fine dining sathorn

อยากสัมผัส Fine Dining สาทร ต้องเริ่มจากที่นี่ – Royal Osha ความหรูหราสไตล์ไทยแท้ รางวัลมิชลินไกด์

ย่านสาทรของกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในทำเลที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารหรู และบรรยากาศพรีเมียม เหมาะสำหรับทั้งนักธุรกิจที่มองหาสถานที่รับรองแขก และนักชิมที่อยากดื่มด่ำมื้อพิเศษท่ามกลางความคึกคักของเมืองใหญ่ ถึงแม้ว่าย่านนี้จะมีร้านอาหารนานาชาติให้เลือกมากมาย แต่การจะหาร้านอาหารที่สามารถนำเสนออาหารไทย Fine Dining แท้ๆ ซึ่งทั้งรักษารสชาติแบบดั้งเดิม และนำเสนออย่างหรูหรา กลับไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

และในบรรดาร้านอาหาร Fine Dining สาทรที่สามารถผสมผสานเสน่ห์ของอาหารไทยกับความประณีตระดับสากลได้อย่างลงตัว “Royal Osha” ก็เป็นชื่อที่ต้องถูกพูดถึงเสมอ ไม่เพียงเพราะรสชาติที่กลมกล่อม และการตกแต่งจานที่วิจิตรเหมือนงานศิลป์ แต่ยังเพราะมาตรฐานการบริการ และบรรยากาศที่ยกระดับให้มื้ออาหารกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และความสำเร็จนี้ได้รับการยืนยันด้วยการได้รับการแนะนำในมิชลินไกด์ติดต่อกันถึง 7 ปี ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพที่นักชิมทั่วโลกให้ความเชื่อถือ

สำหรับใครที่อยากสัมผัสความหรูหราของร้านอาหารไทย Fine Dining สาทร สไตล์ไทยแท้ใจกลางสาทร พร้อมลิ้มลองเมนูที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ และเทคนิคการปรุงชั้นสูง ก็สามารถแวะมาได้ที่ Royal Osha จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการเดินทางเข้าสู่โลกของ Thai Fine Dining อย่างแท้จริง

fine dining sathorn

1. Royal Osha – ความลงตัวของศิลปะไทย และรสชาติแบบไทยแท้ในโลกของ Fine Dining

“Royal Osha” เป็นร้านอาหารไทย Fine Dining สาทร ที่เกิดจากความตั้งใจที่จะนำอาหารไทยก้าวสู่เวทีโลกในแบบที่ยังคงรากเหง้าของรสชาติ และภูมิปัญญาดั้งเดิมเอาไว้ครบถ้วน แต่เพิ่มความประณีตในทุกองค์ประกอบให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Fine Dining ระดับสากล และจุดเริ่มต้นของร้านมาจากความเชื่อว่าอาหารไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งในด้านรสชาติที่ซับซ้อน ความหลากหลายของวัตถุดิบ และความงดงามของการจัดเสิร์ฟ ที่หากนำเสนออย่างมีศิลปะ และร่วมสมัยก็สามารถสร้างความประทับใจให้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ไม่แพ้ครัวชั้นนำของโลก

โดยเอกลักษณ์ของ Royal Osha คือ การรักษารสชาติแบบไทยแท้ที่เข้มข้น และกลมกล่อม พร้อมปรับสมดุลให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับความเผ็ดจัด หรือรสซับซ้อนเกินไปของอาหารไทย อีกทั้งเมนูยังถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมตามฤดูกาลจากแหล่งที่ดีที่สุดทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้ได้รสชาติ และคุณภาพสูงสุด รวมถึงมีการปรุงผสมผสานเทคนิคไทยดั้งเดิมกับความร่วมสมัย ทำให้ได้อาหารที่ทั้งอร่อย และคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ในทุกจาน

และในด้านการนำเสนอของ Royal Osha ร้านอาหารFine Dining สาทรก็ได้ให้ความสำคัญกับทุกจานเหมือนเป็นผลงานศิลป์ ด้วยการจัดจานอย่างวิจิตรใช้ภาชนะลายไทยประยุกต์ การตกแต่งด้วยดอกไม้สด หรือองค์ประกอบเล็กๆ ที่สื่อถึงความเป็นไทย แต่ยังมีความโมเดิร์นที่เข้ากับรสนิยมของผู้คนในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีบรรยากาศภายในร้านหรูหรา และอบอุ่นด้วยโทนสีทอง และแสงไฟนุ่มนวล ผสมผสานความร่วมสมัยกับความงามของสถาปัตยกรรมไทยได้อย่างลงตัว

นอกจากรสชาติ และบรรยากาศแล้ว การบริการของร้านอาหาร Fine Dining สาทร Royal Osha ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น โดยพนักงานทุกคนผ่านการฝึกฝนให้ดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจ รู้จักอธิบายเมนู และแนะนำการจับคู่เครื่องดื่มที่เหมาะสม เพื่อเสริมรสชาติให้มื้ออาหารสมบูรณ์แบบที่สุด และความพิเศษเหล่านี้ทำให้ Royal Osha ได้รับการยกย่อง และถูกบันทึกในมิชลินไกด์ติดต่อกันหลายปี และทำให้ Royal Osha ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ Thai Fine Dining ที่ทั้งงดงาม หรูหรา และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นไทยอย่างแท้จริง

fine dining sathorn

2. พบกับรีวิวจาก Food Blogger ชื่อดัง พร้อมแนะนำเมนูอร่อยที่เหล่านักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องห้ามพลาด

เมื่อพูดถึง Royal Osha ร้านอาหาร Fine Dining สาทร ที่นอกจากเสียงชื่นชมจากนักชิมทั่วไปแล้ว ยังมีรีวิวจากเหล่า Food Blogger ชื่อดังที่ยืนยันถึงคุณภาพ และเสน่ห์ของร้านอย่างชัดเจน โดยรีวิวเหล่านี้มักเต็มไปด้วยภาพถ่ายอาหารที่สวยงาม การบรรยายรสชาติที่ละเอียดลออ และประสบการณ์ที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากมาลิ้มลอง ดังนั้น ในหัวข้อนี้ทาง Royal Osha จะพาไปดูว่าบรรดา Food Blogger พูดถึง Royal Osha ไว้อย่างไรบ้าง พร้อมทั้งแนะนำเมนูซิกเนเจอร์ที่ได้รับความนิยม และเป็น “เมนูต้องลอง” ของนักชิมอาหารไทยตัวจริง โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!

2.1 เกิดมากิน (Facebook Page)

ได้เห็นฉากหนึ่งใน Series White Lotus ที่มีฉากหลังเป็นภาพรามเกียรติ์ที่วิจิตรงดงาม วันนี้เพชรได้มีโอกาสมาตามรอย และลองชิม กับร้าน Royal Osha ที่ได้ Michelin Guide มาถึง 7 ปีซ้อน และเป็นร้านอาหารไทยแท้สไตล์ Fine Dining ที่มีเมนูอาหารรสชาติครบเครื่อง ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย

✨วันนี้เพชรขอพามาลอง Royal Osha Set menu 

 

8 Course Special Set menu

  • 🍹 Signature drink non alcohal น้ำเสาวรส แต่งกลิ่นด้วยวนิลลาที่เสิร์ฟมาในพรอปชฏาสวยงาม ความเปรี้ยวของเสาวรสตัดกลิ่นด้วยวนิลลา ได้ความกลมกล่อมที่ลงตัว
  • 🥗Starter
    • เมี่ยงคำบัวหลวงฟรัวกราส์ วางมาในกลีบดอกบัวบัวหลวงแทนใบชะพลู รสชาติหวานมันตามสไตล์เมี่ยงคำเพิ่มรสชาติความนัวด้วยฟรัวกราส์
    • ลาบปลาหมึกยักษ์ จากสเปน รสชาติ เผ็ดปลาย เปรี้ยวหวานกลมกล่อมเป็น Strater กระตุ้นลิ้นเปิดต่อมรับรสได้อย่างดี
    • ยำสายบัวล็อบสเตอร์ เนื้อล็อบสเตอร์ทำมาได้ Perfect cook รสชาติเผ็ดเปรี้ยวหวานของน้ำยำบาลานซ์ดี มีการเพิ่มผิวส้มซ่า เพิ่ม Aromatic ชอบใจสายบัวที่หั่นมาเป็นแว่นๆ ชิ้นพอดีคำทำให้มีความกรุบกรอบ และหอมเจียวเพิ่มความกรอบอีกขั้น
    • หอยเชลล์ย่างกับซัลซ่าปลาเค็ม และครีมข้าวโพด หอยเชลล์นำเข้าจาก Hokkaido ย่างที่ความสุก Medium ซัลซ่าปลาเค็มกลิ่นหอมเบาๆ ทานคู่กับครีมข้าวโพดไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
  • 🍲Soup
    • ต้มยำกุ้งแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่นำมาย่างเพิ่มกลิ่นหอม น้ำซุปต้มยำ ใช้การSyphon ดูดขึ้นมาเอากลิ่นจาก ใบมะกรูดตะไคร้มะนาว น้ำซุปเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อมกลิ่นหอม ซดได้เพลินๆ
    • 🥩Main course
      • บะหมี่แกงปูใบยี่หร่า เส้นแบบโซเมนญี่ปุ่น เครื่องแกงจากภาคใต้ มีรสเผ็ดที่หนักแน่นชัดเจนเข้ากับยี่หร่ารสชาติเผ็ดหวานเค็มกำลังงาม ปูก้อนชิ้นพอดีคำ คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันเป็นอันลงตัว
  • ซี่โครงแกะออสเตรเลียย่างกับซอสแกงเขียวหวาน ซอสเขียวหวานเข้มข้น ทานแนมกับมะเขือม่วง มะเขือยา วมะเขือเปราะ และยอดมะพร้าว ปาดซอสทานคู่กับซี่โครงแกะที่ย่างมาได้กำลังดี
    • 🍧Dessert
  • ขนมหม้อแกงหยดน้ำกับกรานิต้าแตงโม ขนมหม้อแกงหยดน้ำที่เสิร์ฟพร้อมซอสเฉาก๊วย กับตีดกับกรานิต้าแตงโมล้างปากได้ความสดชื่นปิดจบได้สมบูรณ์

 

> ดูรีวิว Royal Osha จาก Facebook Page ของ เกิดมากิน เพิ่มเติม คลิก ที่นี่

2.2 พาไปกิน (Facebook Page)

“ตะลุยสำรับข้าวแช่สุดหรู! กับรอยัล โอชา (Royal Osha) จัดหนักต้อนรับหน้าร้อน”

ร้อนนี้มีเมนูเด็ดมาให้คลายร้อนแล้ว! รอยัล โอชา ร้านอาหารไทยเจ้าของรางวัลมิชลิน 7 สมัยซ้อน เปิดตัวสำรับข้าวแช่สุดพิเศษ ชวนให้ทุกคนมาดับร้อนกับอาหารไทยโบราณ ในบรรยากาศสวยหรูแบบซีรีส์ The White Lotus เป๊ะมาก

🍽️ จัดเต็มกับอาหารเรียกน้ำย่อยแบบไม่เหมือนใคร ของว่างนำทาง อร่อยจนต้องยกนิ้ว

ก่อนเข้าถึงไฮไลท์หลัก ทางร้านจัดเตรียมทีเด็ดมาให้ถึง 2 จาน เริ่มจาก “มะม่วงน้ำปลาหวาน” ที่เชฟพลิกโฉมโดยใช้มะม่วงสองพันธุ์ทั้งเขียวเสวย และแก้วขมิ้น ฝานบาง ม้วนสวย ใส่ไส้น้ำปลาหวาน กุ้งเสียบ หอมแดง พริกสด จัดคู่กับ “ม้าฮ่อฝรั่งสีชมพู” ที่แกะสลักสวยงามจนแทบไม่อยากกิน!

แต่เด็ดสุดต้องยก “ยำมะยงชิด” ผลไม้ GI จากนครนายก รสเปรี้ยวหวานลงตัว นำมาคว้านเมล็ด ยัดไส้น้ำยำรสจัดจ้าน โรยหน้าด้วยกุ้งสองแบบ รสชาติเข้มข้นถึงใจสาย “ยำ” ตัวจริง!

✨ 8 เครื่องเคียงสุดแซ่บ ที่ทานแล้วต้องยิ้ม

พระเอกของสำรับ คือ เครื่องเคียงทั้ง 8 อย่างที่ทำให้ข้าวแช่ของรอยัล โอชา แตกต่างจากที่อื่น

  1. ลูกกะปิ เด็ดตรงเทคนิคห่อใบตองย่างไฟ เพิ่มความหอมฉุยแบบที่ไม่เหมือนใคร
  2. หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง เชฟใช้เทคนิคลับเฉพาะตัวผสมไข่แดงให้ปลาแห้งจับตัวไม่ร่วน ทานได้โดยไม่เลอะเทอะ
  3. พริกหยวกสอดไส้ ไม่ธรรมดา! ห่อด้วยเส้นไข่ฝีมือละเอียดที่ทำจากไข่เป็ดผสมไข่ไก่ กลิ้งบนน้ำมันจนรัดตัวพอดี
  4. ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด ใช้ไข่เค็มไชยาเกรดพรีเมียม ชุบแป้งพิเศษทอดจนกรอบนอกนุ่มใน
  5. หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม อัพเกรดหมูฝอยธรรมดาให้พิเศษด้วยการผัดน้ำพริกมะขาม เข้มข้นทุกคำที่ทาน
  6. ปลายี่สนผัดหวาน ปลากระเบนนำมาตำจนนุ่มฟู ผัดจนซึมเข้าเนื้อ ให้รสชาติกลมกล่อม
  7. หัวไชโป๊วผัดหวาน ผัดแบบพิถีพิถันจนเส้นมีความเงางาม เคลือบน้ำตาลปี๊บพอดี
  8. เห็ดหวานทรงเครื่อง นิวคอเมอร์ประจำปีนี้! เพื่อคนรักสุขภาพ และสายแพลนต์เบส ทำจากเห็ดโคนหลวงทอดกรอบเคลือบงา

💧 น้ำแช่ข้าวที่ไม่เหมือนใคร

ใครว่าข้าวแช่ทุกที่เหมือนกันหมด? ที่นี่ใช้น้ำแร่ pH 8.8 แช่ดอกไม้ไทย 4 ชนิด โดยเฉพาะดอกชมนาดที่หายาก ให้กลิ่นหอม “ข้าวใหม่” ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิเสาไห้ และผักแกะสลักสวยงาม

🍧 ปิดท้ายด้วยขนมสุดครีเอท

หลังอิ่มกับสำรับหลัก มาตบท้ายด้วย “กรานิต้าส้มฉุน” ไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนที่ดัดแปลงจากน้ำลอยแก้วไทย เสิร์ฟพร้อมผลไม้นานาชนิด รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น ฟินส์ทุกคำ!

 

> ดูรีวิว Royal Osha จาก Facebook Page ของ พาไปกิน เพิ่มเติม คลิก ที่นี่

2.3 กินใกล้กรุง (Facebook Page)

ชวนตามรอยซีรี่ย์ดัง “The White Lotus” พร้อมมาสัมผัสบรรยากาศ และประสบการณ์การทานข้าวแช่โบราณตามตำรับชาววัง ต้อนรับหน้าร้อนกันที่ “Royal Osha” รับประกันความอร่อยด้วยรางวัล MICHELIN GUIDE ถึง 7 ปีซ้อน…

ในเช็ตเริ่มต้นเสิร์ฟด้วยออเดิร์ฟผลไม้คลายร้อนเรียกน้ำย่อยกับมะม่วงน้ำปลาหวาน ฝรั่งสีชมพูทำเป็นม้าฮ่อ และยำมะยงชิด

ไฮไลท์กับ “ชุดสำรับข้าวแช่” ข้าวแช่มาในน้ำแร่เย็น หอมกรุ่น ลอยดอกไม้ไทยหลากชนิด  เสิร์ฟพร้อมด้วยเครื่องเคียงตามตำรับชาววังถึง 8 อย่างทั้ง ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับและกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน, หัวไชโป๊วผัด และเห็ดหวานทรงเครื่อง

และเมนูปิดท้ายด้วย “กรานิต้าส้มฉุน” ไอศกรีมนํ้าลอยแก้วในรูปแบบกรานิต้า หอมละมุน คลุกเคล้ากับผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวหลายชนิด

ทานอาหารแสนอร่อยแล้วยังได้ดื่มด่ำพร้อมบรรยากาศสวยงามภายในร้าน กับมุมซิกเนเจอร์ของร้าน คือ “ชฎา” สวยงามสีทองสุดหรูเด่นใจกลางร้าน และมุมโต๊ะอาหารสวยๆ ฉากในซี่รี่ย์ The White Lotus ที่ตกแต่งด้วยภาพฝาผนังลายไทยสวยสุดวิจิตรบรรจง ถือเป็นอีกหนึ่งร้านสุดประทับใจที่อยากให้ทุกคนมาลองกันสักครั้งในชีวิต…

 

> ดูรีวิว Royal Osha จาก Facebook Page ของ กินใกล้กรุง เพิ่มเติม คลิก ที่นี่

2.4 TongPaii (Facebook Page)

Royal Osha Bangkok 

Fine Dining อาหารไทยพรีเมียม หนึ่งในโลเคชั่นสุดหรูจากซีรีส์ White Lotus

วันนี้เราขอพาทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษ ที่ Royal Osha Bangkok ร้าน Fine Dining อาหารไทยสุดหรู ที่ถ่ายทอดความประณีตของรสชาติ และศิลปะไทยร่วมสมัยได้อย่างน่าประทับใจ เสน่ห์ใหม่ของอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจนถึงรูปแบบการนำเสนอในสไตล์โมเดิร์นที่ทำให้โดดเด่นจนได้รับรางวัลร้านอาหารไทยที่ได้รับการแนะนำอันดับหนึ่งจากหลากหลายเวทีทั่วโลก บรรยากาศของที่นี่สวยงาม หรูหรา ตามแบบฉบับ Modern Thai Luxury และที่พิเศษสุดๆ คือ Royal Osha Bangkok ยังเป็นหนึ่งในโลเคชั่นของซีรีส์ชื่อดังอย่าง White Lotus ซีซั่นใหม่ ที่เลือกถ่ายทำในประเทศไทยด้วยนะครับ ยิ่งทำให้ที่นี่ดู Exclusive เข้าไปอีก!

สำหรับเมนูที่เราได้ลองความอร่อยสำหรับมื้อพิเศษในครั้งนี้ บอกเลยว่าแต่ละจานคือผสมผสานความพิถีพิถันของวัตถุดิบระดับพรีเมียมเข้ากับรสมือแบบไทยแท้ได้อย่างลงตัวเริ่มที่ Starter กับ “เมี่ยงคำบัวหลวงฟัวกราส์” ที่นำฟัวกราส์มาย่างอย่างพอดี วางบนกลีบบัวสวยๆ เสิร์ฟคู่เครื่องเคียงสมุนไพรไทย ทานคู่กับซอสมะขาม หอมหวาน เปรี้ยว เค็มครบเครื่องในคำเดียว “ลาบปลาหมึกยักษ์” รสแซ่บถึงใจ และ “ยำสายบัวล็อบสเตอร์” ที่ใช้กุ้งล็อบสเตอร์แคนาดาย่างหอมๆ คลุกเคล้ากับสลัดสายบัวสไตล์ไทย และปิดท้ายเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย “หอยเชลล์ย่างซัลซ่าปลาเค็มและครีมข้าวโพด” ที่หอมหวานกลมกล่อมแบบลงตัวสุดๆ

ในส่วนของ Soup มีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “ต้มยำกุ้งแม่น้ำ” ที่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ เคี่ยวกับสมุนไพรสด รสชาติจัดจ้านถึงใจแบบไทยแท้ต่อด้วย Main Course ไฮไลต์ที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด “บะหมี่แกงปูใบยี่หร่า” เส้นบะหมี่นุ่มๆ เสิร์ฟคู่กับเนื้อปูแน่นๆ ในซอสแกงแดงหอมเครื่องเทศ หรือจะเป็น “ซี่โครงแกะออสเตรเลียย่างกับซอสแกงเขียวหวาน” ที่แกะย่างมาได้พอดี เสิร์ฟคู่ผักตามฤดูกาล รสชาติเข้มข้นแบบไทยสไตล์ที่ลงตัวมากๆ

ส่วนของ Dessert ต้องยกให้ “ขนมหม้อแกงหยดน้ำกับกรานิต้าแตงโม” เมนูหม้อแกงเนื้อนุ่มละมุน ทานคู่กับเกล็ดน้ำแข็งแตงโมสดชื่น ตบท้ายมื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่อยากนำเสนอรสชาติ ความเป็นไทยที่มีความหลากหลายมิติ ในทุกรสสัมผัสที่แท้จริง

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ที่ต้องพูดถึง คือ “ข้าวแช่” สูตรเฉพาะของทางร้าน ที่คัดสรรข้าวหอมมะลิเรียงเมล็ดงาม พร้อมเครื่องเคียงไทยโบราณครบชุด เสิร์ฟมาในน้ำอบควันเทียนหอมอ่อนๆ เย็นสดชื่น เป็นอีกหนึ่งจานที่สะท้อนความประณีตแบบฉบับอาหารไทยชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ใครที่อยากสัมผัส Fine Dining อาหารไทยแบบพรีเมียม ที่ครบทั้งบรรยากาศ รสชาติ และดีเทลสุดเนี้ยบทุกจาน ลองแวะมา Royal Osha Bangkok ดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง อยากให้มาสัมผัส และดื่มด่ำมนต์เสน่ห์ที่สุดประทับใจที่รอยัล โอชา ด้วยตัวเองสักครั้ง

 

> ดูรีวิว Royal Osha จาก Facebook Page ของ TongPaii เพิ่มเติม คลิก ที่นี่

2.5 สวัสดีคนแปลกหน้า (Facebook Page)

วันนี้จะพาทุกคนมาทานอาหารไทยสุดพรีเมียม ต้อนรับคิมหันต์ฤดู ด้วยเมนูข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา จากร้าน “Royal Osha Bangkok” เจ้าของรางวัลมิชลินไกด์ 7 ปีซ้อน โดยเชฟวิชิต มุกุระ Executive Chef รังสรรค์เมนูข้าวแช่จากวัตถุดิบชั้นเลิศทั้ง 7 อย่างตามตำรับชาววัง พร้อมเครื่องเคียงพิเศษอย่างที่ 8 ในปีนี้ นั่นก็คือ “เห็ดหวานทรงเครื่อง” สำหรับเป็นทางเลือกของคนรักการทานอาหารแพลนต์เบส บอกได้คำเดียวเลยว่า เป็นมื้อพิเศษที่อบอวนไปด้วยความสดชื่น ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในร้านที่มีความเป็นไทยโมเดิร์น หรูหรา พร้อมสัมผัสกับรสชาติอาหารไทยรสจัดจ้านและคลายร้อน เริ่มต้นเมนูกันด้วย

  • มะม่วงนํ้าปลาหวาน และม้าฮ่อ จับคู่อาหารเรียกนํ้าย่อยมาในขนาดพอดีคำ ตัวมะม่วงน้ำปลาหวานมีความเปรี้ยวมัน ด้านในมีกุ้งเสียบ หอมแด งและพริกสด ส่วนม้าฮ่อจะมีไส้รสหวานเค็มทานคู่กับฝรั่งสีชมพู
  • ยำมะยงชิด รสชาติเปรี้ยวฉํ่า หอมนํ้าปลาหวาน นำมะยงชิดที่คัดสรรมาอย่างดี มาสอดใส้นํ้ายำรสชาติจัดจ้าน มีพริก หอมแดงซอย โรยหน้าด้วยกุ้งเสียบ และกุ้งแห้งป่น 
  • ข้าวแช่ตำรับชาววัง รอยัล โอชา พร้อมเครื่องเคียง 8 อย่าง ข้าวแช่ตำรับชาววัง มีกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้ที่ลอยในนํ้าแร่ค่า pH 8.8 และแช่ข้ามคืน จนได้กลิ่นที่หอม เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิเสาไห้ในนํ้าลอยดอกไม้
  • ลูกกะปิ หัวใจสำคัญของข้าวแช่ ปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ ทานคู่กับกระชาย และดอกจำปี
  • หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง ทานคู่กับแตงกวา และต้นหอมม้วน 
  • พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง ทานคู่กับแตงกวา และมะม่วง
  • ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มหนึบ ทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยว และต้นหอมม้วน
  • หมูฝอยผัดนํ้าพริกมะขาม รสชาติเข้มข้น ทานคู่กับแตงกวา
  • ปลายี่สนผัดหวาน ทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยว
  • หัวไชโป๊วผัดหวาน ทานคู่กับแตงกวา และต้นหอมม้วน
  • เห็ดหวานทรงเครื่อง เครื่องเคียงพิเศษสำหรับปีนี้ ทำจากเห็ดโคนหลวง กลิ่นหอม มีรสชาติหวาน กรอบ
  • กรานิต้าส้มฉุน ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน รสชาติหวานอมเปรี้ยว ทานแล้วสดชื่น

นอกจากนี้ ยังมีข้าวแช่ในรูปแบบ Take away มาในกล่องของขวัญดีไซน์สวยงาม คล้ายปิ่นโตทรงเหลี่ยมสีทอง สำหรับใครที่ต้องการมอบความพิเศษให้กับคนสำคัญอีกด้วย

 

> ดูรีวิว Royal Osha จาก Facebook Page ของ สวัสดีคนแปลกหน้า เพิ่มเติม คลิก ที่นี่

fine dining sathorn

3. สัมผัสความหรูหราสไตล์ไทยแท้ที่ Royal Osha ร้านอาหารไทย Fine Dining สาทรก่อนใคร สำรองที่นั่งได้เลย ที่นี่!

สำหรับนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย และกำลังมองหาร้านอาหารไทย Fine Dining สาทร ที่มีเมนูอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็สามารถแวะมาได้ที่ “Royal Osha” หนึ่งในร้านอาหารไทย Fine Dining สาทรที่รังสรรค์ทุกเมนูจากเชฟอาหารไทยฝีมือระดับปรมาจารย์แนวหน้าของเมืองไทย ที่ได้ปรุงแต่งทุกเมนูอาหารไทยขึ้นมาด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล และพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อถ่ายทอดความเป็นไทยไว้ในทุกสัมผัสให้นักชิมได้ลิ้มลอง มีบรรยากาศภายในร้านที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยม และมีเมนูให้เลือกทั้งแบบ A La Carte และ Set Menu ทำให้สามารถตอบโจทย์สไตล์การรับประทานอาหารของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้ง่าย โดยมีที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ดังนั้น นักชิมที่อยากจะแวะมาลิ้มลองรสชาติอาหารไทยที่ร้านอาหารไทย Fine Dining สาทรอย่าง Royal Osha สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha