เสน่ห์ของการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant

Fine Dining Restaurant

Fine Dining คือหนึ่งในไลฟ์สไตล์การทานอาหารที่ปรุงและตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญในอาหารเฉพาะทาง มาพร้อมการบริการและบรรยากาศที่ดีเลิศตามมาตรฐานของ Fine Dining Restaurant ประสบการณ์มื้อพิเศษใน Fine Dining Restaurant จึงมีมูลค่าและราคาสูงอย่างสมเหตุผล 

โดยเฉพาะการทานอาหาร Fine Dining ที่ Royal OSHA ผู้คว้ารางวัลมามากมายหลายปีซ้อน ทางร้านได้รางวัล Michelin Guide ในปี 2019 และถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Fine Dining Restaurant ที่ดีที่สุดของประเทศไทย ในแต่ละปี Royal OSHA ได้สั่งสมชื่อเสียงจากการติดอันดับต้น ๆ ของ Fine Dining Restaurant และได้เป็น Fine Dining Restaurant เบอร์ต้น ๆ ของไทยที่ถูกโหวตเลือกโดยลูกค้าว่าดีที่สุด 

แต่นอกจากเรื่องของรางวัลและการจัดอันดับ Fine Dining Restaurant ที่ดีที่สุดแล้ว ยังมีอีกหลายเหตุผลและเรื่องราวที่ทำให้ Royal OSHA มีเสน่ห์ มีมูลค่า และมีความหมายทางวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ

1. ทำไมการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant จึงมีราคาและมูลค่าสูง

Fine Dining Restaurants

อาหารที่ Fine Dining Restaurant เป็นอาหารที่จัดว่าหรูหราราคาแพง แต่ความหรูหราและราคาของอาหารสไตล์นี้นับว่าคุ้มค่ากันกับมื้ออาหารที่ให้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสแห่งศิลปะ ทุกขั้นตอนล้วนผ่านการคิดวางแผนและทำงานด้วยความประณีต นับตั้งแต่ที่ลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน การบริการ การตกแต่งบรรยากาศร้านและโต๊ะอาหารล้วนถูกจัดวางอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ก่อนการนำเสนอเรื่องราวและรสชาติอาหารผ่านเมนูอย่างเป็นลำดับ ถ้าเปรียบกับงานศิลปะแล้วการทานอาหารที่ Fine Dining Restaurant ก็คล้ายกับการชมอุปรากรโอเปราเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่าง 4 ข้อของ Fine Dining Restaurant ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมการทานอาหาร Fine Dining Restaurant จึงมีมูลค่าสูง

1.1 วัฒนธรรมการทานอาหารใน Fine Dining Restaurant จากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18th 

ในยุคแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศสบรรดาเชฟประจำบ้านขุนนางและชนชั้นสูงจำนวนมากถูกปลดออกจากงาน วัฒนธรรมการปรุงและเสิร์ฟอาหารฟูลคอร์ส ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวานสำหรับชนชั้นสูงเพียงโต๊ะเดียวได้ถูกปรับเปลี่ยนมาขายให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และกลายเป็นจุดขายของร้านอาหารประเภท Fine Dining Restaurant ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นรูปแบบร้านอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วยุโรป และยังนำไปสู่การจับคู่ของ Fine Dining Restaurant กับโรงแรม เป็นบริการหรูหราสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้นอนพักและลิ้มรสอาหารด้วยประสบการณ์พิเศษพร้อม ๆ กัน โรงแรมแห่งแรกที่มีบริการนี้มีชื่อว่า Hôtel de Paris, Monte-Carlo (1864) เสน่ห์สำคัญของ Fine Dining Restaurant นั้นจึงมาจากความประทับใจและมุมมองที่ลูกค้ามีต่อการรับบริการและดูแลสุดพิเศษจากทางร้านในทุกขั้นตอน

1.2 Fine Dining Restaurant เน้นความพิถีพิถันในลำดับการเสิร์ฟอาหารแต่ละจาน

สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ในการทานอาหารแบบ Fine Dining Restaurant ก็คือลูกค้าจะได้ลิ้มรสเมนูอาหารตามลำดับคอร์สที่ถูกจัดวางมาให้ โดยลำดับแรกของคอร์สก็คือ เมนูเรียกน้ำย่อย (Starters) ที่จะมาในปริมาณพอเหมาะ ทานแล้วชวนให้อยากอาหารและรอคอยเมนูลำดับถัดไปอย่างกระตือรือร้น ลำดับที่สองและสามขึ้นอยู่กับการจัดเรียงของ Fine Dining Restaurant ส่วนมากจะมีทั้งสลัดและซุปเบา ๆ เรียงมาก่อนจะเข้าไปสู่เมนูหลัก จานใหญ่ที่จะเป็นช่วงไฮไลท์ของ Fine Dining Restaurant พร้อมกับปิดท้ายด้วยของหวาน ซึ่งทางร้าน Royal OSHA จะให้ลูกค้าได้ทำการเลือกเมนูในแต่ละลำดับของคอร์สก่อน และแต่ละคอร์สเมนูของ Royal OSHA ก็มีตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย อย่างเช่น เมนูเมี่ยงคำบัวหลวงในหมวดคอร์ส Starters ที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสที่อร่อยพอดีคำ พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับความสวยงามประณีตในการจัดเมนูเรียกน้ำย่อยจานนี้ ซึ่ง Royal OSHA พร้อมส่งมอบความสวยงามที่ทานได้สไตล์ Fine Dining Restaurant ในทุก ๆ เมนู 

นอกจากนั้นเครื่องดื่มก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ Fine Dining Restaurant ให้ความสำคัญ ลูกค้าสามารถสอบถามและขอคำแนะนำจากทางร้านได้เลย ว่าเมนูนี้ทานคู่กับเครื่องดื่มชนิดใดดีเพื่อให้รสชาติของอาหารดียิ่งขึ้น และในลำดับฟูลคอร์สทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พนักงานจะคอยให้บริการดูแลเคียงข้างอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตลอดทั้งคอร์ส 

1.3 กฎสำคัญของ Fine Dining Restaurant คือความเคร่งครัดในมารยาทการให้บริการ

กฎระเบียบของร้าน กิริยามารยาท เครื่องแต่งกาย ความรู้เชิงลึกในเมนูอาหาร และการบริการทุกอย่างของ Fine Dining Restaurant ต้องเพอร์เฟกต์ ไร้ที่ติ เพราะมันส่งผลต่ออารมณ์และบรรยากาศในการทานอาหารของลูกค้าโดยตรง พนักงานที่ให้บริการกับลูกค้าเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร หรือต้องการจะสื่ออะไรอย่างรวดเร็ว ต้องมีทั้งทักษะการสื่อสารและน้ำเสียงที่ไพเราะในการคำแนะนำกับลูกค้าถึงรายละเอียดของเมนูต่าง ๆ  อีกทั้งต้องมีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างฉับไว บริการจาก Fine Dining Restaurant จึงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เสมอ เพราะพนักงานทุกคนถูกฝึกฝนมาให้ใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และพร้อมให้การดูแลเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในทุก ๆ มื้อ เพราะฉะนั้นในการเตรียมการต้อนรับลูกค้า Fine Dining Restaurant จะระบุให้ลูกค้าทำการจองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อที่ทางร้านจะได้พร้อมต้อนรับลูกค้าอย่างดีที่สุด และร้าน Fine Dining Restaurant จะเสริมความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการเชิญ Chef Table มาเป็นไฮไลท์ของมื้ออาหาร อย่างที่ร้าน Royal OSHA เชิญเชฟมิชลินสตาร์ หรือเชฟวิชิต มุกุระ มารังสรรค์เสิร์ฟเมนูพิเศษให้

1.4 เมื่อโอกาสและวาระพิเศษมาถึง จะต้องนึกถึง Fine Dining Restaurant

คำตอบง่าย ๆ ของคำถามที่ว่า ทำไมถึงเลือกใช้ช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวาระพิเศษไหน ๆ กับ Fine Dining Restaurant ลูกค้าส่วนใหญ่จะตอบว่า เพราะความโรแมนติก เพราะบรรยากาศดี ๆ ในร้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง  Fine Dining Restaurant ตั้งใจที่จะมอบให้กับลูกค้า ด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งบรรยากาศที่สวยงาม เมนูพิเศษในทุก ๆ คอร์สที่รังสรรค์มาเพื่อมอบประสบการณ์ดี ๆ ที่ลูกค้าได้สัมผัส Fine Dining Restaurant มักสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้กลับมารับบริการที่ร้านอาหารอย่างไม่รู้เบื่อ เพราะการทานอาหารแบบ Fine Dining จะมอบความทรงจำและรสสัมผัสดี ๆ กลับไปพร้อมกับลูกค้าเสมอ ฐานลูกค้าประจำของ Fine Dining Restaurant จึงแข็งแกร่งและให้รีวิวดี ๆ กับทางร้านมากมาย ร้านอาหาร Royal OSHA เป็นอีกหนึ่งแห่งที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อวันพิเศษ คนพิเศษ และมื้ออาหารพิเศษสไตล์ Thai Fine Dining Restaurant ของคุณ 

 

ร่วมรับประสบการณ์เลิศรสสุดพิเศษกับ Fine Dining Restaurant สไตล์ไทยฟิวชั่น สำรองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้านได้เลย

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

2. เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง

Fine Dining Restaurant เป็นสไตล์การรับประทานอาหารที่มีความหรูหรา และมีราคาค่อนข้างสูง เพราะว่าการรับประทานอาหารแบบ Fine Dining นั้นจะเป็นเมนูอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งมาอย่างพิถีพิถัน และมีการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากฝีมือของเชฟที่มีความเชี่ยวชาญ โดยที่ Royal Osha นั้นก็มีเชฟวิชิต มุกุระ เป็น Executive Chef ประจำที่ Royal Osha และเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในด้านการปรุงแต่งอาหารไทยมากเป็นระยะเวลานานกว่า 40 ปี โดยเชฟวิชิต มุกุระ มีแนวคิดในการนำเสนอเมนูอาหารภายใต้แนวคิด “Classic Thai Elegance Reinvented” หรือความสง่างามของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ที่เป็นอาหารไทยแนวใหม่สไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ รวมถึงมีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์อาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ทั้งในเรื่องของรูป รส กลิ่น และเสียง แบบเหนือระดับ พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงแต่ง พร้อมกับถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต การกิน อยู่ อาศัยของคนไทย ไว้ในอาหารทุกจาน เพื่อให้นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยในอีกมุมหนึ่งที่มีความแปลกใหม่ และนอกจากนั้นเมนูของ Royal Osha ยังมีการเลือกใช้พืช ผัก และสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหาร และมีการสลับสับเปลี่ยนอาหารใน Set Menu ตามฤดูกาล ได้แก่ คิมหันต์ฤดู วัสสานฤดู และเหมันต์ฤดู เพื่อให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารไทยเลิศรสหลากหลายเมนู และได้อิ่มอร่อยไปพร้อมกับการบำรุงร่างกาย เพราะในอดีตการรับประทานอาหารตามฤดูกาล ถือว่าเป็นศาสตร์แพทย์แผนไทยที่บำรุงร่างกายจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดีอีกด้วย และความพรีเมียมของ Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha นั้นยังไม่ได้หยุดเพียงแค่ฝีมือของเชฟ และเอกลักษณ์ในการเลือกใช้วัตถุดิบเพียงเท่านั้น แต่ว่ายังพิถีพิถัน และให้ความใส่ใจในการเรียบเรียง และนำเสนออาหารแต่ละเมนูที่วางแผนมาอย่างประณีต เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสองค์ประกอบของอาหารในแต่ละเมนูได้อย่างเต็มที่ และให้นักชิมได้รู้สึกว่าการรับประทานอาหาร Fine Dining นั้นเหมือนกับการชื่นชมงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ และสร้างความประทับใจในการเสน่ห์ รสชาติ และเอกลักษณ์ของอาหารไทยได้แบบไม่รู้ลืม

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Chef ของ Royal Osha

3. พิถีพิถันในทุกเมนู ตั้งแต่ Starters จนเมนูสุดท้าย ใส่ใจทุกรายละเอียดที่สมกับเป็น Fine Dining Restaurant ที่ครองใจเหล่านักชิม

Fine Dining Restaurant

สำหรับเมนูอาหาร Fine Dining Restaurant ของ Royal Osha จะมีให้นักชิมได้เลือกหลากหลายแบบ เช่น แบบ A La Carte ที่นักชิมสามารถสั่งอาหารได้ตามความชอบ และแบบ Set Menu ที่เชฟจะทำการจัดสรรเมนูอาหารต่างๆ มาให้แบบ Full Option ที่มีการผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวตั้งแต่เมนูแรกจนเมนูสุดท้าย ซึ่งนักชิมสามารถเลือกได้ว่าอยากรับประทานอาหารแบบไหน และในกรณีที่มีการแพ้อาหารบางชนิด ก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าทางเชฟจะมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อปรุงแต่งอาหารออกมาให้นักชิมได้อย่างดีเยี่ยมมากที่สุด และในส่วนของเมนูแนะนำที่ขึ้นชื่อของ Royal Osha ที่นักชิมไม่ควรพลาด มีดังนี้

  • ข้าวแช่ต้นตำรับ Royal Osha เป็นเมนูแนะนำ และเป็นเมนูขึ้นชื่อที่นักชิมหลายๆ คนที่เคยลิ้มลองแล้วจะต้องกลับมาซ้ำ เพราะว่าข้าวแช่ต้นตำรับ Royal Osha นั้นมีความอร่อยกลมกล่อมไม่เหมือนใคร ด้วยการเลือกใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ แช่ในน้ำลอยดอกไม้ไทยที่ใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 เพื่อให้ข้าวมีความหอมของดอกชมนาดจากการแช่ข้ามคืน พร้อมกับรับประทานคู่กับเครื่องเคียง 7 ชนิด ตามต้นตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน ที่จะต้องรับประทานเครื่องเคียงเรียงลำดับจากคาวไปหวาน และควรรับประทานคู่กับแตงกวา และต้นหอมสลับกัน เพื่อเป็นการล้างปากไปในตัว และจะได้สัมผัสถึงความอร่อยกลมกล่อมของข้าวแช่ และเครื่องเคียงได้อย่างเต็มที่
  • ข้าวยำสมุนไพรน้ำบูดู เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่เป็นอาหารไทยท้องถิ่นของทางภาคใต้ โดยเมนูนี้เป็นเมนูที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่มีความหลากหลาย และมีประโยชน์ทุกคำ ด้วยการที่เชฟวิชิต มุกุระเลือกใช้ข้าวเหนียวดำลืมผัวจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่มาจากโครงการช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่น มาพร้อมกับเครื่องสมุนไพรต่างๆ แบบจัดเต็ม เช่น ใบมะกรูด ใบชะพลู ตะไคร้ซอย มะม่วงเปรี้ยว ถั่วแดง ลูกเดือย ส้มโอ ถั่วฝักยาว ปลาข้าวสาร และกุ้งแห้งตำ ที่ผสมผสานกับน้ำยำบูดูจากทางภาคใต้ จึงทำให้มีข้าวยำสมุนไพรน้ำบูดูนั้นมีความหอม อร่อย กลมกล่อม แบบครบเครื่อง
  • หอยเชลล์ทอดกับไข่ตุ๋น และน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเมนูนี้มาจากการเดินทางไปทำงานที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยการนำหอยเชลล์ชั้นดีปรุงสุกด้วยการทอด นำมาผสมผสานกับความนุ่มละมุนของไข่ตุ๋น พร้อมกับเพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มซีฟู้สูตรพิเศษของเชฟวิชิต ทำให้เมนูนี้มีความหอม อร่อย และสดใหม่เป็นอย่างมาก
  • ต้มโคล้งทูน่ากับปลากรอบญี่ปุ่น เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่มีความแปลกใหม่ เพราะเป็นเมนูที่มีความฉีกจากเมนูต้มโคล้งแบบทั่วไป และได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำซุปกระดูกหมูราเมนของญี่ปุ่น ด้วยการนำเครื่องต้มโคล้งมาบดกับเนื้อปลา พร้อมกับปรุงรส และนำไปเคี่ยวในน้ำสต็อกปลาเป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงนำมากรองจนได้น้ำซุปใส หอมเครื่องต้มโคล้ง ที่จะต้องรับประทานคู่กับไชเท้าตุ๋น และปลากรอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความกลมกล่อมมากขึ้น
  • ถั่วแปบ ขนมครกข้าวเหนียวมะม่วง ขนมสอดไส้ เป็นเมนูอาหารหวานแนะนำของ Royal Osha ที่เป็นการเสิร์ฟพร้อมกัน 3 เมนู ได้แก่ ถั่วแปบ ที่ทำมาจากข้าวเหนียวดำรองด้วยน้ำตาลงา ขนมสอดไส้โบราณหน้ากะฉีดห่อด้วยใบตอง และขนมครกข้าวเหนียวมะม่วง สูตรของเชฟวิชิต ที่มีการทำแป้งขนมครกให้มีเปลือกนอกกรอบ หยอดหน้าด้วยข้าวเหนียวมูน มะม่วงสุกหั่นชิ้น และครีมกะทิ ที่จะต้องกินภายในคำเดียว เพื่อให้ได้ความหอม กรอบนอกนุ่มใน นุ่ม และละมุนมากที่สุด

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าเมนูอาหาร ของ Royal Osha

4. สัมผัสบรรยากาศ Fine Dining Restaurant แบบแท้จริง ได้ที่ Royal Osha

นอกจากเมนูอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่จะต้องเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี ผ่านการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน มีรสชาติ และองค์ประกอบที่ครบถ้วนตามฉบับอาหารไทย และมีการนำเสนอให้นักชิมได้ลิ้มลองอย่างประณีตแล้ว ทาง Royal Osha ยังให้ความใส่ใจในเรื่องของบรรยากาศภายในห้องอาหารในทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า ผนัง เพดาน โต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยมากที่สุด โดยภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ที่มีการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ มาพร้อมกับการแฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลา มาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอก ทำให้เวลาที่นักชิมได้ก้าวเข้ามาที่ Royal Osha นั้นจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระราม ที่มีบรรยากาศ เสน่ห์ และกลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ และให้ความรู้สึกเรียบหรู รวมถึงภายในห้องอาหารยังมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเข้ากันกับการตกแต่งภายในร้าน ทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหาร Fine Dining ที่ Royal Osha นั้นจะช่วยนักชิมได้สัมผัสถึงการรับประทานอาหารไทย Fine Dining Restaurant แบบแท้จริง และด้วยความที่ Royal Osha นั้นมีความเป็นไทยชัดเจนในทุกๆ ด้าน จึงทำให้เป็นอีก 1 ใน Fine Dining Restaurant ที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มนักชิมคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

5. รีวิวจากนักท่องเที่ยวตัวจริง ที่เป็นเสียงการันตีว่า Royal Osha เป็น 1 ใน Fine Dining Restaurant ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

Fine Dining Restaurant

Royal Osha เป็น Fine Dining Restaurant ที่ได้รับรางวัลการันตีมาอย่างมากมายหลายปีซ้อน ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Michelin Guide, Thai Select Premium, Use’s Choice Wongnai หรือ Thailand Tatler Best Restaurant ที่ล้วนแต่เป็นรางวัลที่มีเกณฑ์ในการคัดเลือกที่ค่อนข้างละเอียด และเป็นรางวัลที่การันตีว่า Royal Osha เป็น 1 ใน Fine Dining Restaurant ระดับแนวหน้าของประเทศไทย และนอกจากรางวัลการันตีต่างๆ แล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังได้รับรีวิวจากเหล่านักชิมที่แวะเวียนมาสัมผัสอาหารไทยแบบตัวจริง เสียงจริงอีกมากมาย เช่น รีวิวนักชิม Local Guide และ Wongnai รวมถึงรีวิวจากนักชิมชาวต่างชาติที่ติดใจในความครบเครื่อง ครบรสของอาหารที่ Royal Osha ดังนี้

Paul Nesteby (Oslo, Norway)

“A wonderful Thai food gem in Bangkok. We had a wonderful 8 course tasting menu which was truly an amazing journey into several typical thai flavors/dishes that had been perfectioned and made delicately as part of this delicious set menu. The staff was very service minded. The venue is elegant. We brought our kid and he just loved the attentiveness of the staff as we did. Can highly recommend this gem in Bangkok.”

Itinerant Bari (Des Moines, Iowa)

“Great Thai cuisine and a refined atmosphere to unwind with friends. Expectations when choosing a Michelin Star restaurant are always high, and Royal Osha lives up to the denomination. You will find here many of the traditional Thai dishes, and they are elevated to the culinary, service and fine dining experience standards coming with One Michelin Star. Honestly, not much more to say, you come here with high expectations, and they are met in every single bite, sip and detail. You can be certain you will enjoy your dining experience with all your senses.”

DickZe (Bangkok, Thailand)

“Very nice Thai food, nice atmosphere. The restaurant has a nice interior with a very high ceiling. The general atmosphere is distinguished and classy. During an earlier visit I was annoyed by disco music, but now nothing of such kind – fortunately. Service is very efficient and friendly, the kind you hardly notice. The menu has Thai dishes. We had an appetizer of tuna salad and beef rolls, a main course of lobster and beef curry. All very well made and tasty. And a pleasure not only to the tongue but also to the eye. All this comes not cheap of course, but we found the prices in keeping with the presented quality.”

luxuryhotelsonly (Dubai, United Arab Emirates)

“We had an amazing dinner at Royal Osha in Bangkok. From the moment we entered the restaurant to the minute we left again, it was a superbe experience and could not have been any better! The service was outstanding, the waiter even organized a car for us and accompanied us till we got savely inside.

The food was just outstanding and the best we had in Thailand, probably even in any Thai food place ever. Each dish was beautifully arranged, tasted perfect and was more than a generous serving. The restaurant itself is beautifully designed and extremely tasteful. We enjoyed every minute, it could not have been any better! Full 5 star score – see you next time in BKK!”

ThorLieu (Hong Kong, China)

“The best Thai restaurant during my visit!

In terms of location, it is not very convenient, but if you are going to the Asiatique night market, I would say this Thai restaurant is outstanding among other outlets there. I believe it is because my visit was on Monday, 2 April, so there were not many people although I did make an advance booking. The Staff and hostess are very nice and very very attentive and proactive. In terms of food, I ordered deep fried shrimp, yellow curry with chicken leg, Tom Yum and mango sticky rice. All the food is very tasty and presentable. I especially love the mango sticky rice as from the sliced mango presentation, you can see how good the skill of their chef!. I will visit it again on my next visit. I hope they can keep a good job.”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้ารางวัลการันตี ของ Royal Osha

6. ลิ้มรสอาหารไทยสุดหรูหราแบบ Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์นักชิมได้ทุกรูปแบบ

Fine Dining Restaurant

เมนูอาหารไทย Fine Dining Restaurant ที่ Royal Osha นั้นมีการเลือกใช้วัตถุดิบแบบผสมผสาน ด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จะนำมาปรุงแต่งให้กลายเป็นอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย และมีกลิ่นอายของอาหารไทยอย่างชัดเจน รวมถึงมีความครบรส ครบเครื่อง ครบองค์ประกอบ มีความกลมกล่อม ทำให้เมนูอาหารไทยที่นักชิมได้ลิ้มลองกันนั้นมีหลากหลายสไตล์ และสามารถเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย ส่งผลให้เมนูอาหารไทยที่ Royal Osha สามารถตอบโจทย์นักชิมได้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขกคนสำคัญ เฉลิมฉลองกับครอบครัว พบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์กับคนรัก แถมยังตั้งอยู่ใน Location ที่เดินทางสะดวกสบาย จึงทำให้นักชิมหลายๆ คนเลือกที่จะแวะมาลิ้มลองอาหารไทยชั้นเลิศที่ Royal Osha ดังนั้น ถ้าหากนักชิมคนไหนอยากจะแวะมาสัมผัสถึงความอร่อยสุดพรีเมียม สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

    • Line Official : @royalosha
    • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
    • Facebook : Royal Osha Bangkok
    • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha