เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
การรับประทานอาหารแบบ “Chef Table” เป็นสไตล์การรับประทานอาหารที่นักชิมหลายๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมีขั้นตอนในการปรุงอาหาร และการรับประทานที่ไม่เหมือนใคร และยังมีอาหารหลากหลายสัญชาติที่นิยมใช้สไตล์ Chef Table ให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันอย่างหลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารตะวันตก หรือจะเป็นอาหารไทย ก็มีให้นักชิมได้ลิ้มลองเช่นกัน อย่างที่ Royal Osha ก็เป็น 1 ในร้าน Chef Table อาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลชั้นดี และผ่านการรังสรรค์จากเชฟอาหารไทยมือทอง จนได้เมนูอาหารไทยสไตล์ Chef Table ที่มีเอกลักษณ์ และเสน่ห์ของความเป็นไทยอยู่ในทุกสัมผัส โดยในบทความนี้ทาง Royal Osha ก็จะพานักชิมไปทำความรู้จักกับร้าน Chef Table กันมากขึ้นว่าคืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมของนักชิมอย่างแพร่หลาย และมีความแตกต่างจาก Fine Dining และ Omakase อย่างไร พร้อมแนะนำเมนูคอร์ส Chef Table จาก Royal Osha ที่นักชิมอาหารไทยตัวจริงต้องห้ามพลาด
Chef Table มีความหมายตรงตัวที่ว่า “โต๊ะของเชฟ” คือ การที่นักชิมนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเห็นขั้นตอนการทำอาหารของเชฟได้อย่างชัดเจน โดยจะเป็นโต๊ะ หรือเคาท์เตอร์ที่จะหันหน้าเข้าพื้นที่ครัวของเชฟ ซึ่งแต่ละเมนูที่นักชิมจะได้รับประทานนั้นก็จะเป็นเมนูที่จะรังสรร์คออกมาแบบตามใจเชฟ ที่จะมีเรื่องราว มีการคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างพิถีพิถัน มีการปรุงอย่างประณีต และละเอียดละออ เพื่อให้ได้เมนูที่มีวัตถุดิบที่ดีที่สุด รสชาติดีที่สุด และสดใหม่ที่สุด และค่อยๆ ทำการเสิร์ฟทีละจาน รวมถึงนำเสนอตามลำดับที่ได้วางไว้ เพื่อให้ได้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่ดีที่สุด และเปิดประสบการณ์ในการสัมผัสศิลปะอีกแขนงหนึ่งผ่านการรับประทานอาหาร และการรับประทานอาหารในสไตล์ Chef Table นั้นก็ยังมีอาหารสัญชาติต่างๆ ให้นักชิมได้เลือกรับประทานกันอย่างหลากหลาย เช่น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก หรืออาหารจีน เป็นต้น เพราะว่าการทำอาหารร้าน Chef Table ไม่ได้มีการจำกัดสไตล์ หรือประเภทของอาหาร ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีร้าน Chef Table เกิดขึ้นอย่างมากมาย หลากหลายสไตล์ และได้รับความนิยมจากเหล่านักชิมอย่างแพร่หลายมากขึ้น
การรับประทานอาหารในร้าน Chef Table, Fine Dining และ Omakase เป็นสไตล์การรับประทานอาหารที่ในแต่ละแบบนั้นต่างได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ว่านักชิมหลายๆ คนก็อาจจะสงสัยว่าการรับประทานอาหารทั้ง 3 สไตล์นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะได้เลือกรับประทานให้ตรงกับสไตล์ของตัวเองมากที่สุด โดยการรับประทานแบบ Chef Table นั้นก็จะมีจุดเด่น และเอกลักษณ์ที่กล่าวมาในหัวข้อข้างต้น และในส่วนของ Fine Dining และ Omakase ก็จะมีรายละเอียด และความแตกต่างกัน ดังนี้
สำหรับนักชิมที่อยากจะสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยแท้จาก Royal Osha ที่เป็นร้าน Chef Table อาหารไทยร่วมสมัย ที่ได้มีการเลือกสรรวัตถุดิบมาอย่างพิถีพิถัน และนำเสนอความเป็นไทยจากเชฟอาหารไทยมากประสบการณ์อย่างเชฟวิชิต มุกุระ จนได้เมนูคอร์สที่มีเมนูอย่างหลากหลายให้นักชิมได้ลิ้มลองกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างเต็มที่ ดังนี้
นอกจากเมนูที่อยู่ในคอร์สเมนูแล้ว ก็ยังมีเมนูอาหารไทยแบบ A La Carte ให้นักชิมได้เลือกรับประทานอีกกว่า 50 เมนู และสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้า เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยที่ร้าน Chef Table อาหารไทยร่วมสมัยอย่าง Royal Osha ได้เลยที่ Line Official : @royalosha หรือคลิก ที่นี่
สำหรับนักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารไทย และอยากจะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยร่วมสมัยในสไตล์ร้าน Chef Table ก็สามารถแวะมาลิ้มลองได้เลยที่ Royal Osha ร้านอาหารไทยแท้ที่ทุกเมนูรังสรรค์มาจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน และผ่านการปรุงจากเชฟมากฝีมืออย่างเชฟวิชิต มุกุระ ที่ได้ดึงเอกลักษณ์ของวัตถุดิบ และถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านไปในอาหารทุกจาน เพื่อให้นักชิมได้สัมผัสถึงเสน่ห์ความเป็นไทยได้อย่างเต็มเปี่ยมในทุกคำที่ได้สัมผัส เข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างอร่อยกลมกล่อม ถูกปากนักชิมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มี Location ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย เหมาะกับการรับประทานได้ในทุกโอกาส ดังนั้น นักชิมที่อยากจะสัมผัสการรับประทานอาหารไทยในร้าน Chef Table ในสไตล์ร่วมสมัย สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้
คลิก ที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้า Reservation ของ Royal Osha