เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
ถึงแม้ว่าในช่วงฤดูร้อนนั้นจะเป็นช่วงที่มีเทศกาลสงกรานต์ในการช่วยดับร้อน และมีวันหยุดยาวที่หลายๆ คนจะได้กลับบ้านเยี่ยมครอบครัว หรือท่องเที่ยวได้แบบสบายใจ แต่ว่าในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่อากาศ และอุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อนไปจนถึงร้อนมาก จนทำให้ทุกคนจะต้องมองหาวิธีดับร้อนที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำ การดื่มน้ำเย็นๆ หรือการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยให้ร่างกายมีความสดชื่นจากภายในสู่ภายนอก อย่างเช่น “ข้าวแช่” ที่เป็นเมนูช่วยคลายร้อนยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน เพราะว่าเมนูข้าวแช่นั้นมีทั้งความหอม ความเย็น และความอร่อย ทำให้เวลารับประทานเข้าไปนั้นจะสัมผัสได้ถึงความหอมชื่นใจ เย็นสดชื่น และอิ่มอร่อยได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Royal Osha ก็จะพานักชิมไปทำความรู้จักกับ “ข้าวแช่” ตำรับรอยัล โอชา ที่เป็นเมนูดับร้อนประจำคิมหันต์ฤดูจาก Royal Osha ว่าคืออะไร มีเครื่องเคียงอะไรบ้าง มีวิธีการรับประทานอย่างไร พร้อมแนะนำเมนูอาหาร Fine Dining ใน Set Menu คิมหันต์ฤดู ที่จะช่วยให้นักชิมได้ดับร้อนจากอากาศร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“ข้าวแช่” คือ ข้าวหุงสุกที่แช่อยู่ในน้ำลอยดอกไม้ไทยที่รับประทานคู่กับเครื่องเคียง และเครื่องแนม เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม และเมื่อรับประทานแล้วจะสัมผัสได้ถึงความหอม และสดชื่น ที่สามารถช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี โดยข้าวแช่นั้นได้รับอิทธิพลมาจากชาวมอญตั้งแต่ในช่วงรัชกาลที่ 3 ที่ในภาษามอญเรียกว่า “เปิงด้าจก์” มาจากคำว่า เปิง แปลว่า ข้าว และ ด้าจก์ แปลว่า น้ำ ที่ชาวมอญใช้ในการเซ่นไหว้ และประกอบพิธีบูชาเทวดา เพื่อทำการขอพรให้มีทายาทสืบสกุลในวันมหาสงกรานต์ของชาวมอญ และในช่วงรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น (เจ้าจอมเชื้อสายมอญทางเจ้าพระยามหาโยธา หรือเจ่ง คชเสนี) ที่เป็นพระสนมเอกในรัชกาลที่ 4 ก็ได้นำข้าวแช่ขึ้นถวายเป็นเครื่องต้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้เมนูข้าวแช่เป็นที่นิยมในวัง และเมื่อเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นติดตามไปถวายงานพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี ก็ได้ทำการถ่ายทอดการทำข้าวแช่ชาววังไปยังห้องเครื่อง และหลังจากนั้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ที่เป็นข้าหลวงประจำห้องเครื่องในช่วงสมัยนั้น ก็ได้ทำการเผยแพร่ข้าวแช่จากห้องเครื่องก็ได้ไปสู่ชาวเมืองเพชรบุรี ทำให้ข้าวแช่ที่เป็นอาหารชาววัง ก็ได้กลายเป็นอาหารที่สู่สาธารณชน และได้รับความนิยมจนถึงในปัจจุบัน และด้วยความที่ข้าวแช่ได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญ และนิยมรับประทานกันในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ที่เป็นช่วงฤดูร้อน เพราะว่าข้าวแช่สามารถช่วยคลายร้อนให้ความรู้สึกหอม เย็น สดชื่น และชื่นใจเป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตั้งแต่ในช่วงสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันนิยมนำข้าวแช่มารับประทานกันในช่วงหน้าร้อนนั่นเอง
การรับประทานข้าวแช่นั้นจะต้องรับประทานคู่กับเครื่องเคียง และเครื่องแนม เพื่อช่วยให้ข้าวแช่มีรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม หอมเย็น ชื่นใจ ตามสไตล์ของข้าวแช่โบราณ โดยส่วนใหญ่นั้นเครื่องเคียงของข้าวแช่ก็จะมีให้เลือกรับประทานหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิ หมูฝอย หอมแดงสอดไส้ พริกหยวกสอดไส้ ไชโป๊วผัดหวาน และลูกไข่เค็ม เป็นต้น ซึ่งเครื่องเคียงของข้าวแช่ แต่ละอย่างนั้นมีรายละเอียด ดังนี้
นอกจากเครื่องเคียงของข้าวแช่ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็อาจจะมีเครื่องเคียงเพิ่มเติมอื่นๆ ด้วย ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละคน และก็ยังมาพร้อมกับเครื่องแนมที่เป็นผัก และผลไม้แกะสลัก เช่น มะม่วงเปรี้ยว แตงกวา พริกชี้ฟ้า ต้นหอม ดอกกระชาย หรือมันแกว เป็นต้น ที่เมื่อนำมารับประทานคู่กับช้าวแช่แล้ว ก็จะได้รสชาติที่เข้ากันได้ดี หอมสดชื่น และกลมกล่อม ที่นักชิมจะได้สัมผัสความอร่อยสไตล์ไทยโบราณได้ในทุกคำ
ถึงแม้ว่าข้าวแช่นั้นจะเป็นเมนูอาหารที่มีความหอม สดชื่น และอร่อยกลมกล่อม ที่นักชิมนิยมนำมารับประทานกันในช่วงหน้าร้อน และดูเหมือนจะสามารถรับประทานแบบไหนก็ได้ แต่ความจริงนั้นการรับประทานข้าวแช่ก็มีขั้นตอนในการรับประทานที่จะช่วยให้นักชิมสัมผัสได้ถึงความอร่อยตามสไตล์ไทยโบราณได้อย่างถูกต้อง โดยขั้นตอนในการรับประทานข้าวแช่ มีดังนี้
ทั้งนี้ การรับประทานช้าวแช่นั้นไม่ควรทำการตักเครื่องเคียงใส่ลงในข้าวแช่ เพราะจะทำให้กลิ่นหอมของข้าวแช่หายไป และจะทำให้รสชาติของเครื่องเคียง ทั้วคาว และหวานปะปนอยู่ในข้าวแช่ และส่งผลให้นักชิมไม่สามารถรับรู้รสชาติที่แท้จริงของข้าวแช่ และเครื่องเคียงแต่ละชนิดได้อย่างเต็มที่
เมนูข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูดับร้อนประจำคิมหันต์ฤดู หรือฤดูร้อนของ Royal Osha ที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างประณีตจากเชฟแถวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ “เชฟวิชิต มุกุระ” Executive Chef แห่ง Royal Osha ที่มีประสบการณ์การทำงานในแวดวงอาหารไทยมามากกว่า 40 ปี โดยข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา นั้นได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยการนำข้าวหอมมะลิเสาไห้ชั้นดี ลอยในน้ำดอกไม้ไทย ที่มีการเลือกใช้น้ำแร่ที่มีค่า pH 8.8 เพื่อทำการแช่ข้ามคืน ที่จะช่วยสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดได้อย่างดีเยี่ยม และทำให้ได้กลิ่นน้ำลอยดอกไม้ไทยที่มีความหอมคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย มาพร้อมกับเครื่องเคียง 7 อย่างตามแบบฉบับของข้าวแช่ชาววัง ที่ผ่านการปรุงรส และสร้างสรรค์มาอย่างประณีตตามตำรับของ Royal Osha จนได้เครื่องเคียงที่มีรสชาติที่มีอร่อย กลมกล่อม ตามแบบฉบับของข้าวแช่ไทยโบราณ แต่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Royal Osha ไว้ในทุกสัมผัส โดยเครื่องเคียงของข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา ทั้ง 7 อย่าง มีดังนี้
โดยในทุกเมนูเครื่องเคียงนั้นรังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดี มาพร้อมกับเครื่องแนมที่เป็นผัก และผลไม้ ที่ผ่านการแกะสลักมาอย่างประณีต เพื่อช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับรสชาติของข้าวแช่มากขึ้น อย่างเช่น กระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก เป็นต้น
สำหรับนักชิมที่สนใจอยากจะดับร้อนด้วย “ข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา” และอยากจะลิ้มลองเมนูอาหาร Fine Dining ที่สามารถช่วยคลายร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทาง Royal Osha ก็มีเมนูอาหาร Fine Dining ที่เป็น Set Menu คิมหันต์ฤดู ที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้รังสรรค์ขึ้นมาให้ทุกเมนูสามารถช่วยคลายร้อนให้กับชักชมได้แบบจัดหนักจัดเต็ม ซึ่งแต่ละเมนูนั้นก็มีการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลผสมผสานเข้ากันกับสมุนไพรพื้นบ้าน ที่ช่วยให้นักชิมได้คลายร้อน อิ่มอร่อย และดูแลสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน โดยเมนูอาหาร Fine Dining จาก Set Menu คิมหันต์ฤดู มีดังนี้
ทั้งนี้ Set Menu ของคิมหันต์ฤดู และฤดูกาลอื่นๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการรังสรรค์ทุกเมนูนั้นมีการคัดสรร และเลือกใช้ตามฤดูกาล ดังนั้น นักชิมคนไหนที่อยากจะสัมผัส หรือลิ้มลองความอร่อยของเมนูอาหาร Fine Dining ที่ Royal Osha สามารถติดตามเมนูอาหารประจำฤดู สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้เลยที่ Facebook : Royal Osha Bangkok หรือคลิก ที่นี่
สำหรับนักชิมคนไหนที่อยากจะสัมผัสความสดชื่นรื่นรสแห่งคิมหันต์ฤดู จากสำรับข้าวแช่ชาววัง ตำรับรอยัล โอชา ก็มีให้นักชิมได้เลือกรับประทานกัน 2 แบบ ได้แก่ แบบ Dine in หรือรับประทานที่ร้าน และ Set Take Away สำหรับการรับประทานที่บ้าน หรือซื้อเป็นของขวัญ ของฝาก โดยรายละเอียดของการเลือกรับประทานข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา ในแต่ละรูปแบบ มีดังนี้
ทั้งนี้ ราคาในการรับประทานข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา แบบ Dine in หรือรับประทานที่ร้าน อาจมีการเปลี่ยนแปลง และสำหรับสำรับข้าวแช่แบบ Set Take Away จะต้องทำการสั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน และ Voucher ที่ได้รับภายในกล่องนั้นจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
สำหรับในช่วงคิมหันต์ฤดู หรือช่วงฤดูร้อนนั้นเป็นช่วงที่อากาศของประเทศไทยมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง ที่ในบางวันมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ทำให้อากาศมีความร้อน และอบอ้าว ที่ส่งผลให้ร่างกายร้อนตามไปด้วย ดังนั้น การดับร้อนด้วย “ข้าวแช่” ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยดับร้อนได้จากภายในสู่ภายนอก ที่จะทำให้นักชิมได้ทั้งอิ่ม อร่อย และดับร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และสำหรับนักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะดับร้อนด้วยข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา ตามแบบวิถีของ Royal Osha สามารถสั่งซื้อข้าวแช่ แบบ Set Take Away หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อลิ้มลองข้าวแช่แบบ Dine in หรือถ้าหากอยากดับร้อนแบบ Full Course ที่ทุกเมนูนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นมา ที่ให้นักชิมได้อิ่มอร่อย ดับร้อน และดูแลสุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน ก็สามารถเลือกรับประทานเมนูอาหาร Fine Dining ที่เป็น Set Menu ของคิมหันต์ฤดูแบบจัดเต็มได้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สั่งซื้อ หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้