertainment Magazine
  • Top Tables Bangkok 2015 ถึง 2016 โดย BK Magazine for Best Restaurants between 2015-2016
  • USER’S CHOICE WONGNAI IN THAI RESTAURANT CATEGORY 2016 ถึง 2019 สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2016 to 2019 by Wongnai
  • THAILAND TATLER BEST RESTAURANT AWARD 2019 โดย Tatler magazine
  • LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2022 IN THAI RESTAURANT CATEGORY สำหรับ Thai Restaurants with Best Reviews from 2022 by Wongnai
  • Honors Award 2022 จาก Top 25 Restaurants Bangkok
  • Thai Select Premium ปี 2019 และปี 2022 จากกระทรวงพาณิชย์
  • Michelin Guide 6 ปีซ้อน ปี 2019 ถึง 2024 จาก Michelin
  • HELLO! Taste Awards ปี 2020 จาก นิตยสาร HELLO!
  โดยรางวัลการันตีแต่ละรางวัลนั้นเป็นรางวัลที่มีความหมายที่สามารถบ่งบอกถึงร้านอาหารได้ ดังนี้
  • รางวัล Michelin Guide เป็นรางวัลที่มีการคัดเลือกจากคุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการปรุงอาหาร, รสชาติอาหาร, ความคิดสร้างสรรค์ และความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ Royal Osha ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 6 ปีซ้อน และเป็นรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารของ Bangkok best reataurant
  • รางวัล User’s Choice Wongnai และรางวัล Wongnai เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในด้านอาหารของคนไทยได้เป็นอย่างดี และมีการคัดเลือกจากรีวิวของผู้ที่เคยรับประทาน และมีประสบการณ์จริงเท่านั้น.
  • รางวัล Thai Select Premium เป็นรางวัลที่จะได้รับเฉพาะร้านอาหารที่จำหน่ายเฉพาะอาหารไทยแท้เท่านั้น รวมถึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม มีการตกแต่งสวยงาม และมีบริการดีเยี่ยม และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป ถึงจะได้รับรางวัลนี้ และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น Bangkok best restaurant ที่มีความเป็นไทยแท้อย่างแน่นอน
  • รางวัล HELLO! Taste Awards เป็นรางวัลที่เฟ้นหาร้านอาหารในดวงใจของเหล่านักชิม และเซเลบริตี้ของนิตยสาร HELLO! ที่สะท้อนถึงคุณภาพ รสชาติ และหน้าตาของอาหารที่สามารถครองใจเหล่านักชิม และการันตีถึงชื่อเสียงของร้านอาหารที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย
  • รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants เป็นรางวัลที่ได้รับจากหนังสือ Thailand Tatler Best Restaurants ที่ได้รวบรวมร้านอาหารชั้นเลิศ และรสชาติยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ หรือนักท่องเที่ยว ที่มีต่อร้านอาหารไทยได้เป็นอย่างดี
  • รางวัล Bangkok Best Restaurant Award เป็นรางวัลที่ได้รับจาก Best Dining & Entertainment Magazine ที่มีการคัดเลือกจากร้านอาหารที่มีคุณภาพ รสชาติ และบริการดีเยี่ยมจากประสบการณ์ของผู้ที่แวะเวียนไปรับประทานจริง
  • รางวัล Top Tables Bangkok เป็นรางวัลที่ได้รับจาก BK Magazine for Best Restaurants ที่มีการคัดเลือกจากการโหวตของเหล่านักชิม และบล็อคเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านอาหาร เป็นการการันตีถึงเรื่องคุณภาพ รสชาติ และบริการของร้านอาหารที่ดีเยี่ยม
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูรางวัลการันตีของ Royal Osha

3. อันดับร้านอาหารเบอร์ต้นของประเทศ จากผลงานการออกแบบเมนูของมิชลินเชฟ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Thailand ด้วยประสบการณ์การทำงานในฐานะเชฟของโรงแรมและภัตตาคารอาหารชื่อดัง เชฟวิชิต มุกุระ ผู้ได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดาวมาเป็น Executive Chef หรือเชฟผู้ควบคุมครัวกลาง และการออกแบบเมนูอาหารชั้นเลิศเพื่อสื่อสารความเป็นอาหารไทยในสไตล์ Fine Dining ที่มีทั้งความละเอียดอ่อนของรสชาติอาหารที่ครบเครื่องจาก เครื่องปรุง และวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทย Royal Osha จึงสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในเมนูอาหารสุดทันสมัยที่มีกลิ่นอายของโครงสร้างอาหารแบบฝรั่งเศส ในขณะที่วัตถุดิบอาหารทั้งหมดนั้นมาจากอาหารไทยดั้งเดิม รสชาติความแปลกใหม่ที่ไม่ทิ้งความเป็นอาหารไทย จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดสำหรับชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทย และคนไทยที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทยในรูปแบบใหม่ ๆ และยิ่งเป็นเมนูอาหารที่ได้รับการออกแบบรสชาติมาจากเชฟระดับมิชลินแล้ว ร้าน Royal Osha ยิ่งเป็นอาหารไทย Fine Dining ที่ไม่ควรพลาด   > คลิก ที่นี่ เพื่อดูประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

4. การทานอาหารที่ Top Restaurant in Bangkok มีความแตกต่างอย่างไร? 

สิ่งที่จะได้รับจากการทานอาหารในร้านระดับนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของรสชาติอาหารที่ดี บรรยากาศที่ดี บริการดูแลลูกค้าที่ดี และการตกแต่งที่ดีของร้าน แต่จะรวมไปถึงเรื่องการรักษามาตรฐานทั้งหมดเหล่านี้ไว้ได้อย่างดี โดยไม่มีข้อใดที่ตกหล่นหรือคุณภาพลดลง เพราะฉะนั้นการดูแลจัดการให้ร้านคงมาตรฐานไว้ได้ นับเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีมูลค่าสูง แต่ทางร้าน Royal Osha ยังคงเลือกและมั่นใจในกระบวนการนี้ เพื่อที่มาตรฐานเหล่านี้จะได้สร้างความประทับใจ ความสุข และประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่มาเยือนร้านทุกคนได้ ทั้งนี้ระบบการทำงานของร้านระดับ Top จึงนิยมใช้หลักการ Customer-centricity มาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับลูกค้าทุกท่าน เพราะประสบการณ์ที่ดีที่ลูกค้าแต่ละท่านได้รับ จะพาให้ลูกค้ากลับมารับใช้บริการที่ร้านอีก รวมทั้งได้รับการบอกต่อไปยังเพื่อนของเพื่อนของลูกค้าด้วย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

5. ผลตอบรับจากร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ระดับ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok Royal Osha กับตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ไม่ได้ได้มาเปล่า ๆ เพราะนอกจากส่วนที่ทางร้านมั่นใจ ทั้งคุณภาพอาหารและการบริการแล้ว ผลตอบรับของคุณภาพเหล่านี้ที่ได้กลับมาก็เป็นเสียงเดียวกันว่า รสชาติอาหารดีมากควรค่าแก่การไปกินจริง มีคอมเมนต์ที่หลากหลาย ว่า  ‘Great Thai cuisine. Some of the best food I have ever eaten in Thailand.’  ‘Lovely stylish restaurant with great fusion food & good service.’  ‘Honestly, not much more to say: you come here with high expectations, and they are met in every single bite, sip, and detail. You can be certain you will enjoy your dining experience with all your senses.’  ‘A la carte is good enough in comparison to the 8- or 10- course menu. Good food and service. Reasonable price.’  ‘On our first night in Bangkok, we went to Osha and had the best meal during all our vacations in Asia. From the setting to the courses presentation, including the service, all was fantastic and exciting. It was a great surprise that exceeded our expectations.’  จากรีวิวที่ร้าน Royal Osha ได้รับ มีทั้งความประทับใจและความชื่นชมที่จะนำพาให้ผู้ที่ไม่เคยทานอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ให้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และมาชิมอาหารรสชาติเลอค่าที่ร้านแห่งนี้ ส่วนลูกค้าที่เคยได้ชิมอาหารไทยสูตรนี้แล้ว จะอยากกลับมาทานซ้ำและรับประสบการณ์ดี หรืออาจจะได้ชิมเมนูใหม่ ๆ ที่ทางร้านเพิ่งคิดขึ้นในปีนั้น ๆ ได้ด้วย 

5.1 สรุปรวม 3 เรื่องที่ลูกค้าจะให้การรีวิว และพูดถึงมากที่สุด

  1. รสชาติอาหารทุกเมนูอร่อยและดีเหมือนหน้าตาอาหารที่สวยงาม 
  2. การบริการลูกค้าดีมาก แบบ Out of the World
  3. การตกแต่งภายในร้านสวยงาม ทั้งสถาปัตยกรรมและไฟที่เปิดแสดง
  ด้วยตำแหน่ง Top Restaurant in Bangkok ของ Royal Osha ที่ต้องการส่งออกอาหารไทยระดับคุณภาพดีเลิศให้ทั้งโลกได้สัมผัส การเดินทางของอาหารไทยในเส้นทาง Fine Dining นับว่ายังอีกยาวไกล แต่ทางร้านให้การรับรองได้เลยว่ามาตรฐานของร้านจะยังคงเดิม และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อประสบการณ์ทานอาหารที่ดีที่สุดของลูกค้าทุกท่าน    > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha  

6. Royal Osha หนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่ถูกปากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

รสชาติของอาหารที่ Royal Osha มีการรังสรรค์ขึ้นมาให้แสดงถึงเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของอาหารไทยอย่างชัดเจน ด้วยฝีมือของเชฟระดับปรมาจารย์แถวหน้าของเมืองไทย “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef ของ Royal Osha ที่มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ในการปรุงแต่งอาหารไทยมามากมายหลายจานจนนับไม่ถ้วน โดยเชฟวิชิต มุกุระ เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งเชฟใหญ่ ในวัย 24 ปี และต้องคุมทีมที่มีสมาชิกมากถึง 32 คน ในห้องอาหารไทยที่มีชื่อว่า “ศาลาริมน้ำ” แห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล แมนดาริน เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี จนทำให้ห้องอาหารศาลาริมน้ำที่นี่กลายเป็นห้องอาหารไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นระดับแถวหน้าของห้องอาหารไทยเลยก็ว่าได้ และในช่วงเวลานั้นเชฟวิชิตก็ได้มีการเปิดโรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (School of the Oriental Hotel Apprenticeship Programme หรือ OHAP) มีหลักสูตร Oriental Professional Thai Chef Programme หรือ OPTC ที่เชฟวิชิตรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอน และสร้างเชฟรุ่นใหม่ๆ ประดับวงการอาหารอย่างมากมาย แต่ด้วยความที่เชฟวิชิตอายุเพิ่มมากขึ้น ไม่อยากทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ และอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าท้ายมากขึ้น จึงได้ถือกำเนิด Royal Osha ที่เป็นการจับมือกันระหว่างเชฟวิชิต มุกุระ กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล ที่มีความคิดที่ว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” เพราะว่ามีครบเครื่อง มีหลายองค์ประกอบ มีครบทั้งสี และรสชาติที่มีทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็มหวาน และยังมีการนำสมุนไพรมาใช้ในการปรุงอาหารได้ด้วย ทำให้อาหารไทยนั้นมีความซับซ้อน และแตกต่างจากอาหารประเทศอื่นๆ จึงทำให้เชฟวิชิต มีความตั้งใจว่าอยากจะทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้สืบสานการทำ การปรุงอาหาร และความดั้งเดิมแบบไทยๆ ให้ด้านอาหาร เพื่อให้วัฒนธรรมในด้านอาหารไทยยังคงอยู่ และทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักกันในระดับโลกมากขึ้น และด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่น ส่งผลให้ Royal Osha เป็นอีกหนึ่ง Top Restaurant in Bangkok ที่ได้รับรางวัล Michelin Guide 6 ปีซ้อน และเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างแพร่หลาย   > คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

7. เมนูของ Royal Osha ที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากเชฟระดับปรมาจารย์ของ Top Restaurant in Bangkok

Top Restaurant in Bangkok สำหรับเมนูอาหารของ Top Restaurant in Bangkok อย่าง Royal Osha นั้นมีความใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพดีเยี่ยม ไปจนถึงการนำเสนอแต่ละเมนูที่มีการรังสรรค์ขึ้นมาจากเชฟระดับปรมาจารย์อย่าง “เชฟวิชิต มุกุระ” ที่เป็นเชฟมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่มีการนำนิยามใหม่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทั้งรูป รส และกลิ่นของอาหารไทยอย่างลงตัว เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่มีความทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้อย่างเต็มเปี่ยม   นอกจากนั้นทาง Royal Osha ยังมีการรังสรรค์เมนูต่างๆ ภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” ที่มีการเลือกใช้ผัก และสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อให้ทุกคนได้อิ่มอร่อย พร้อมกับช่วยบำรุงร่างกายจากในได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงมีการปรุงรสให้มีความกลมกล่อมตามอาหารไทยโบราณที่จะต้องมีครบ 7 รสชาติในอาหาร 1 คำ ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด เพื่อเผยเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารไทยอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น เมนูแกงกะทิใบเหลียง ที่มีการนำใบเหลียงมาเป็นส่วนประกอบ และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา และต้านมะเร็ง เมนูเมี่ยงคำบัวหลวง ที่มีการนำกลีบบัวหลวงมาใช้เป็นส่วนประกอบหลัก และมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจ หรือเมนูต้มยำต่างๆ ที่มีการนำข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด เป็นส่วนประกอบในการที่ช่วยให้รสชาติของน้ำต้มยำมีความเข้มข้น และยังมีสรรพคุณในการขับลม ช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น เป็นต้น รวมถึงทาง Royal Osha ยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูตามฤดูกาล เพราะการรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ฤดูหนาว ก็จะเป็นเมนูแกงกระด้าง หรือส้มตำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพราะฤดูหนาวนั้นจะมีอาการท้องอืดง่าย และไม่เจริญอาหาร ฤดูร้อน ก็จะเป็นเมนูข้าวแช่ ที่มีสรรพคุณในการช่วยดับร้อนในร่างกาย และในฤดูฝน ก็จะเป็นเมนูเบือทอดภูเก็ต หรือแกงปูทะเลใบยี่หร่า ที่มีความเผ็ดร้อน และสามารถช่วยป้องกัน หรือไล่อาการหวัดได้เป็นอย่างดี และด้วยแนวคิดอาหารเป็นยา และการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Royal Osha จึงทำให้ทุกคนที่แวะเวียนมาลิ้มลองอาหารที่ Royal Osha นั้นจะได้สัมผัสถึงความอร่อย กลมกล่อม ความเป็นไทย และยังมีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ Royal Osha เลยก็ว่าได้   เมนูอาหารของ Royal Osha นั้นจะมีการเสิร์ฟอาหารทั้งแบบ A La Carte และแบบ Set Menu ที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูอาหารใหม่ๆ ตามฤดูกาลเป็นประจำ และเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหารทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทยใหม่ๆ ตามแต่ละฤดูกาล ตามแต่ละภาค ที่มีความครบเครื่องในรสชาติ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยให้กับทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมนูอาหารของ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok นั้นจะมีให้เลือกทั้ง Stater, Salad, Soup, Main Coures และ Dessert และแต่ละเมนูที่ได้รับความนิยมที่อยู่ใน Royal Osha Winter Set Menu มีดังนี้
  • Starter เป็นเมนูอาหารที่มีให้เลือก 2 เมนู ได้แก่ เมนูเบือทอดกุ้งแดงสเปนกับรอยัลโอชามาโย และมัสตาร์ดซอส และเมนูแสร้งว่าหอยเชลล์ย่าง เป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเล็กที่มีความครบเครื่อง ครบรส เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เตรียมท้องให้พร้อมสำหรับเมนูถัดไป และช่วยเปิดมื้ออาหารของทุกคนให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
  • Salad เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า กงฟีเป็ดกับยำสมุนไพรกรอบ ฟัวกราส์ คาเวียร์ และทับทิม ที่เชฟวิชิตได้ทำการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบของไทย และต่างประเทศเข้าด้วยกัน พร้อมกับดัดแปลงสมุนไพรไทยให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ง่าย และกินได้ง่ายมากขึ้น ที่ผสมผสานกับวัตถุดิบชั้นเลิศแบบจัดเต็มทุกคำ
  • Soup เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อว่า ต้มหนวดปลาหมึกยักษ์กับส้มจี๊ด ที่ผสมผสานระหว่างอาหารคาว กับผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว มาพร้อมกับซุปที่มีความหอมสดชื่นให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ช่วยตัดเลี่ยน และช่วยล้างปากให้ทุกคนพร้อมสำหรับเมนูอาหารจานหลักได้อย่างดีเยี่ยม
  • Main Course เป็นเมนูอาหารจานหลักที่เชฟวิชิตจัดเต็มาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง โดยเมนูนี้มีชื่อว่า ปลาเก๋าแดงซอสฉู่ฉี่กับเนื้อวากิวย่างซอสน้ำตก มาพร้อมกับผักดอง และผักย่าง เป็นเมนูที่มีการใช้วัตถุดิบพรีเมียม พร้อมกับชูรสชาติอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้ลิ้มลองตั้งแต่คำแรกอย่างแน่นอน
  • Dessert เป็นเมนูอาหารหวานที่จะช่วยปิดท้ายให้มื้ออาหารของทุกคนมีความสมบูรณ์แบบ โดยเมนูมีชื่อว่า พุดดิ้งนมสดกับไอศกรีมชาไทย และเบอร์รี ที่มีการนำชาไทยที่มีความหอม หวาน และเป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมของชาวไทย มาดัดแปลงเป็นรูปแบบของไอศกรีม เพื่อให้รับประทานได้ง่าย จับคู่กับพุดดิ้งนมสดที่ช่วยเพิ่มความหอมมัน และตัดเลี่ยนด้วยเบอร์รีที่มีความหวานอมเปรี้ยว และผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
  > คลิก ที่นี่ เพื่อดูเมนูอาหารของ Royal Osha ถ้าหากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย หรือเหล่านักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ อยากจะลิ้มลองความอร่อยที่มีการส่งต่อเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอาหารอย่างชัดเจน สามารถจองเข้ามาได้ที่ Royal Osha ที่เป็นหนึ่งใน Top Restaurant in Bangkok ที่มีสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีความแปลกใหม่ ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟวิชิต มุกุระ เชฟระดับปรมาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรุงอาหารไทย ตั้งใจปรุงทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความอร่อยแบบไทยแท้อย่างเต็มคำ