เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ข้าวแช่ชาววัง” เมนูอาหารไทยสไตล์ชาววังแห่งฤดูร้อน

ข้าวแช่” คือ เมนูอาหารไทยโบราณที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างมาก เพราะว่าการรับประทานเมนูข้าวแช่ชาววังที่มีความหอม ชื่นใจ เย็นสดชื่น ที่สามารถช่วยคลายร้อน หรือดับร้อนได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ความอิ่มอร่อยในเวลาเดียวกัน จึงทำให้การรับประทานข้าวแช่ชาววังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการดับร้อน และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายจากภายในสู่ภายนอกได้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะเป็นทางเลือกในการคลายร้อนที่ใช้กันตั้งแต่สมัยก่อน แต่ในปัจจุบันนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Royal Osha จึงจะพานักชิมไปทำความรู้จักกับ “ข้าวแช่ชาววัง” ว่ามีจุดเริ่มต้น หรือประวัติความเป็นมาอย่างไร มีเครื่องเคียงอะไรบ้าง และมีวิธีการรับประทานข้าวแช่ที่ถูกต้องอย่างไร พร้อมแนะนำเมนูข้าวแช่ชาววัง ต้นตำรับรอยัล โอชา ที่รังสรรค์จากฝีมือของเชฟอาหารไทยมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่นักชิมที่ชื่นชอบข้าวแช่ชาววัง หรือชื่นชอบอาหารไทยต้องห้ามพลาด เพื่อเปิดประสบการณ์ในการรับประทานข้าวแช่ชาววังไทยโบราณแท้ และอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาให้มื้ออาหารของนักชิมมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด

 

1. จุดเริ่มต้นของ “ข้าวแช่ชาววัง” เมนูอาหารไทยโบราณคลายร้อนจากชาวมอญ

Khao Chae

ข้าวแช่” คือ ข้าวหุงสุกที่ผ่านการแช่ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ที่จะต้องทำการรับประทานคู่กันกับเครื่องเคียง และเครื่องแนม เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความหอม สดชื่น และกลมกล่อม ที่ถือว่าเป็นเมนูช่วยดับร้อนที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน โดยจุดเริ่มต้นของข้าวแช่ชาววังนั้นมาจากการได้รับอิทธิพลจากชาวมอญในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อใช้ในการเซ่นไหว้ และประกอบพิธีบูชาเทวดา เพื่อทำการขอพรให้มีทายาทสืบสกุลในวันมหาสงกรานต์ของชาวมอญ โดยจะนิยมรับประทานกันในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ที่เป็นช่วงฤดูร้อน และเป็นช่วงที่ตรงกับประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญ ซึ่งในภาษามอญเรียกข้าวแช่ว่า “เปิงด้าจก์” มาจากคำว่า เปิง แปลว่า ข้าว และ ด้าจก์ แปลว่า น้ำ ซึ่งในช่วงแรกที่ได้รับความนิยมนั้นชาวบ้าน หรือสามัญชนธรรมดาจะไม่สามารถรับประทานได้ เพราะถือว่าเป็นอาหารชาววัง และรับประทานได้เฉพาะเชื้อเจ้า หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้น เพราะว่าในช่วงรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น (เจ้าจอมเชื้อสายมอญทางเจ้าพระยามหาโยธา หรือเจ่ง คชเสนี) ที่เป็นพระสนมเอกในรัชกาลที่ 4 ได้นำข้าวแช่ชาววังขึ้นถวายเป็นเครื่องต้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้เมนูข้าวแช่ชาววังเป็นที่นิยมในวัง และเมื่อเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นติดตามไปถวายงานพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี ก็ได้ทำการถ่ายทอดการทำข้าวแช่ชาววังไปยังห้องเครื่อง และหลังจากนั้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ที่เป็นข้าหลวงประจำห้องเครื่องในช่วงสมัยนั้น ก็ได้ทำการเผยแพร่ข้าวแช่ชาววังจากห้องเครื่องก็ได้ไปสู่ชาวเมืองเพชรบุรี ทำให้ข้าวแช่ชาววังที่เป็นอาหารชาววัง ก็ได้กลายเป็นอาหารที่สู่สาธารณชน และได้รับความนิยมจนถึงในปัจจุบัน

2. เครื่องเคียงข้าวแช่ชาววัง และวิธีการรับประทานข้าวแช่ที่ถูกต้อง

การรับประทานข้าวแช่ชาววังนั้นจะต้องทำการรับประทานคู่กับเครื่องเคียง และเครื่องแนม เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสกับข้าวแช่ชาววังที่มีรสชาติอร่อย กลมกล่อม หอมเย็นชื่นใจตามสไตล์อาหารไทยโบราณ โดยเครื่องเคียงของข้าวแช่ชาววังก็จะมีให้นักชิมได้เลือกรับประทานหลากหลายอย่าง มีทั้งเครื่องเคียงคาวหวาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีประมาณ 6-7 อย่าง ดังนี้

  • ลูกกะปิ
  • หมูฝอย
  • หอมแดงสอดไส้
  • พริกหยวกสอดไส้
  • ไชโป๊วผัดหวาน
  • ลูกไข่เค็ม

นอกจากนั้นอาจจะยังมีเครื่องเคียง หรือเครื่องแนมอื่นๆ เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร และมักจะมาพร้อมกับเครื่องแนมที่เป็นผัก และผลไม้แกะสลัก เช่น มะม่วงเปรี้ยว แตงกวา พริกชี้ฟ้า ต้นหอม ดอกกระชาย หรือมันแกว เป็นต้น

โดยการรับประทานข้าวแช่ชาววังนั้นก็จะต้องมีวิธีการรับประทานที่ถูกต้อง เพื่อให้นักชิมสามารถสัมผัสถึงความอร่อยตามสไตล์ไทยโบราณได้อย่างถูกต้อง โดยวิธีในการรับประทานข้าวแช่ มีดังนี้

  • รับประทานเครื่องเคียงคาว เริ่มจากการรับประทานเครื่องเคียงที่เป็นของคาว เช่น ลูกกะปิ หอมแดงสอดไส้ หรอกหยวกสอดไส้ หรือลูกไข่เค็ม
  • รับประทานข้าวแช่ เมื่อรับประทานเครื่องเคียงคาวแล้ว ให้สลับมารับประทานข้าวแช่ชาววัง เพื่อให้รสชาติของเครื่องเคียงคาวนั้นผสมผสานเข้ากันกับความสดชื่นของข้าวแช่ได้อย่างลงตัว และกลมกล่อม
  • รับประทานเครื่องเคียงหวาน หลังจากล้างปากจากเครื่องเคียงคาวด้วยข้าวแช่แล้ว ให้นักชิมสลับมารับประทานเครื่องเคียงหวาน เช่น หมูฝอย หรือไชโป๊วผัดหวาน และเมื่อรับประทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถรับประทานข้าวแช่ต่อได้เลย
  • รับประทานเครื่องแนม เมื่อรับประทานเครื่องเคียงคาวหวาน และข้าวแช่ชาววังแล้ว ก็สามารถรับประทานเครื่องแนมที่เป็นผัก หรือผลไม้ เพื่อช่วยให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม และล้างปากได้เป็นอย่างดี


ทั้งนี้ ขั้นตอนที่สำคัญในการรับประทานข้าวแช่ คือ ไม่ควรทำการตักเครื่องเคียงใส่ลงในข้าวแช่ชาววัง เพราะจะทำให้กลิ่นหอมของข้าวแช่ชาววังหายไป และจะทำให้รสชาติของเครื่องเคียง ทั้วคาว และหวานปะปนอยู่ในข้าวแช่ชาววัง และส่งผลให้นักชิมไม่สามารถรับรู้รสชาติที่แท้จริงของข้าวแช่ชาววัง และเครื่องเคียงแต่ละชนิดได้อย่างเต็มที่

3. ทำไมข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชาถึงเป็นที่นิยมของนักชิม?

Khao Chae

สำหรับเมนูข้าวแช่ชาววัง ต้นตำรับรอยัล โอชา ถือว่าเป็นเมนู Signature ของ Royal Osha ที่ไม่ว่านักชิมชาวไทย หรือชาวต่างชาติก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะว่าเมนูข้าวแช่ คือ หนึ่งในเมนูต้นตำรับรอยัล โอชาที่ผ่านการรังสรรค์มาเป็นอย่างดี จากเชฟอาหารไทยมือทองระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่เป็น Executive Chef แห่ง Royal Osha ที่มีประสบการณ์การทำงานในแวดวงอาหารไทยมามากกว่า 40 ปี ด้วยการนำข้าวหอมมะลิเสาไห้ชั้นดีลอยในน้ำดอกไม้ไทย ที่มีการเลือกใช้น้ำแร่ที่มีค่า pH 8.8 ในการแช่ข้ามคืน เพื่อช่วยสกัดกลิ่นหอมของดอกชมนาดได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้ข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชานั้นมีกลิ่นน้ำลอยดอกไม้ไทยที่มีความหอมคล้ายคลึงกับดอกมะลิ และใบเตย มาพร้อมกับเครื่องเคียง 7 อย่างตามแบบฉบับของข้าวแช่ชาววัง ที่ผ่านการปรุงรส และสร้างสรรค์มาอย่างประณีตตามตำรับของ Royal Osha จนได้เครื่องเคียงที่มีรสชาติที่มีอร่อย กลมกล่อม ตามแบบฉบับของข้าวแช่ชาววังไทยโบราณ แต่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Royal Osha โดยเครื่องเคียงของข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา ทั้ง 7 อย่าง มีดังนี้

  • ลูกกะปิ
  • หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง
  • พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง
  • ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด
  • หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม
  • ปลายี่สนผัดหวาน
  • หัวไชโป๊วผัดหวาน 

 

โดยในทุกเมนูเครื่องเคียงนั้นรังสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ได้ทำการเลือกสรรมาเป็นอย่างดี และพิถีพิถัน สะอาด สดใหม่ ปลอดภัย เสิร์ฟคู่กับเครื่องแนมที่เป็นผัก และผลไม้ ที่ผ่านการแกะสลักมาอย่างประณีต อย่างเช่น กระชายแกะสลักดอกจำปี ต้นหอมม้วน มะม่วงเปรี้ยว และแตงกวาแกะสลัก เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับรสชาติของข้าวแช่ชาววังตามสไตล์ไทยโบราณได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของเมนูข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา ที่มีความหอม อร่อย สดชื่น กลมกล่อม ตรงตามตำรับข้าวแช่ไทยโบราณ จึงทำให้นักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติตั้งตารอการกลับมาของเมนูนี้ในทุกๆ ปีนั่นเอง

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

4. ข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา เลือกรับประทานได้ตามสไตล์ของนักชิม

การรับประทานข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา มีให้นักชิมได้เลือกรับประทาน 2 แบบ ได้แก่ แบบ Dine in หรือรับประทานที่ร้าน และ Set Take Away สำหรับการรับประทานที่บ้าน หรือซื้อเป็นของขวัญ ของฝาก เพื่อให้นักชิมได้เลือกรับประทานตามความสะดวกของตัวเอง โดยรายละเอียดของการรับประทานข้าวแช่ชาววังแต่ละรูปแบบ มีดังนี้

  • Dine in เป็นการรับประทานข้าวแช่ชาววังที่ภายในสำรับจะประกอบด้วยข้าวแช่ เครื่องเคียง 7 อย่าง 1 สำรับ ของว่าง 2 อย่าง และลอยแก้ว ที่เหมาะกับการรับประทาน 1 คน และมีราคาอยู่ที่ 1,250 บาท
  • Take Away เป็นการรับประทานข้าวแช่ชาววังที่ภายในสำรับจะประกอบด้วยข้าวแช่ และเครื่องเคียง 7 อย่าง 1 สำรับ ที่มีปริมาณเหมาะกับการรับประทาน 2 คน มีราคาอยู่ที่ 2,250 บาทต่อเซ็ท บรรจุลงในกล่องสีแดงพรีเมียมหรูหรา มาพร้อมกับ Voucher สำหรับรับประทานขนมหวานประจำวันภายในร้าน เหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญ หรือของฝากในโอกาสต่างๆ เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ราคาในการรับประทานข้าวแช่ชาววังตำรับรอยัล โอชา แบบ Dine in หรือรับประทานที่ร้าน อาจมีการเปลี่ยนแปลง และสำหรับสำรับข้าวแช่ชาววังแบบ Set Take Away จะต้องทำการสั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน และ Voucher ที่ได้รับภายในกล่องนั้นจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Royal Osha

5. รีวิวข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา จากนักชิมตัวจริง ทั้งแบบ Dine in และ Take away

Khao Chae

สำหรับเมนูข้าวแช่ชาววัง ต้นตำรับรอยัล โอชา ที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของทาง Royal Osha ที่วนกลับมาในช่วงฤดูร้อนเมื่อไหร่ ก็ได้รับเสียงตอบรับจากนักชิมอย่างล้นหลาม เพราะว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่เชฟวิชิต มุกุระได้ทำการสร้างสรรค์ขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นักชิมคนไหนได้สัมผัสแล้วก็จะต้องติดใจ และเฝ้ารอคอยให้เมนูกลับมาในทุกๆ ช่วงหน้าร้อนของปีเสมอ โดยรีวิวข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชาจากนักชิมตัวจริง ทั้งแบบ Dine in และ Take Away ที่ช่วยการันตีว่าช้าวแช่ชาววังเป็นเมนู Signature ของ Royal Osha ที่ไม่ควรพลาด มีดังนี้

gamsamsara

“หน้าร้อนก็มีดีนะคะ คือ จะได้ทานข้าวแช่ ที่ Royal Osha แก้มมาทุกปีเลย ทั้งอร่อย presentation ที่สวยงาม อลังการมากๆๆ พาใครมาทุกคนก็ติดใจ น้ำข้าวแช่ที่นี่ไม่ธรรมดา น้ำจาก Iceland ค่า ph8.8 ด้วย มีถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น หรือจะสั่ง Delivery ให้ใครเซทก็อลังสมเกียรติมากเช่นกันค่ะ แก้มใส่รูปไว้ให้ดูด้วย ฉ่ำ!!!”

limi_tata

“ร้อนกันขนาดนี้มาคลายร้อนด้วยเมนูตำรับรอยัล โอชา ข้าวแช่ Take away Set ที่มาในกล่องของขวัญสีแดง ภายในกล่องมีข้าวหอมมะลิเสาไห้ ในน้ำลอยดอกไม้ไทยสดชื่นมากๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 7 อย่างที่ปรุงรสมาอย่างดี หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขามคือดีมากกก ทานเองก็ชื่นใจ หรือจะมอบให้ผู้ใหญ่ก็สุขใจไม่แพ้กัน ไปลองสั่งข้าวแช่ Take away Set มาทานกันที่บ้านได้นะคะ”

foodie.munchies

“Royal Osha ร้านอาหารไทยสุดอลัง #ข้าวแช่สูตรชาววังแท้ๆ อร่อยหอมสดชื่น รับหน้าร้อนได้ดีมากๆค่ะ สงกรานต์นี้มาดับร้อนที่ร้าน Royal Osha คือเลิศมาก ตัวร้านสวยอลัง มีบันไดทองและแชนเดอเลียร์รูปชฎากลางร้าน และการันตีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin Guide 5 ปีซ้อนเลยค่ะ ทีเด็ดของร้านคือ เมนูข้าวแช่แบบชาววังแท้ๆ “ข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชา” ได้ร่วมรังสรรค์กับเชฟวิชิต มุกุระ โดยเสิร์ฟข้าวหอมมะลิเสาไห้ ในน้ำลอยดอกไม้ไทย อย่างชมนาด กระดังงา กุหลาบมอญ และมะลิ พร้อมเครื่องเคียงที่จัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน วัตถุดิบดีสดใหม่มี 7 อย่างตามตำรับชาววัง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน พร้อมกับผักแกะสลักสวยประณีต ตัวข้าวนุ่ม น้ำแร่เย็นสดชื่น ลงตัวกับเครื่องเคียงรสหวานเค็ม ดับร้อนได้เยี่ยมมากค่ะ ยังมีสำรับของหวานอย่างไอศกรีมและมะยงชิดอีกด้วยค่า ชอบมาก

นอกจากนี้เมนูอาหารไทยอื่นๆก็อร่อยมากๆค่ะ แนะนำต้มยำกุ้ง น้ำเข้มข้น กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่สด, แกงเขียวหวาน หอมเครื่องแกง เนื้อนุ่มอร่อย,และ เมี่ยงคำบัวหลวงฟัวกราส์ หวานเค็มเปรี้ยว หอมเครื่องเทศและดอกไม้ดีค่ะ”

porsajika

“ร้อนๆ แบบนี้ คนไทยทานข้าวแช่กันค่ะ ข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ หอมๆ เย็นๆ ทานคู่กับเครื่องเคียง และผักที่่ไล่จากเค็มไปหวาน อย่างลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และถั่วไชโป้วผัดหวาน ทุกอย่างอร่อยและเข้ากันมากๆค่ะเข้ากันลงตัว กลมกล่อม ใครยังไม่เปิดใจกับข้าวแช่ อยากให้ลองทานที่ @royaloshabangkok เชฟวิชิต มุกุระทำได้อร่อยกลมกล่อมมาก”

ploifone

“ปีใหม่ไทยปีนี้มาทานข้าวแช่ตำรับรอยัล โอชาของไทยกันที่ @royaloshabangkok กันค่า 🌟 บอกเลยว่าสมกับที่ได้มิชลินไกด์มากๆ วัตถุดิบทุกอย่างรสชาติอร่อย ทั้งลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และถั่วไชโป้วผัดหวาน ทานกับข้าวหอมมะลิเสาไห้ ทานแล้วสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อนๆในช่วงนี้ที่สุดเลยค่ะ”

bon_appetitbkk

“ซัมเมอร์ปีนี้ น้องได้มากินข้าวแช่ที่ Royal Ocha เป็นที่แรก🥰 ก่อนมาก็ทราบมาว่าข้าวแช่ที่นี่รังสรรค์โดยเชฟวิชิต มุกุระ ตื่นเต้นมากเพราะเคยทานอาหารที่เชฟทำแล้วประทับใจมากๆ ก่อนอื่นเลยการเสิร์ฟมาแบบอลังการ presentation ชนะเลิศ มี dry iced วูบวาบรู้สึกเย็นขึ้นมาทันตา!!! แต่ที่ยกให้เป็นเดอะเบสท์คือข้าว!! เชฟใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ เรียงเม็ดสวย หอมและนุ่มมาก ส่วนน้ำลอยดอยมะลิก็ไม่ธรรมดา เชฟใช้น้ำแร่ Iceland Spring pH8.8 ใส สดชื่น เย็นๆ ชื่นใจ เอาเป็นว่า ดีแบบแตกต่างสุดๆ ชอบมาก ส่วนเครื่องข้าวแช่ 7 อย่างคือจัดเต็มมากกก ทั้งลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม (อันนี้ไม่เหมือนที่ไหน), ปลายี่สนผัดหวานและหัวไชโป๊วผักหวาน รวมถึงผักที่แกะสลักมาอย่างงดงาม ปิดท้ายด้วยมะยงชิดลอยแก้วสุดสดชื่น อากาศร้อนมากจริงๆค่ะช่วงนี้ ได้ข้าวแช่เย็นๆสดชื่นคือมีความสุขจริงๆค่ะ🤍👏🏻”

rosesfood

“ขออกตัวก่อนว่าโรสไม่เคยทานข้าวแช่มาก่อนเลยค่ะ ครั้งนี้มาทาน “ข้าวแช่ชาววังต้นตำรับของเชฟวิชิต” ณ ร้านอาหาร Royal Osha ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ และนับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์มากๆ ทุกอย่างปราณีตและละเอียดมาก ส่วนตัวชอบลูกกะปิ กับหมูฝอยค่ะ ตัวหมูฝอยมีความเผ็ดนิดๆจากการนำไปผัดกับน้ำพริกมะขามทำให้รสชาติไม่หวานโดด ถึงจะเป็นของทอดแต่ทุกๆครั้งที่ทานเครื่องเคียงโรสจะทานข้าวแช่สลับกันไปมา เพื่อล้างปากเหมือนเป็นการเคลียร์รสชาติทำให้พร้อมที่จะทานคำถัดไป ทานเพลินมากๆค่ะ 🍚 ในส่วนของข้าวเป็นข้าวหอมมะลิเสาไห้ในน้ำลอยดอกไม้ไทย ซึ่งโรสว่ากลิ่นหอมพิเศษมากๆค่ะ และเป็นความหอมที่ไม่ฉุนไม่แรงเกินไป อีกหนึ่งความพิเศษคือน้ำที่ทางร้านใช้น้ำแร่ค่า pH 8.88 ซึ่งสามารถสกัดกลิ่นของดอกชมนาดให้ชัดขึ้น ทานเสร็จก็ปิดท้ายด้วยขนมหวานมะยงชิดลอยแก้วกับไอศครีมโบราณรสกระเจี๊ยบกับมะพร้าวเย็นสดชื่น”

hungrymoju

“ข้าวแช่ร้านประจำที่บ้าน ทานทุกปี สะดวก สวย และอร่อยค่ะ @royaloshabangkok Presentation เลิศตั้งแต่ต้นจนจบ ร้านได้ michelin ด้วยค่ะ พาคุณแม่มาเดตได้ รับรองถูกใจ ปีนี้เปิดด้วยมะยงชิด sparkling สดชื่นเปรี้ยวหวาน พวกเราชอบตัวข้าวมาก เรียงตัวเป็นเม็ดๆ ไม่แข็งแห้งเหมือนบางร้าน(แม่เราชอบมากกกกกก) บรรดาเครื่อง ทอดมาดีทุกอย่าง ไม่อมน้ำมันเลยค่ะ กรอบทุกอัน เราชอบไข่เค็มแดงชุบแป้งทอด มีความนัว ไม่ค่อยเคยทาน กับหอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง หวานๆเค็มๆ แม่เราชอบพริกหยวกสอดไส้บอกว่าหมูดีมากไม่เหมือนที่อื่น กับปลายี่สน ขนมอัน complementary อร่อยมากๆๆๆๆๆไอติมแบบรสจัดจ้าน แบบกินละตื่นเลยเราชอบมาก เป็นกระเจี๊ยบ กับสัปปะรดพริกเกลือ ชอบมากค่ะ”

foodtrackinbkk

“@royaloshabangkok #ที่สุดของข้าวแช่ !! จากใจคนที่ไม่เคยทานข้าวแช่แล้วอร่อย แต่ที่นี้คือของจริง อร่อยแบบร้องว้าว !! 👍🏻✨ การันตีด้วยร้านระดับ fine dining ที่ได้รับมิเชอลินไกด์ถึง 5 ปีซ้อน 👏🏻 คือเค้ามี instruction ให้ด้วยว่าต้องทานอะไรคู่กับอะไรถึงจะอร่อย ทานตามนั้นแล้วไม่แปลกใจเลยครับทำไมเค้าถึงได้มิเชอลิน 🤩 อร่อยจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลองครับ แต่ละเมนูคือพิถีพิถัน  เป็นรสชาติที่ละเอียดมากๆ รู้เลยว่าเซฟผ่านกระบวนความคิดมาเป็นอย่างดี”

oatkomkrich

“ถึงฤดูข้าวแช่ทีไร ต้องนึกถึงข้าวแช่ของ @royaloshabangkok เป็นร้านแรกทุกที ✨ จุดเด่นของข้าวแช่ที่นี่ก็คือ น้ำลอยดอกไม้ที่หอมมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงทั้ง 7 อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิ, หอมแดงสอดไส้หน้าปลาแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้ง, ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยผัดน้ำพริกมะขาม, ปลายี่สนผัดหวาน และหัวไชโป๊วผัดหวาน กินคู่กับผักแนม

ข้อดีของที่ร้านคือจะให้ใบเมนูมาก่อนเริ่มคอร์ส โดยจะบอกว่าเมนูไหนต้องกินแนมกับผักอะไรถึงจะเข้ากัน ทำให้อรรถรสในการกินเพิ่มขึ้น ส่วนขนมก็เสิร์ฟมาเป็นมะยงชิดลอยแก้ว เป็นการปิดคอร์สได้แบบสดชื่นสุดๆ 🤩”

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha

6. แนะนำเมนูอื่นๆ ของรอยัล โอชา ที่นักชิมแวะมาชิมข้าวแช่ชาววังแล้วต้องห้ามพลาด!

นอกจากเมนูข้าวแช่ชาววัง ต้นตำรับรอยัล โอชา ก็ยังมีเมนูต้นตำรับอื่นๆ จาก Royal Osha ที่เชฟวิชิต มุกุระ ได้สรรค์สร้างขึ้นมา เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงความเป็นไทยแท้ตามตำรับของอาหารไทยโบราณ ในรสชาติที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยเมนูอื่นๆ ของรอยัล โอชา ที่นักชิมแวะมาชิมข้าวแช่ชาววังแล้วต้องห้ามพลาด มีดังนี้

  • ขนมจีนตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูอาหารต้นตำรับที่เชฟวิชิต มุกุระได้ทำการยกระดับขนมจีนให้เป็นเมนู Fine Dining โดยมีให้นักชิมได้เลือกรับประทาน 3 แบบ ได้แก่ ขนมจีนน้ำพริก ขนมจีนน้ำยาป่า และขนมจีนซาวน้ำแจงลอน ที่เส้นขนมจีนเป็นเส้นสด เหนียว นุ่ม มาพร้อมกับเครื่องแกงที่มีความถึงเครื่อง ผสมผสานเข้ากันกับกะทิหอม มัน และเข้มข้น และเมื่อรับประทานเข้าด้วยกันก็จะทำให้นักชิมได้ลิ้มลองขนมจีนที่มีความหนึบหนับ เหนียวนุ่ม เข้มข้น ที่บ่งบอกได้ถึงวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมในทุกคำ
  • ข้าวยำตำรับรอยัล โอชา เป็นเมนูอาหารต้นตำรับที่เชฟวิชิต มุกุระได้ทำการผสมผสานวัตถุดิบอย่างหลากหลายเข้าด้วยกัน โดยเป็นการนำเมนูข้าวยำ ที่เป็นเมนูอาหารอัตลักษณ์ของทางภาคใต้ แต่เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีอย่างข้าวก่ำ จากจังหวัดเชียงราย ผสมผสานเข้ากันกับสมุนไพร และวัตถุดิบพรีเมียมอื่นๆ เช่น งาขี้ม่อน ปลาข้าวสาร ลูกเดือย ส้มโอ มะม่วง แครอต ถั่วพูล ถั่วฝักยาว หอมแดง ตะไคร้ และใบมะกรูด เป็นต้น พร้อมกับคลุกเคล้าด้วยน้ำยำสูตรพิเศษของรอยัล โอชา ปิดท้ายด้วยการบีบมะนาวเล็กน้อย เพื่อทำให้ข้าวยำตำรับรอยัล โอชานั้นมีความหอมของส่วนผสมต่างๆ อย่างชัดเจน อร่อย เข้มข้นถึงใจ และกลมกล่อมเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ เมนูข้าวแช่ชาววัง และเมนูอาหารต้นตำรับอื่นๆ ของ Royal Osha อาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือวางจำหน่ายในเพียงบางช่วงเท่านั้น ดังนั้น นักชิมคนไหนที่สนใจอยากจะลิ้มรสความเป็นไทย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามการอัปเดตได้ที่ Facebook : Royal Osha Bangkok

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Our Menu ของ Royal Osha

7. สั่งซื้อ หรือสำรองที่นั่ง เพื่อสัมผัสความอร่อยของข้าวแช่ชาววัง ที่ รอยัล โอชา ได้เลย! ที่นี่

Khao Chae

สำหรับนักชิมที่อยากจะสัมผัสความอร่อยของข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา ที่ Royal Osha ในช่วงฤดูร้อนนี้ ก็สามารถลิ้มลองความหอมชื่นใจ สดชื่น และอิ่มอร่อยไปกับเมนูข้าวแช่ชาววังที่ช่วยคลายร้อนได้ทั้งแบบ Dine in และแบบ Take Away ที่ตอบโจทย์ในการดับร้อนในช่วงที่อากาศของประเทศไทยมีอุณหภูมิค่อนข้างสูงได้เป็นอย่างดี โดยนักชิมที่ต้องการสั่งซื้อ หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าในการรับประทานข้าวแช่ชาววังต้นตำรับรอยัล โอชา หรือรับประทานเมนูอาหาร Fine Dining ที่เป็น Set Menu ของคิมหันต์ฤดู หรือฤดูร้อนแบบจัดเต็ม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สั่งซื้อ หรือสำรองที่นั่ง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้

  • Line Official : @royalosha
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-256-6555 หรือ 085-489-0571
  • Facebook : Royal Osha Bangkok
  • เว็บไซต์ : www.royalosha.com 

 

คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha