รีวิว Royal Osha – หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพ ที่สาย Fine Dining ห้ามพลาด

ถ้าหากนักชิมคนไหนกำลังมองหาร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่จะช่วยมอบประสบการณ์มื้ออาหารสุดประทับใจ ต้องห้ามพลาด “Royal Osha” หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย มาพร้อมกับการนำเสนออาหารไทยร่วมสมัยที่ผสมผสานศิลปะการจัดจานกับรสชาติต้นตำรับได้อย่างลงตัว ทุกจานผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง และการรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันจากเชฟมือทองจากวงการอาหารไทยแท้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศแบบไทยๆ ด้วยการการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของวัฒนธรรมไทย ผสานกลิ่นอายร่วมสมัย ทำให้เหมาะกับการแวะเวียนมาลิ้มลองได้ในทุกโอกาส และยังสามารถแวะเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงรอบๆ ได้อีกหลายแห่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งสวน ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นสามารถติดตามกันในบทความนี้ได้เลย!

 1. ทำไม Royal Osha ถึงเป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพ?

สำหรับหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพอย่าง Royal Osha นั้นมีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้นักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องแวะมาลิ้มลองสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหาร บรรยากาศ หรือการคัดสรรวัตถุดิบ ดังนี้

1.1 ประวัติความเป็นมาของ Royal Osha

“Royal Osha” เป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพที่เกิดจาก “เชฟวิชิต มุกุระ” เชฟอาหารไทยมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่เป็น Executive Chef ประจำ Royal Osha ที่มีความเชี่ยวชาญในการปรุงแต่ง และรังสรรค์อาหารไทย และอยู่ในวงการอาหารไทยมานานกว่า 40 ปี ได้มีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านทางอาหารไทยภายใต้แนวคิด “อาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นๆ” จึงได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานมาร่วมมือกันสร้าง Royal Osha กับคุณศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล และคุณเกวลิน พิทยานุกุล เพื่อให้นักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้สัมผัสถึงอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรส ครงองค์ประกอบ และมีสีสันสวยงาม ตามแบบฉบับต้นตำรับอาหารไทย พร้อมกับผสมผสานการใช้สมุนไพรพื้นบ้านที่ให้ความอร่อย และช่วยบำรุงร่างกายภายในเวลาเดียวกัน และด้วยความมุ่งมั่นในการถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยลงไปในอาหารทุกจาน ที่มีทั้งความอร่อย สะอาด สดใหม่ แปลกใหม่ มีให้เลือกรับประทานหลากหลายแบบ และมีราคาที่นักชิมสามารถเข้าถึงได้ จึงทำให้ Royal Osha เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพที่สามารถตอบโจทย์ และเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยใหม่ๆ ในทุกโอกาสให้กับชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Story ของ Royal Osha

1.2 การเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล

สำหรับที่ Royal Osha ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพนั้นจะมีการรังสรรค์ และปรุงแต่งด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการคัดเลือกวัตถุดิบ และการปรุงแต่งอาหารตามแบบฉบับอาหารไทยแท้ของ Royal Osha โดยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลนั้นเกิดจากการที่เชฟวิชิต มุกุระ มีแนวคิดที่ว่า “Classic Thai Elegance Reinvented” ที่ต้องการถ่ายทอดวัฒนธรรม เรื่องราว วิถีชีวิต และการกิน อยู่ อาศัยของชาวไทย จึงได้นำวัตถุดิบในแต่ละฤดูกาลที่ชาวไทยนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารมานิยามใหม่ให้เป็นสไตล์โมเดิร์นผสมผสานเข้ากันกับสุนทรียศาสตร์ของรูป รส และกลิ่นของอาหารไทย พร้อมกับผสมผสานการใช้สมุนไพรไทยภายใต้แนวคิด “อาหารเป็นยา” ที่มีการนำพืช ผัก และสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยามาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร ที่ตรงกับศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี จึงทำให้วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการปรุงแต่งอาหารไทยแท้แต่ละเมนูของ Royal Osha นั้นมีความสด ใหม่ สะอาด และปลอดภัย อีกทั้งในแต่ละเมนูยังมีการปรุงแต่งให้มีรสชาติครบ 7 รส ได้แก่ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็ม รสขม รสปร่า รสมัน และรสฝาด ที่ถือว่าเป็นรสชาติตามแบบฉบับอาหารไทยโบราณ และด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลนั้นจึงส่งผลให้เมนูอาหารของ Royal Osha นั้นมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล มีความแปลกใหม่ ให้นักชิมได้แวะเวียนมารับประทานกันได้ตลอดทั้งปี แต่ยังคงความอร่อย และมีคุณประโยชน์ตามแบบต้นตำรับอาหารไทย

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Chef ของ Royal Osha

1.3 บรรยากาศ และการตกแต่งแบบไทย

สำหรับบรรยากาศ และการตกแต่งภายในร้านของ Royal Osha นั้นจะเป็นแบบไทยๆ ที่มีการตกแต่งภายในห้องอาหารให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยในทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ประตูทางเข้า บริเวณเพดาน และผนัง ที่มีการออกแบบที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยในสไตล์วิจิตรโมเดิร์น ด้วยการเลือกใช้สถาปัตยกรรมโทนสีเข้มตัดกับสีทองจากทองคำบริสุทธิ์แท้ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยไว้ในทุกรายละเอียด มีจิตกรรมฝาผนังบริเวณชั้นลอยที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีไทยอมตะอย่าง “รามเกียรติ์” และมีการนำภาพจิตกรรมจากรามเกียรติ์ ตอนหนุมานอมพลับพลามาฉายในบริเวณประตูทางเข้าภายนอกในช่วงเวลากลางคืน และภายในห้องอาหารของ Royal Osha นั้นมีโคมแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ประดับอัญมณีส่องประกายระยิบระยับ ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของห้องอาหาร นอกจากนั้นก็ยังมีการเลือกใช้โต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม ช้อนส้อม เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีลักษณะ และสีสันที่มีความเป็นไทยที่เข้ากันกับการตกแต่งภายในร้านที่ล้วนแต่ผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี ทำให้นักชิมสามารถเพลิดเพลินกับอาหารไทยสไตล์ Fine Dining และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เหมือนกับนักชิมกำลังเข้ามาเยี่ยมชมพลับพลาของพระรามที่มีบรรยากาศ และกลิ่นอายของพระราชวังสมัยโบราณ ที่ช่วยสร้างความประทับใจได้ในเวลาเดียวกัน

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Home ของ Royal Osha

2. เมนูแนะนำของ Royal Osha ร้านอาหารไทยดีที่สุดในกรุงเทพที่ควรลอง

best Thai restaurant Bangkok

สำหรับเมนูของ Royal Osha ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพนั้นก็มีให้นักชิมได้เลือกลิ้มลองกันอย่างหลากหลาย แต่ว่าเมนูแนะนำที่นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติแวะเวียนมาแล้วต้องห้ามพลาด มีดังนี้

    • ข้าวแช่ชาววัง ต้นตำรับรอยัล โอชา ถือว่าเป็นเมนู Signature ของ Royal Osha ที่นำข้าวหอมมะลิเสาไห้ชั้นดีลอยในน้ำดอกไม้ไทย และเลือกใช้น้ำแร่ที่มีค่า pH 8.8 ในการแช่ข้ามคืน เพื่อช่วยสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาด ทำให้มีกลิ่นน้ำลอยดอกไม้ไทยที่มีความหอมคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย มาพร้อมกับเครื่องเคียง 7 อย่างตามแบบฉบับของข้าวแช่ชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน เสิร์ฟคู่กับเครื่องแนมที่เป็นผัก และผลไม้ ที่ผ่านการแกะสลักมาอย่างประณีต อย่างเช่น กระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก เป็นต้น 
  •  
    • ขนมจีนน้ำยาภูเก็ตกับล็อบสเตอร์ย่าง เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่อยู่ใน Seasonal Menu Set โดยเมนูนี้ประกอบด้วยเส้นขนมจีนเหนียวนุ่มกำลังดี ตัดด้วยน้ำยาภูเก็ตที่มีความกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับล็อบสเตอร์ย่างที่มีเนื้อหวาน แน่น ตัวใหญ่ เมื่อรับประทานคู่กันกับขนมจีน และน้ำยาเข้ากันได้อย่างลงตัว
  •  
    • ต้มโคล้งเนื้อปูม้า เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha ที่อยู่ใน Seasonal Menu Set โดยเมนูนี้ประกอบด้วยซุปต้มโคล้งใสที่มีความหอม และจัดจ้าน มาพร้อมกับเนื้อปูม้าชิ้นโต คำใหญ่ เนื้อหวาน และแน่น รับประทานคู่กันแล้วจะได้รสชาติที่ตัดกันแบบกลมกล่อม
  •  
    • หลนเนื้อปูกับตะไคร้ เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha แบบ A Lar Carte โดยจะเป็นประเภทเครื่องจิ้มที่ได้รับความนิยมในสมัยโบราณ ประกอบด้วยเนื้อปูม้าก้อนใหญ่ มีขนาดชิ้นโต เต็มคำ นำมาปรุงกับกะทิที่เคี่ยวหอม และเข้มข้น ผสมผสานเข้ากันกับสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่ทำให้ได้รสชาติที่มีความหอมหวาน มัน จากกะทิ และมีความเค็ม และมีความเปรี้ยวจากสมุนไพร เสิร์ฟคู่กับสายบัว ขมิ้นขาว และมะเขือ ที่เป็นเครื่องเคียงกรุบกรอบที่นิยมรับประทานตั้งแต่สมัยโบราณ
  •  
    • หอยเชลล์ผัดน้ำพริกเผา เป็นเมนูแนะนำของ Royal Osha แบบ A Lar Carte โดยเมนูนี้ประกอบด้วยหอยเชลล์ฮอกไกโด ที่ผ่านการปรุงสุกด้วยการผัดในน้ำพริกเผาชั้นดีตามสไตล์ Royal Osha ที่มีความเผ็ด และหวานกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับใบกะเพราที่เพิ่มความหอมชวนหิว ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับข้าวสวย หรือรับประทานเล่นก็อร่อยลงตัว

นอกจากเมนูแนะนำที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทาง Royal Osha ก็ยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้นักชิมได้เลือกกันอย่างหลากหลาย รวมถึงใน Set Menu ของแต่ละฤดูกาล ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีวางจำหน่ายในบ้างช่วงเท่านั้น ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะลิ้มลองเมนูต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามการอัปเดตได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

3. Royal Osha ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพเหมาะกับใคร และโอกาสไหนบ้าง?

best Thai restaurant Bangkok

สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารไทยที่สามารถตอบโจทย์ได้ในหลากหลายโอกาส ต้องห้ามพลาด “Royal Osha” หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพที่เหมาะกับแต่ละโอกาส ดังนี้

  • คู่รักที่ต้องการฉลองวันครบรอบด้วยบรรยากาศหรูหรา และโรแมนติก มาพร้อมกับบริการ และอาหารแสนอร่อย ช่วยทำให้ช่วงเวลานี้พิเศษมากยิ่งขึ้น และการได้ทานอาหารไทยต้นตำรับที่ปรุงอย่างประณีต และมีการเล่าเรื่องผ่านแต่ละจาน ยังช่วยให้บทสนทนาในมื้ออาหารมีความหมายมากขึ้น อีกทั้งถ้าหากทำการจองโต๊ะล่วงหน้า เลือกมุมส่วนตัว หรือขอจัดเซอร์ไพรส์เล็กๆ อย่างดอกไม้ หรือของขวัญ ก็จะช่วยทำให้ค่ำคืนนั้นกลายเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม
  • นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยากลองอาหารไทยแบบใหม่ๆ สำหรับร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพอย่าง Royal Osha นั้นเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมไทยผ่านอาหารที่มีความแตกต่างจากสตรีทฟู้ด หรืออาหารจานด่วนทั่วไป เพราะว่าอาหารไทยแบบ Fine Dining นำเสนอรสชาติไทยแบบดั้งเดิมในรูปแบบที่ประณีต ทั้งรสชาติ การจัดจาน และการเล่าเรื่องที่ซ่อนอยู่ในแต่ละเมนู ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้รู้จักวัตถุดิบท้องถิ่นไทย วิธีการปรุงแบบโบราณ ไปจนถึงวัฒนธรรมการกินของคนไทยในอดีต ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และเหมาะกับการเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหารไทย ไม่ใช่แค่เพียงความอร่อย แต่ยังเป็นศิลปะ และวัฒนธรรมที่จับต้องได้
  • นักธุรกิจที่ต้องการเลี้ยงลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารไทยแบบ Fine Dining นั้นเหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่ในการเลี้ยงรับรองลูกค้า หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพราะว่าเป็นที่ที่มีการบริการที่มืออาชีพ บรรยากาศที่เงียบ สุภาพ และเมนูอาหารที่แสดงถึงวัฒนธรรมไทยอย่างมีรสนิยม ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้เจ้าภาพดูใส่ใจ และมีระดับ อีกทั้งยังเอื้อให้เกิดการพูดคุยในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่าการประชุมทางการด้วย
  • คนรักอาหารที่ชื่นชอบประสบการณ์การกินแบบมีศิลปะ สำหรับนักชิมที่ไม่ได้กินแค่อิ่ม แต่ชื่นชอบประสบการณ์การกินแบบมีศิลปะ ควรแวะมาที่ Royal Osha สักครั้ง เพราะว่าที่นี่จะให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของมื้ออาหาร ตั้งแต่วัตถุดิบ คุณภาพ รสชาติ การจัดจาน ไปจนถึงการจับคู่อาหารกับไวน์ หรือการเล่าเรื่องของอาหารแต่ละจานเหมือนกับนิทรรศการศิลปะ จึงเหมาะสำหรับนักชิมที่มีความละเอียดอ่อน และต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างจากร้านทั่วไป
  • คนไทยที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่กับอาหารไทย ถึงแม้จะเป็นคนไทยที่คุ้นเคยกับอาหารไทยทุกวัน แต่การได้ลองอาหารไทยในรูปแบบ Fine Dining จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับอาหารไทยมากขึ้น ทั้งเรื่องรสชาติที่ซับซ้อนขึ้น การนำเสนอที่สวยงาม หรือเทคนิคการปรุงที่แตกต่าง เช่น การตีความเมนูโบราณให้ร่วมสมัย หรือการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นหายาก การได้สัมผัสกับอาหารไทยผ่านการตีความของเชฟฝีมือเยี่ยม ถือเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมอาหารของไทยในอีกระดับหนึ่งด้วย

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Home ของ Royal Osha

 

4. แนะนำสถานที่เที่ยวใกล้เคียง Royal Osha ร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพ

best Thai restaurant Bangkok

สำหรับนักชิมคนไหนที่มีโอกาสแวะเวียนมาดื่มด่ำกับประสบการณ์อาหารไทยแบบ Fine Dining ที่ Royal Osha แล้ว ในบริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางได้ง่าย ใกล้ สะดวก ที่สามารถแวะก่อน หรือหลังรับประทานอาหารที่ Royal Osha ได้

  • สะพาน​เขียว​ สวนลุมพินี-ส​วนเบญจกิติ (ฝั่งลุมพินี) เป็นทางเดินยกระดับที่เชื่อมสวนลุมพินีกับสวนเบญจกิติ (ฝั่งลุมพินี) ที่อยู่ห่างจาก Royal Osha เพียงประมาณ 100 เมตร โดยมีจุดเด่นตรงที่โครงสร้างไม้ และเหล็กระแนงสีเขียวที่กลมกลืนกับธรรมชาติ มีทางเดิน และทางปั่นจักรยานสองฝั่ง พร้อมม้านั่ง และปลายสะพานที่มองเห็นวิวตึกสูงของกรุงเทพฯ ได้ชัดเจน ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบเดินเล่น ถ่ายรูป หรือหยุดพักผ่อนก่อนจะเข้าสู่สวนลุมพินี

 

  • สวนลุมพินี เป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ห่างจากร้านเพียง 300–400 เมตร หรือเดินประมาณ 3–5 นาที โดยภายในสวนลุมพินีนั้นจะมีทะเลสาบให้เช่าเรือเป็ดไว้ปั่นเล่น มีลำธารกลางสวน มีพื้นที่ไว้ให้นั่งเล่นทุกมุม เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน หรือจะเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ และเดินย่อยอาหารแบบเพลินๆ ก็ได้ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกายอีกด้วย

 

  • หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Art and Culture Centre เป็นศูนย์ศิลปะร่วมสมัยบนถนนพระราม 1 เดินทางจาก Royal Osha โดย BTS ลงที่สถานี National Stadium และใช้เวลาเดินประมาณ 5-7 นาที และภายในมีนิทรรศการหมุนเวียน งานศิลป์ ออกแบบ บันทึกเสียง และการแสดงศิลปะการแสดงหลากหลายรูปแบบ เช่น ดนตรี ชีวิตประจำวัน เต้น หรือหนังสั้น เปิดทุกวันอังคาร–อาทิตย์ เวลา 10:00–20:00 น. และไม่เสียค่าเข้าชม

 

  • บ้านปาร์คนายเลิศ เป็นพิพิธภัณฑ์ และบ้านไม้โบราณของตระกูลนายเลิศ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1915 ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ห่างจากร้านไม่เกิน 5 นาที หรือเดินประมาณ 400 เมตร และภายในเป็นบ้านไม้โบราณล้อมรอบด้วยสวนร่มรื่นกว่า 14 ไร่ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมไทยในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่นี่จะมีการจัดกิจกรรมแนะนำประวัติศาสตร์ และจัดนิทรรศการเล็กๆ ส่วนใหญ่เข้าชมฟรี และบางรอบอาจมีค่าใช้จ่าย

 

  • วัดปทุมวนาราม เป็นวัดเก่าแก่ใจกลางเมือง สร้างโดยรัชกาลที่ 4 มีความสงบร่มรื่น ถึงแม้อยู่ท่ามกลางย่านช้อปปิ้งสุดคึกคักอย่างสยาม และชิดลม ภายในวัดมีโบสถ์เก่า ศาลาไม้แบบไทย และพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากใช้เวลาสงบจิตใจ หรือไหว้พระเสริมสิริมงคล อีกทั้งยังสามารถเดินชมจิตรกรรมฝาผนัง และสถาปัตยกรรมโบราณได้ ห่างจาก Royal Osha ประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที ก็ถึง เหมาะสำหรับแวะก่อน หรือหลังมื้ออาหารแบบสบายๆ

5. ช่องทางการติดต่อ หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้ากับ Royal Osha

best Thai restaurant Bangkok

สำหรับนักชิมชาวไทย และชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย และกำลังมองหาร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพที่มีเมนูอาหารไทยที่มีความครบเครื่อง ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็สามารถแวะมาได้ที่ “Royal Osha” หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพที่รังสรรค์ทุกเมนูจากเชฟอาหารไทยฝีมือระดับปรมาจารย์แนวหน้าของเมืองไทย ที่ได้ปรุงแต่งทุกเมนูอาหารไทยขึ้นมาด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาล และพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อถ่ายทอดความเป็นไทยไว้ในทุกสัมผัสให้นักชิมได้ลิ้มลอง มีบรรยากาศภายในร้านที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยม และมีเมนูให้เลือกทั้งแบบ A La Carte และ Set Menu ทำให้สามารถตอบโจทย์สไตล์การรับประทานอาหารของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการรับประทานในทุกโอกาส ดังนั้น นักชิมที่อยากจะแวะมาลิ้มลองรสชาติอาหารไทยที่หนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพอย่าง Royal Osha สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha